สืบค้นงานวิจัย
การเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบชีวเคมีในน้ำยางต่อระบบกรีดและผลผลิตยางพารา
พิศมัย จันทุมา - การยางแห่งประเทศไทย
ชื่อเรื่อง: การเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบชีวเคมีในน้ำยางต่อระบบกรีดและผลผลิตยางพารา
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: พิศมัย จันทุมา
บทคัดย่อ: การเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบชีวเคมีในน้ำยางต่อระบบกรีดและผลผลิตยางพารา แบ่งการดำเนินงานเป็น 3 กิจกรรม ดังนี้ กิจกรรมย่อยที่ 1 ศึกษาศักยภาพการให้ผลผลิตของพันธุ์ยางแต่ละพันธุ์ เนื่องจากระบบกรีด กิจกรรมย่อยที่ 2 ศึกษาองค์ประกอบทางชีวเคมีของน้ำยางของพันธุ์ยางแต่ละพันธุ์เนื่องจากระบบกรีด กิจกรรมย่อยที่ 3 การสำรวจการผลของการกรีดยางต่อการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบทางชีวเคมีของน้ำยางในแปลงเกษตรกร จ. ฉะเชิงเทรา กิจกรรมย่อยที่ 1 และ 2 ทดลองที่ศูนย์วิจัยยางฉะเชิงเทรา จ. ฉะเชิงเทรา ประกอบด้วยพันธุ์ PB 235, RRIM 600, GT 1, RRIC 110, PR 261 และ BPM 24 และที่ศูนย์บริการวิชาการด้านพืชและปัจจัยการผลิตบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ ได้แก่ พันธุ์ RRIM 600, GT 1, BPM 24 และ PR 255 วางแผนการทดลองแบบ RCB จำนวน 15 ซ้ำ แต่ละพันธุ์เป็น 1 การทดลอง วิธีการทดลองเหมือนกันทั้งหมด ประกอบด้วย 6 วิธีการ 1) ต้นยางที่ไม่เปิดกรีด (วิธีการเปรียบเทียบการเจริญเติบโต) วิธีการที่ 2 – 6 กรีดยางร่วมกับการใช้สารเคมีเร่งน้ำยาง จำนวน 0 , 2 , 4 , 8 และ 12 ครั้ง/ปี ทุกวิธีการใช้ระบบกรีด 1/2S d/3 6d/7 ผลการทดลองพบว่า สภาพแวดล้อมต่างกันไม่มีผลต่อการแสดงออกของขบวนการเมตตาบอลิซึมและความสามารถในการเคลื่อนย้ายน้ำตาลของพันธุ์ยาง สารประกอบทางชีวเคมีในน้ำยางค่อนข้างเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับพันธุกรรม (Gohet et al. 1997b) ขบวนการเมตตาบอลิซึมและความสามารถในการเคลื่อนย้ายน้ำตาล มีการแสดงออก ดังนี้ พันธุ์ GT 1 มีเมตตาบอลิซึมปานกลาง ความสามารถในการเคลื่อนย้ายน้ำตาลปานกลาง กลุ่มพันธุ์ RRIM 600 , RRIC 110 , PR 261 , PR 255 และ BPM 24 มีเมตตาบอลิซึมค่อนข้างสูง ความสามารถในการเคลื่อนย้ายน้ำตาลปานกลาง และพันธุ์ PB 235: เมตตาบอลิซึมสูง ความสามารถในการเคลื่อนย้ายน้ำตาลปานกลาง การจัดกลุ่มของเมตตาบอลิซึมและความสามารถในการเคลื่อนย้ายน้ำตาล ใช้เป็นพารามิเตอร์เมื่อต้องการลดความถี่ของการกรีดลงแต่เพิ่มการใช้สารเคมีเร่งน้ำยางแทน ช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการวิเคราะห์น้ำยางเพื่อเป็นพารามิเตอร์ในการกำหนดค่ามาตรฐาน LD ( Latex diagnosis) คือ ช่วงเดือน กันยายน – ตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ให้ผลผลิตสูง ค่า Pi สูง น้ำตาลซูโครสต่ำ สามารถอธิบายเมตตาบอลิซึมของน้ำยางได้ พันธุ์ยางแต่ละพันธุ์มีค่าอ้างอิงจากการวิเคราะห์น้ำยางแตกต่างกัน ( Latex diagnosis reference values ) ขึ้นอยู่กับขบวนการเมตตาบอลิซึมและความสามารถในการเคลื่อนย้ายน้ำตาล สามารถนำค่าอ้างอิงการวิเคราะห์น้ำยาง ตรวจสอบสภาพของต้นยางและการกรีดยาง การสำรวจสวนยางจำนวน 20 สวน พบว่า สวนยางที่ใช้ระบบกรีดเหมาะสม มี 25 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนสวนยางที่ทำการสำรวจ สวนยางกรีดหักโหมหรือใช้ความถี่ในการกรีดสูง 20 เปอร์เซ็นต์ และสวนยางที่ใช้ระบบกรีดในการกรีดต่ำ 55 เปอร์เซ็นต์ ได้แนะนำสวนยางที่กรีดหักโหมจำนวน 20 เปอร์เซ็นต์ ให้ลดความถี่ในการกรีดยางเป็นระบบกรีดครึ่งลำต้นวันเว้นวัน
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: การยางแห่งประเทศไทย
คำสำคัญ: ยางพารา
เจ้าของลิขสิทธิ์: การยางแห่งประเทศไทย
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบชีวเคมีในน้ำยางต่อระบบกรีดและผลผลิตยางพารา
การยางแห่งประเทศไทย
ไม่ระบุวันที่เผยแพร่
การใช้ระบบกรีดร่วมกับสารเคมีเร่งน้ำยาง เพื่อเพิ่มผลผลิตยางพันธุ์ GT 1 ในระยะเริ่มเปิดกรีด กลุ่มวิจัยยางพารา การศึกษาเบื้องต้นในการส่งถ่ายยีนเข้าสู่ยางพาราด้วยเทคนิค Agrobacterium transformation การยับยั้งอย่างจำเพาะเจาะจงต่อการแสดงออกของยีน Rubber Elongation Factor (REF) ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างโปรตีนก่อภูมิแพ้ในยางพาราด้วยเทคโนโลยีแอนติเซน อิทธิพลของระบบกรีดที่มีผลต่อพันธุ์ยางสถาบันวิจัยยาง 251 การใช้องค์ประกอบทางชีวเคมีของน้ำยางตรวจสอบความสมบูรณ์ของต้นยางสำหรับระบบกรีดที่เหมาะสม ผลผลิต องค์ประกอบและการใช้ประโยชน์ของน้ำหวานต้นจากในเขตพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง การศึกษาระบบการจัดการปุ๋ยทางน้ำเพื่อเร่งการเปิดกรีดยางพารา อิทธิพลของหอมแดงที่มีต่อการไหลของน้ำยางพารา การเพิ่มผลผลิตยางพาราและการใช้สารเคมีเร่งน้ำยาง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก