สืบค้นงานวิจัย
ผลของสาร 6-benzylaminopurine และ Naphthaleneacetic acid ต่อการชักนำต้นจากตาข้างของหญ้าสายพันธุ์เนเปียร์ โดยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
รัตติกาล ปวงแก้ว - กรมปศุสัตว์
ชื่อเรื่อง: ผลของสาร 6-benzylaminopurine และ Naphthaleneacetic acid ต่อการชักนำต้นจากตาข้างของหญ้าสายพันธุ์เนเปียร์ โดยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
ชื่อเรื่อง (EN): Effect of 6-benzylaminopurine and Naphthaleneacetic acid to Plantlet Induction from Lateral Bud of Napier Grass Cultivars by Tissue Culture
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: รัตติกาล ปวงแก้ว
บทคัดย่อ: จากการเพาะเลี้ยงยอดที่ได้จากตาข้างของหญ้าเนเปียร์ 3 สายพันธุ์ บนอาหารสังเคราะห์สูตร Murashige and Skoog (MS) ที่เติม 6-Benzylaminopurine (BAP) ระดับความเข้มข้น 0 1 2 3 และ 4 มิลลิกรัมต่อลิตร เป็นเวลา 6 สัปดาห์ เพื่อชักนำให้เกิดยอดจำนวนมาก พบว่า อาหารสังเคราะห์สูตร MS ที่เติม BAP ความเข้มข้น 3 มิลลิกรัมต่อลิตร สามารถชักนำให้หญ้าเนเปียร์ปากช่อง 1 เกิดยอดมากที่สุด โดยเกิดยอดใหม่เฉลี่ย 3.5 ยอด ความสูงของยอดใหม่เฉลี่ย 4.45 เซนติเมตร และสูตรอาหารที่ชักนำให้หญ้าเนเปียร์แคระ และหญ้าเนเปียร์ธรรมดาเกิดยอดมากที่สุด คือ อาหารสังเคราะห์สูตร MS ที่เติม BAP ความเข้มข้น 4 มิลลิกรัมต่อลิตร โดยเกิดยอดใหม่เฉลี่ย 8.0 และ 5.5 ยอดตามลำดับ ความสูงของยอดใหม่เฉลี่ย 3.52 และ 4.43 เซนติเมตร ตามลำดับ และในการทดลอง ชักนำให้เกิดรากจำนวนมากจากยอดของหญ้าสายพันธุ์เนเปียร์ที่เพาะเลี้ยงบนอาหารสังเคราะห์สูตร MS ที่เติม Naphthaleneacetic acid (NAA) ระดับความเข้มข้น 0.00 0.25 0.50 0.75 และ 1.00 มิลลิกรัมต่อลิตร เป็นเวลา 6 สัปดาห์ พบว่า อาหารสังเคราะห์สูตร MS ที่เติม NAA ความเข้มข้น 1.00 มิลลิกรัมต่อลิตร สามารถชักนำให้หญ้าเนเปียร์ปากช่อง 1 หญ้าเนเปียร์แคระ และหญ้าเนเปียร์ธรรมดาเกิดรากมากที่สุด โดยเกิดรากเฉลี่ย 27.0 16.0 และ 31.6 ราก และเมื่อย้ายปลูกต้นกล้าจากขวดเพาะเลี้ยงลงสู่กระถางเพาะชำในสภาพแวดล้อมภายนอก ต้นกล้าจากอาหารทุกสูตร สามารถปรับตัวได้ภายใน 2 สัปดาห์ และเจริญเติบโตได้ปกติ โดยมีอัตราการรอดชีวิต 100 เปอร์เซ็นต์
บทคัดย่อ (EN): In vitro shoot from lateral bud culture of 3Napier grass cultivars were conducted on Murashige and Skoog medium (MS) supplemented with 0, 1, 2, 3 and 4 mg/l of 6-Benzylaminopurine (BAP) for 6 weeks. The results indicated that Pakchong 1 napier grass (Pennisetum purpureum) could obtain the highest average number of shoots (3.5 shoot per explant) and the average height of shoots (4.45 centimeter ; cm) when cultured on MS medium supplemented with 3 mg/l of BAP. Dwarf napier grass (P. purpureum cv. Mott) and Common napier grass (P. purpureum) could obtain the highest average number of shoots (8.0 and 5.5 shoot per explant, respectively) and the average height of shoots (3.52 and 4.43 cm, respectively), when cultured on MS medium supplemented with 4 mg/l of BAP. In vitro rooting of regenerated shoots was performed on MS medium supplemented with 0.00, 0.25, 0.50, 0.75 and 1.00 mg/l of Naphthaleneacetic acid (NAA) for 6 weeks. The results showed that MS medium supplemented with 1.00 mg/l of NAA could induce the highest average root number (27.0, 16.0 and 31.6 roots per shoot for Pakchong 1 napier grass, Dwarf napier grass and Common napier grass, respectively). When the plantlets were transferred to the pots under normal environment, they could adaptation and normally growth within 2 weeks of transplantation with a highest percentage of survival (100%).
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมปศุสัตว์
คำสำคัญ: การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

รัตติกาล ปวงแก้ว. "ผลของสาร 6-benzylaminopurine และ Naphthaleneacetic acid ต่อการชักนำต้นจากตาข้างของหญ้าสายพันธุ์เนเปียร์ โดยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อEffect of 6-benzylaminopurine and Naphthaleneacetic acid to Plantlet Induction from Lateral Bud of Napier Grass Cultivars by Tissue Culture". กรมปศุสัตว์. 2559

รัตติกาล ปวงแก้ว. "ผลของสาร 6-benzylaminopurine และ Naphthaleneacetic acid ต่อการชักนำต้นจากตาข้างของหญ้าสายพันธุ์เนเปียร์ โดยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อEffect of 6-benzylaminopurine and Naphthaleneacetic acid to Plantlet Induction from Lateral Bud of Napier Grass Cultivars by Tissue Culture". กรมปศุสัตว์. 2559. Print.



TARR Wordcloud:
ผลของสาร 6-benzylaminopurine และ Naphthaleneacetic acid ต่อการชักนำต้นจากตาข้างของหญ้าสายพันธุ์เนเปียร์ โดยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
รัตติกาล ปวงแก้ว
กรมปศุสัตว์
28 กันยายน 2559
กรมปศุสัตว์
ผลของการจัดการท่อนพันธุ์เนเปียร์ต่อการงอกของท่อนพันธุ์และผลผลิตของหญ้าเนเปียร์พันธุ์ปากช่อง 1 เพื่อลดต้นทุนการผลิตหญ้าเลี้ยงสัตว์ การขยายพันธุ์ต้น Tea Tree โดยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ การติดตามตรวจสอบสารกลุ่มโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอนในอากาศริมถนนโดยใช้ใบไม้ในเขตจังหวัดนนทบุรี การปรับปรุงพันธุ์หญ้าแพงโกล่าโดยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ การเพาะเลี้ยงพรรณพืชวงศ์ขิงบางชนิดที่พบที่เขื่อนสิริกิติ์โดยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืชพื้นเมือง การเติบโตและเพิ่มปริมาณต้นของกล้วยหอมพันธุ์ Crand Nain โดยวิธีเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ การผลิตต้นกล้าพืชสกุลเร่วโดยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ การพัฒนาระบบขยายพันธุ์ว่านชักมดลูก โดยวิธีการเพาะเลี้ยง เนื้อเยื่อ เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตพืชสมุนไพร การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตต้นพันธุ์ดาหลาด้วยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair