สืบค้นงานวิจัย
การปรับปรุงคุณภาพดินกระจายตัวลำตะคองโดยใช้ซีเมนต์
สิปปวุฒิ ถาวรานันต์ - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
ชื่อเรื่อง: การปรับปรุงคุณภาพดินกระจายตัวลำตะคองโดยใช้ซีเมนต์
ชื่อเรื่อง (EN): Improvement of Lumtakhong Dispersive Soil by Cement
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สิปปวุฒิ ถาวรานันต์
บทคัดย่อ: นการศึกษาครั้งนี้ได้ทำการทดลองปรับปรุงคุณภาพดินกระจายตัวลำตะคองโดยการ ผลสมรวมกับซีเมนต์ เพื่อศึกษาถึงคุณสมบัติทางด้านการกระจายตัว คุณสมบัติทางกายภาพ คุณสมบัติทางเคมี และคุณสมบัติทางด้านวิศวกรรม โดยทำการทดสอบในห้องปฏิบัติการ โดย ใช้ปริมาณซีเมนต์ 1,2,3,4, และ 5 เปอร์เซ็นต์ ต่อนำหนักดินแห้ง คุณสมบัติทางด้านการกระจายตัว ก่อนการปรับปรุงคุณภาพ จากการทดสอบ Double Hydrometer Test ให้ระดับการกระจายตัวเท่ากับ 65.44 เปอร์เซ็นต์ และ Pinhole Test ให้ผลการ จำแนกเป็น ND4 (Moderately-Dispersion) ผลการทดสอบสอดคล้องกันคือเป็นดินที่มีระดับการ กระจายตัวปานกลางง เมื่อทำการปรับปรุงคุณภาพ ผลการทดสอบ Double Hydrometer พบว่าเมื่อ ปริมาณซีเมนต์เท่ากับ 3 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป ดีกรีของการกระจายตัวมีค่าเท่ากับศูนย์ ส่วน Pinhole Test ให้ผลการทดสอบโดยรวมจำแนกได้เป็น ND2 (Non - Dispersion) ซึ่งอยู่ในระดับที่ไม่ กระจาย และให้ผลดีเมื่อปริมาณซีเมนต์เท่ากับ 3 เปอร์เซ็นต์ คุณสมบัติทางกายภาพ ค่าขีดจำกัดความเหลว (Liquid Limit) จะมีแนวโน้มลดลงเล็ก น้อยที่ปริมาณเท่ากับ 1 ถึง 2 เปอร์เซ็นต์ และเริ่มมีอัตราการลดลงเพิ่มขึ้นเมื่อปริมาณซีเมนต์ เท่ากับ 3 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป ค่าขีดจำกัดความเหนียว (Plastic Limit) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เมื่อปริมาณซีเมนต์เพิ่มขึ้น ค่าดัชนีความเหนียวมีแนวโน้มลดลงในช่วงปริมาณซีเมนต์ 1 ถึง 3 เปอร์เซ็นต์ และมีแนวโน้มลดลงสูงเมื่อปริมาณซีเมนต์เพิ่มขึ้นเป้น 4 และ 5 เปอร์เซ็นต์ คุณสมบัติทางด้านเคมี พบว่าดินตัวอย่างมีปริมาณโซเดียมอยู่ 87.26 เปอร์เซ็นต์ โซเดียมที่แลกเปลี่ยนได้ (Exchangeable Soduim Percentage , ESP) มีค่าเท่ากับ 7.38 เปอร์เซ็นต์ อัตราการดูดซับโซเดียม (Sodium Adsorption Ratio , SAR) มีค่าเท่ากับ 6.92 ค่าความเป็นกรด ด่างของดิน (pH) มีค่าเท่ากับ 7.6 ซึ่งค่าที่กล่าวมาข้างต้นเทียบกับผลการทดสอบทางเคมี โดย ฝ่ายดินด้านวิทยาศาสตร์ กรมชลประทาน ถือว่าดินตัวอย่างเป็นดินกระจายตัว คุณสมบัติทางด้านวิศวกรรม พบว่าค่าความหนักแน่นแห้งสูงสุดมีแนวโน้มลดลงเมื่อ ปริมาณซีเมนต์เพิ่มขึ้น โดยค่าแปรผันอยู่ในช่วง 1.97 -2.01 ตันต่อตารางเมตร และค่าปริมาณ ความชื้นพอดี มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเมื่อปริมาณซีเมนต์เพิ่มขึ้นโดยค่าแปรผันอยู่ในช่วง 13.95-12.45 เปอร์เซ็นต์ ค่าอัตราส่วนแรงธารคาลิฟอร์เนียมีค่าสูงขึ้น เมื่อปริมาณซีเมนต์เพิ่มสุงขึ้นและสามารถ ลดการพองตัวได้มากเมื่อใช้ปริมาณซีเมนต์เพียง 1 เปอร์เซ็นต์ และอัตราการพองตัวมีแนวโน้ม ลดลงเมื่อปริมาณซีเมนต์เพิ่มขึ้น และค่ากำลังรับแรงอัดทิศทางเดียวพบว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเมื่อ ปริมาณซีเมนต์เพิ่มขึ้น และเมื่ออายุการบ่มนานขึ้น โดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกอัตราส่วนผสม กำลังรับแรงอัดทิศทางเดียวจะมีค่าสูงสุดที่ปริมาณซีเมนต์เท่ากับ 5 เปอร์เซ็นต์ที่อายุการบ่ม 28 วัน การวิเคราะห์โครงสร้างระดับจุลภาคของดินกระจายตัวโดยภาพถ่าย Scanning Electron Microscope (SEM) ที่อายุการบ่ม 14 วัน ใช้กำลังขยายภาพ 1000 เท่า พบว่า อนุภาคโดยเฉลี่ย ของเม็ดดินกระจายจะมีอนุภาคเล็กลงเมื่อปริมาณซีเมนต์เพิ่มขึ้น และระยะห่างของช่องว่าง ระหว่างเม็ดดิน (Pore Spaces) จะลดลงเมื่อปริมาณซีเมนต์เพิ่มขึ้น รูปร่างและโครงสร้างโดยรวม ของตัวอย่างดิน จะมีรูปร่างที่มีลักษณะเป็นเหลี่ยมและมีการยึดเกาะตัวกันมากขึ้นเมื่อปริมาณ ซีเมนต์เพิ่มขึ้น
บทคัดย่อ (EN): This special study present the results of laboratory experimental studied carried on cement treated lumtakhong dispersive soil. Several characteristics were assessed. These include dispersive characteristics, physical characteristics, chemical characteristics, and engineering characteristics. Dry soil was mixed with cement of 1, 2, 3, 4 and 5 percent by weight of dry soil. Before improvement, the degree of dispersive from Double Hydrometer test is 65.44 percent which the soil was categorized as ND4 (Moderately Dispersion) by Pinhole test. therefore, this soil sample is medium dispersive. After improvement, the degree of dispersion from Double Hydrometer test with cement content more than 3 percent is zero, which the treated soil was categorized as ND2 (Non - Dispersion) by Pinhole test. It can be concluded that cement content at 3 percent give the best result. With cement content of 1 to 2 percent, liquid limit slightly decreased, In addition, with cement content of 3 percent, liquid limit decreased more rapidly than that of cement content of 1 to 2 percent. Plastic limit increased as cement content increased. Plasticity index slightly decrease with cement content of 1 to 3 percent, and decrease rapidly as cement content higher then 3 percent. For chemical characteristics, The result several that Percent Sodium (Na) is 87.26 percent, Exchangeable Sodium Percentage (ESP) is 7.38 percent, Sodium Adsorption Ratio (SAR) is 6.92 and pH is 7.6. From these results, this soil can be namely as dispersive soil. For engineering characteristics, maximum dry density (MDD) decreased as cement content increased. The maximum dry density ranged from 1.97 to 2.01 t/m3. The optimum moisture content (OMC) increased in the range of 13.95 to 12.45 percent. The california bearing ratio (CBR) increased as cement content increased. The swelling decreased as cement content decreased. The trend of the unconfined compression strength (UCS) increased as curing time increased for every mixtures. With cement content of 5 percent, unconfined compression strength is highest at 28 days of curing time. At 14 days curing time, the microstructure analysis of dispersive soil from Scanning Electron Microscope (SEM) at the magnitude of 1,000 times. showed that the average particle size of dispersive soil decreased with cement content increased. The pore spaces of soil fabric decreased as cement content increased. General, the angular shape of soil sample was observed. Moreover, the cohesion of treated soil increased as cement content increased.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=54&RecId=12261&obj_id=35351
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
คำสำคัญ: การปรับปรุงคุณภาพดินกระจายตัว
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
รายละเอียด: This special study present the results of laboratory experimental studied carried on cement treated lumtakhong dispersive soil. Several characteristics were assessed. These include dispersive characteristics, physical characteristics, chemical characteristics, and engineering characteristics. Dry soil was mixed with cement of 1, 2, 3, 4 and 5 percent by weight of dry soil. Before improvement, the degree of dispersive from Double Hydrometer test is 65.44 percent which the soil was categorized as ND4 (Moderately Dispersion) by Pinhole test. therefore, this soil sample is medium dispersive. After improvement, the degree of dispersion from Double Hydrometer test with cement content more than 3 percent is zero, which the treated soil was categorized as ND2 (Non - Dispersion) by Pinhole test. It can be concluded that cement content at 3 percent give the best result. With cement content of 1 to 2 percent, liquid limit slightly decreased, In addition, with cement content of 3 percent, liquid limit decreased more rapidly than that of cement content of 1 to 2 percent. Plastic limit increased as cement content increased. Plasticity index slightly decrease with cement content of 1 to 3 percent, and decrease rapidly as cement content higher then 3 percent. For chemical characteristics, The result several that Percent Sodium (Na) is 87.26 percent, Exchangeable Sodium Percentage (ESP) is 7.38 percent, Sodium Adsorption Ratio (SAR) is 6.92 and pH is 7.6. From these results, this soil can be namely as dispersive soil. For engineering characteristics, maximum dry density (MDD) decreased as cement content increased. The maximum dry density ranged from 1.97 to 2.01 t/m3. The optimum moisture content (OMC) increased in the range of 13.95 to 12.45 percent. The california bearing ratio (CBR) increased as cement content increased. The swelling decreased as cement content decreased. The trend of the unconfined compression strength (UCS) increased as curing time increased for every mixtures. With cement content of 5 percent, unconfined compression strength is highest at 28 days of curing time. At 14 days curing time, the microstructure analysis of dispersive soil from Scanning Electron Microscope (SEM) at the magnitude of 1,000 times. showed that the average particle size of dispersive soil decreased with cement content increased. The pore spaces of soil fabric decreased as cement content increased. General, the angular shape of soil sample was observed. Moreover, the cohesion of treated soil increased as cement content increased.
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

สิปปวุฒิ ถาวรานันต์. "การปรับปรุงคุณภาพดินกระจายตัวลำตะคองโดยใช้ซีเมนต์Improvement of Lumtakhong Dispersive Soil by Cement". มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี. 2544

สิปปวุฒิ ถาวรานันต์. "การปรับปรุงคุณภาพดินกระจายตัวลำตะคองโดยใช้ซีเมนต์Improvement of Lumtakhong Dispersive Soil by Cement". มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี. 2544. Print.



TARR Wordcloud:
การปรับปรุงคุณภาพดินกระจายตัวลำตะคองโดยใช้ซีเมนต์
สิปปวุฒิ ถาวรานันต์
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
2544
การปรับปรุงคุณภาพดินกระจายตัวลำตะคองโดยใช้ปูนขาว การปรับปรุงคุณภาพดินกระจายตัวของดินลำตะคองโดยใช้ซีเมนต์ที่ผสมสารผสมเพิ่ม ผล ของการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินและรูปแบบการใช้ที่ดินต่อคุณภาพดิน กรณีศึกษา : หมู่บ้านละเบ้ายา ตำบลสะเนียน อำเภอเมือง จังหวัดน่าน การปรับปรุงคุณภาพดินเพื่อใช้ในงานฐานรากตื้นด้วยวิธีดินผสมซีเมนต์ การเปลี่ยนแปลงคุณภาพและกลิ่นหอมระเหยในละมุดพันธุ์มาเลย์ตัดแต่งพร้อมบริโภค คุณภาพซาก คุณภาพเนื้อ และผลตอบแทนทางเศรษฐกิจของโคนมคัดทิ้ง การอบแห้งกากถั่วเหลืองโดยใช้อนุภาคดูดซับในเจตสเปาท์เตดเบด อิทธิพลของอาชีพที่มีต่อการบริโภคดินของคนไทยอายุ 30-50 ปี ในจังหวัดพัทลุง ความคงทนของดินซีเมนต์ ศักยภาพการสร้างกรดและการชะละลายโลหะจากดินและถ่านหินของเหมืองแร่ลิกไนต์
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair