สืบค้นงานวิจัย
การประยุกต์ใช้เมี่ยงหมักและน้ำเมี่ยงให้เกิดประโยชน์ทางการแพทย์และเภสัชกรรม
ธนากร ลัทธิ์ถีระสุวรรณ - มหาวิทยาลัยแม่โจ้
ชื่อเรื่อง: การประยุกต์ใช้เมี่ยงหมักและน้ำเมี่ยงให้เกิดประโยชน์ทางการแพทย์และเภสัชกรรม
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ธนากร ลัทธิ์ถีระสุวรรณ
บทคัดย่อ: จากการที่รัฐบาลได้มีนโยบายลดการใช้สารเคมีและยาปฎิชีวนะในผลิตภัณฑ์ชนิดต่าง ๆ จึงได้มีการวิจัยและพัฒนาชีวภัณฑ์จากใบชาอัสสัมที่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระและสารต้านจุลชีพหลายๆชนิด(Antimicrobial activities) จากการศึกษาวิจัยชาอัสสัมทำให้ทราบว่าสารเคมีที่อยู่ในใบชามีมากกว่า 500 ชนิด โดยสารกลุ่มที่มีผลต่อการทำงานของร่างกายมนุษย์และมีผลต่อเรื่องสุขภาพของมนุษย์ ได้แก่ สารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ กรดอะมิโน วิตามิน คาเฟอีนและน้ำตาลหลายโมเลกุล (Polysaccharides) ชาพันธุ์อัสสัม มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Camellia sinensis var. assamica สามารถเรียกได้หลายชื่อ เช่น ชาอัสสัม ชาพื้นเมือง ชาป่า หรือ ชาเมี่ยง เป็นต้น ชาอัสสัมเป็นพันธุ์ชาที่ใบใหญ่กว่าชาพันธุ์จีนเป็นพันธุ์ที่เจริญเติบโตได้ดีในป่าเขตร้อนชื้นที่มีร่มไม้และแสงแดดพอประมาณ พบมากบนเขตพื้นที่สูงแถบภาคเหนือของไทยในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย น่าน ลำปางและแพร่ ชาอัสสัมเจริญเติบโตเร็ว ทนแล้ง ปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ดี พื้นที่ปลูกที่เหมาะสมตั้งแต่ 100 - 1,000 เมตร ชาอัสสัมมีคาเฟอีนมากกว่าชาจีน ใบชาอัสสัมมีสารประกอบ ฟลาโวนอยด์ประเภท flavonols คือ Quercetin, Kaempferol และ Myricetin ซึ่งเป็นสารที่ทำให้ใบชาอัสสัมมีรสฝาดและขม นอกจากนั้นในใบชายังมีสารประกอบที่เรียกว่า “คาเทชิน (Catechins)” ซึ่งเป็นสารประกอบฟลาโวนอยด์กลุ่ม ฟลาโวนอล (Flavonols) ในใบชาอัสสัมจะมี Catechins อยู่ประมาณร้อยละ 20-30 ของน้ำหนักแห้ง (Balentine et al., 1997) Catechins ที่สำคัญที่มีอยู่ในใบชาอัสสัม คือ (-)-epigallocatechin gallate (EGCG), (-)–epigallo catechin (ECG), (-) epicatechin gallate (EG) และ (-)-epicatechin (EC) (สายลมและคณะ 2552) นอกจากนี้ ใบชาอัสสัมยังประกอบไปด้วยธาตุอาหารในกลุ่มที่ร่างกายต้องการในปริมาณที่ต่ำๆ หลายชนิด ได้แก่ ฟลูออรีน ทองแดง แมงกานีส นิเกิล อัลลัม โพแตสเซียม สังกะสี ซีลีเนียม แมกนีเซียม แคลเซียม โซเดียม เป็นต้น อีกทั้งยังพบว่าในใบชาอัสสัมมีปริมาณวิตามินซี สูง โดยพบว่าในชาเขียว 100 กรัม จะมีวิตามินซีสูงถึง 100 มิลลิกรัมชาอัสสัม จัดเป็นพืชที่มีปริมาณฟลูออรีนสูง (Fluorine bioconcentrating plant) โดยปริมาณฟลูออรีนในใบแก่ของชาอัสสัมมีมากถึงหลายร้อยส่วนในล้าน (Part Per Million: ppm) ด้วยเหตุนี้ได้มีการนำชามาศึกษาผลต่อการเกิดฟันผุ พบว่า การดื่มชาทำให้อัตราฟันผุลดลง กรดอะมิโนในชานั้นพบราว 25 ชนิด ในจำนวนนี้ ธีอานีน (theanine) จัดเป็นกรดอะมิโนที่พบมากที่สุดโดยพบมากกว่าครึ่งหนึ่งของปริมาณกรดอะมิโนรวมทั้งหมดและสารสำคัญที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพมากที่สุด คือ สารในกลุ่มโพลีฟีนอล (Polyphenols) ซึ่งมีปริมาณที่แตกต่างกันไปในแต่ละชนิดของชา โดยพบว่าในชาเขียวมีปริมาณสูงที่สุดและในบรรดาโพลีฟีนอลทั้งหมดนั้น คาเทชิน (Catechins) มีความสำคัญต่อการแสดงฤทธิ์ทางเภสัชวิทยามากที่สุด โดยฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาที่เด่นที่สุด ได้แก่ ฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ ตามธรรมชาติสารสำคัญที่มีอยู่ในใบชาอัสสัมจะเป็นสารกลุ่มฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) โดยสารที่มีบทบาทสำคัญด้านฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา คือ คาเทชิน (Catechins) นอกจากนี้ยังมีสารกลุ่ม แซนทีนอัลคาลอยด์ (Xanthine alkaloids) ได้แก่ คาเฟอีน (Caffeine) ธีโอฟิลลีน (Theophylline) เป็นต้น ซึ่งสารกลุ่มแซนทีนอัลคาลอยด์จะเป็นสารที่ออกฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของระบบประสาทส่วนกลางทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าโดยเฉพาะในชาเขียวมีปริมาณสารคาเทชินในปริมาณสูงและมีสารธีอาฟลาวิน (Theaflavins) และธีอารูบีจิน (Thearubigins) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการเปลี่ยนรูปของคาเทชินโดยเอนไซม์ต่างๆในปริมาณที่ต่ำดังนั้น ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของชาแต่ละชนิดชนิดจึงต่างกันอย่างมากดังนั้น คณะผู้วิจัย จึงเล็งเห็นความสำคัญของชาอัสสัมโดยศึกษาฤทธิ์ต้านแบคทีเรียก่อโรคแผลเรื้อรังและฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระโดยเตรียมผลิตภัณฑ์ชาอัสสัมเป็นตำรับผสมที่มีคุณสมบัติที่ครอบคลุมกับการลดแบคทีเรียสาเหตุแผลติดเชื้อ ผลิตภัณฑ์สำหรับทาภายนอกที่มีประโยชน์ต่อผิวหนังหรือผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ รวมถึงการศึกษาองค์ประกอบทางเคมีของใบชาอัสสัมเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ชาอัสสัมได้ในอนาคต
บทคัดย่อ (EN): No information found from agency.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยแม่โจ้
คำสำคัญ: เภสัชกรรม
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยแม่โจ้
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การประยุกต์ใช้เมี่ยงหมักและน้ำเมี่ยงให้เกิดประโยชน์ทางการแพทย์และเภสัชกรรม
มหาวิทยาลัยแม่โจ้
2562
การประยุกต์ใช้เมี่ยงหมัก และน้ำเมี่ยงให้เกิดประโยชน์ทางการแพทย์และเภสัชกรรม การแยกจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ทางการแพทย์จากข้าวบูดเพื่อประโยชน์ในการนำกลับมาใช้ทางแพทย์แผนไทย การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ encapsulated catechin จากเมี่ยงหมัก น้ำสมุนไพรดื่มดีมีประโยชน์ การลดการปนเปื้อน Enterococci, Coliform และ Escherichia coli ในน้ำใช้และน้ำแข็งของสถานแปรรูปสัตว์น้ำเบื้องต้นในจังหวัดสงขลา การสกัดน้ามันยูคาลิปตัส ด้วยเทคนิคการกลั่นแบบเทอร์โมไซฟอน เพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์แผนไทย ประโยชน์และโทษของการบริโภคนํ้าส้มสายชูหมักแอปเปิ้ลไซเดอร์ เมตาจีโนมิคส์ของจุลินทรีย์ดินเพื่อการประยุกต์ใช้ทางการเกษตรอุตสาหกรรม และการแพทย์ การใช้กากมันสำปะหลังจากการผลิตเอทานอลหมักยีสต์ เพื่อเป็นอาหารในโครีดนม การศึกษาสารออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระจากเมี่ยง ในเขตชุมชนต้นแม่น้ำลาว อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก