สืบค้นงานวิจัย
ความหลากหลายของเชื้อรา ascomycetes จากดินป่าไม้ในบริเวณเขื่อนห้วยกุ่ม และความสามารถในการผลิตเอนไซม์บางชนิด
โสภณ บุญลือ - มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ชื่อเรื่อง: ความหลากหลายของเชื้อรา ascomycetes จากดินป่าไม้ในบริเวณเขื่อนห้วยกุ่ม และความสามารถในการผลิตเอนไซม์บางชนิด
ชื่อเรื่อง (EN): Diversity of ascomycetous fungi from forest soil in Houy Kum Dam area and its ability on some enzyme production
บทคัดย่อ: สำรวจและเก็บตัวอย่างดิน จากพื้นที่ป่าบริเวณเขื่อนห้วยกุ่ม จ.ชัยภูมิ ในช่วงเดือนต่างๆ ได้แก่ เดือนมกราคม มีนาคม กรกฎาคม และกันยายน พบว่า ลักษณะเป็นป่าเบญจพรรณ นำตัวอย่างดินมาแยกเชื้อราแอสโคมายซีสต์ โดยทรีทดินด้วยเทคนิค alcohol and heat treatment แล้วแยกเชื้อราบนอาหาร Potato dextrose agar (PDA) ที่ผสม chlotetracycline เข้มข้น 100 ppm พบว่าสามารถแยกเชื้อราแอสโคมายซีสต์ได้ทั้งหมด 114 ไอโซเลท โดยพบจำนวนเชื้อราแอสโคมายซีสต์ มากที่สุดในช่วงเดือนกรกฎาคม (ฤดูฝน) และพบว่าอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการเจริญของเชื้อราเหล่านี้ คือ 35 องศาเซลเซียส จำแนกชนิดเชื้อราแอสโคมายซีสต์โดยอาศัยลักษณะทางสัณฐานวิทยา พบว่าเป็นเชื้อ Eurotium rubrum, Neosartorya glaber, Talaromyces bacillisporus, T. stipitatus, E. amstelodami และ E. manginnii ตรวจสอบความสามารถในการผลิตเอนไซม์เซลลูเลส และ ไซลาเนสบนอาหารแข็งที่มีชานอ้อยผสมกับรำข้าวเป็นสับสเตรทหลัก (1:3 w/w) พบว่า เชื้อรา E. rubrum KKU-1HK1-6-1 และ N. glaber KKU-2HK1-12-1 สามารถผลิตเอนไซม์เซลลูเลส (51.35 mU/mg dry weight) และไซลาเนส (104.67 mU/mg dry weight) ได้สูงสุด ตามลำดับ จากนั้นนำเชื้อราทั้งสองชนิดมาตรวจสอบความสามารถในการผลิตเอนไซม์เซลลูเลส และไซลาเนสในสภาพการหมักแบบ solid state fermentation ที่มีวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรชนิดต่างๆเป็นแหล่งคาร์บอน ได้แก่ ฟางข้าวผสมรำข้าว ชานอ้อยผสมรำข้าว และแกลบผสมรำข้าว พบว่าแกลบผสมรำข้าว และ ชานอ้อยผสมรำข้าว เป็นวัสดุที่เหมาะสมต่อการผลิตเอนไซม์เซลลูเลส (CMCase, FPase และ ?-glucosidase) และไซลาเนสของเชื้อรา E. rubrum KKU-1HK1-6-1 และ N. glaber KKU-2HK1-12-1 ตามลำดับ และพบว่า E. rubrum KKU-1HK1-6-1 และ N. glaber KKU-2HK1-12-1 สามารถผลิตเอนไซม์เซลลูเลส และไซลาเนส ได้สูงสุดในวันที่ 8 นอกจากนี้ยังพบว่า pH ที่เหมาะสมต่อกิจกรรมของเอนไซม์เซลลูเลสจากเชื้อรา E. rubrum KKU-1HK1-6-1 คือ pH 7.0 ส่วนเอนไซม์ ไซลาเนสจากเชื้อรา N. glaber KKU-2HK1-12-1 คือ pH 8.0 อุณหภูมิที่เหมาะสมต่อกิจกรรมของเอนไซม์จากเชื้อราทั้งสองชนิดนี้คือ 35 องศาเซลเซียส เอนไซม์เซลลูเลสและไซลาเนสจากเชื้อราทั้งสองชนิดนี้มีความคงทนต่อ pH และอุณภูมิในช่วงกว้างคือ pH 5.0-11.0 และอุณหภูมิ 30-50 องศาเซลเซียส ตามลำดับ
บทคัดย่อ (EN): Soil samples were randomly collected from surveying the forest surrounding of Huai Khum Dam, Chaiyaphum Province in different month (January, March, July and September). The forest type was mixed deciduous comprising of various sizes of tree. Ascomycetous fungi were isolated by spread plate technique on Potato dextrose agar (PDA) containing of 100 ppm chlotetracycline after treating the soil samples by alcohol and heat technique. One hundred and fourteen fungal isolates were obtained and mostly found in the July (rainy season). The temperature at 35?C was the optimum temperature for the growth of these fungi. They were identified conventionally using morphological characteristics namely, Eurotium rubrum, Neosartorya glaber, Talaromyces bacillisporus, T. stipitatus E. amstelodami and E. manginnii. All the isolates of ascomycetous fungi were determined for cellulase and xylanase production by employing solid state fermentation with the medium containing mainly by bagasse and rice bran (1:3 W/W). The results found that E. rubrum KKU-1HK1-6-1 and N. glaber KKU-2HK1-12-1 were found the highest activities for cellulase (51.35 mU/mg dry weight) and xylanase (104.67 mU/mg dry weight), respectively. Then, these two fungi were determined for cellulase and xylanase production on solid state fermentation, in the medium comprising of various agricultural residues as the c-source (rice straw + rice, sugarcane bagasse + rice and rice husk + rice). As a result, rice straw + rice and sugarcane bagasse + rice bran was the best c-source for cellulase (CMCase, FPase, and ?-glucosidase) and xylanase production from E. rubrum KKU-1HK1-6-1 and N. glaber KKU-2HK1-12-1, respectively. In addition, the highest cellulase and xylanase production from E. rubrum KKU-1HK1-6-1 and N. glaber KKU-2HK1-12-1 (respectively) was at the date 8th of cultivation. In addition, the optimum pH for cellulase from E. rubrum KKU-1HK1-6-1 was pH 7.0 whereas, xylanase from N. glaber KKU-2HK1-12-1 was pH 8.0. Enzyme from these two fungi had optimum temperature at 35?C. The pH and thermal stability of cellulase and xylanase from these two fungi were found to be ranging from pH 5.0-11.0 and 30-50?C, respectively.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยขอนแก่น
คำสำคัญ: เอนไซม์ไซลาเนส
เจ้าของลิขสิทธิ์: ฐานข้อมูล NRMS
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ความหลากหลายของเชื้อรา ascomycetes จากดินป่าไม้ในบริเวณเขื่อนห้วยกุ่ม และความสามารถในการผลิตเอนไซม์บางชนิด
โสภณ บุญลือ
มหาวิทยาลัยขอนแก่น
30 กันยายน 2553
การผลิต Inulin และ Oligofructose จากกล้วยเพื่อใช้เป็นสารเสริมอาหาร ราที่มีศักยภาพในอุตสาหกรรมการย่อยสลายแป้งและวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรจากระบบนิเวศวิทยาป่าอุทยานสัตว์ป่าอุบลราชธานี การคัดแยกจุลินทรีย์ที่สามารถผลิตเอนไซม์เซลลูเลสจากดิน บริเวณห้วยกุ่ม จ.ชัยภูมิ อิทธิพลของแหล่งคาร์บอนต่อกิจกรรมของเอนไซม์ย่อยสลายจากเชื้อรา Trichoderma spp. การศึกษาเพื่อผลิตเอ็นไซม์ผสมกลุ่มเซลลูเลสโดยการเพาะเลี้ยงเชื้อราร่วมกัน ความหลากหลายของเชื้อราจากดิน ซากพืชและการนำไปใช้ประโยชน์ การคัดเลือกเชื้อราที่ผลิตเอนไซม์เซลลูเลสและไซแลนเนสจากซากใบปาล์มน้ำมัน (Elaeis guineensis Jacq.) การผลิตสารต้านอนุมูลอิสระของเชื้อรา Monascus purpureus TISTR 3080 จากปลายข้าว การศึกษาวัสดุคลุมดินที่มีอิทธิพลต่อการเจริญเติบโตแบบอาศัยเพศ และไม่อาศัยเพศของสตรอเบอรี 2 สายพันธุ์ ความหลากหลายและคุณค่าทางโภชนาการของแมลงกินได้ในพื้นที่เขื่อนห้วยกุ่ม
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก