สืบค้นงานวิจัย
การบำบัดน้ำเสียด้วยระบบบำบัดน้ำเสียแบบจุลินทรีย์แขวนลอยและจุลินทรีย์บนตัวกลางยึดเกาะ
ดุจนภา คำเพชร - มหาวิทยาลัยบูรพา
ชื่อเรื่อง: การบำบัดน้ำเสียด้วยระบบบำบัดน้ำเสียแบบจุลินทรีย์แขวนลอยและจุลินทรีย์บนตัวกลางยึดเกาะ
ชื่อเรื่อง (EN): Wastewater treatment by suspended growth and biofilm suspended carrier system
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ดุจนภา คำเพชร
บทคัดย่อ: การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของการบำบัดน้ำเสียของจุลินทรีย์แบบเคลื่อนที่โดยอิสระและจุลินทรีย์ที่มีตัวยึดเกาะในระบบบำบัดน้ำเสียจำลองแบบ SCAR SBR และ BSC ซึ่งตัวกลางที่นำมาศึกษาครั้งนี้ คือ โรล์ม้วนผม ออกซิบอล ไม้ไผ่ ไม้ระกำ รังบวบ และหลอด ระยะเวลาทำการตลอกทั้งสิ้น 100วัน โดยมีการตวบคุมค่า MLSS ของแต่ละระบบให้อยู่ระหว่าง 1500-2000 มิลลิกรัมต่อลิตร พารามิเตอร์ที่ทำการศึกษาคือค่าซีฏอดี ชีวมวล แอมโมเนีย-ไนโตรเจน ไนไตร์ท-ไนโตรเจน ไนเตรท-ไนโตรเจน และออโะฟอสเฟต-ฟอสฟอรัสผลการวิจัยพบว่าระบบบำบัดน้ำเสีย SCAR SBR และBSC สามารถบำบัดซีโอดี เฉลี่ยได้ประมาณ 98% 94% และ95% ตามลำดับ ส่วนการบำบัดไนโตรเจนพบว่า ระบบบำบัดน้ำเสีบแบบ SCAS และSBR ไม่สามารถบำบัดค่าไนโตรเจนได้ เนื่องจากในระบบมีการสะสมปริมาณ ไนเตรท-ไนโตรเจนอยู่ในปริมาณมาก ซึ่งระบบบำบัดน้ำเสีย SBR เกิดปฎิกิริยาไนติฟิเคชั่นอย่างไม่สมบูรณ์ ทำให้ระบบมีการสะสมค่าไรไตร์ท-ไรโตรเจนสูง แต่ระบบบำบัดน้ำเสียแบบ BSC เกิดปฏิกิริยาไนติฟิเคชั่นควบคู่กัน ทำให้สามารถบำบัดปริมาณไนโตรเจนได้ จากการวิจัย ตัวกลางแต่ละชนิดมีประสิทธิภาพการบำบัดน้ำเสียต่างกัน โดยวันสุดท้ายของการทดลองมีค่าเฉลี่ยการบำบัดไนโตรเจนดังนี้ โรล์ม้วนผมมีค่าเฉลี่ยความเข้มข้นของแอมโมเนีย-ไนโตรเจน ไนไตร์ท-ไนโตรเจน และไนเตรท-ไนโตรเจนต่ำกว่า 20 0.5 และ3 มิลลิกรัมต่อลิตร ตามลำดับ ออกซิบอลมีค่าเฉลี่ยต่ำกว่า 18 0.5 และ15 มิลลิกรัมต่อลิตรตามลำดับ ไม้ไผ่มีค่าเฉลี่ยต่ำกว่า 20 0.2 และ 10 มิลลิกรัมต่อลิตรตามลำดับ ไม้ระกำมีค่าเฉลี่ยต่ำกว่า 20 0.5 และ 2 มิลลิกรัมต่อลิตรตามลำดับ รังบวบมีค่าเฉลี่ยต่ำกว่า 20 0.5 และ 15 มิลลิกรัมต่อลิตรตามลำดับ และหลอดมีค่าเฉลี่ยต่ำกว่า15 0.5 และ15 มิลลิกรัมต่อลิตรตามลำดับ ซึ่งระบบบำบัดน้ำเสียทั้ง 3 แบบไม่สามารถบำบัดค่าฟอสฟอรัสได้ เมื่อสิ้นสุดการทดลองจึงมีค่าความเข้มข้นของฟอสฟอรัสเท่ากับ 100 มิลลิกรัมต่อลิตร และตัวกลางที่เหมาะสมการยึดเกาะของจุลินทรีย์มากที่สุดคือ รังบวบ ซึ่งมีปริมาณของจุลินทรีย์ที่เจิญบนตัวกลางมากที่สุด
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=95&RecId=9653&obj_id=75518
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยบูรพา
คำสำคัญ: ฟิล์มชีวภาพ
คำสำคัญ (EN): 628
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยบูรพา
รายละเอียด: การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของการบำบัดน้ำเสียของจุลินทรีย์แบบเคลื่อนที่โดยอิสระและจุลินทรีย์ที่มีตัวยึดเกาะในระบบบำบัดน้ำเสียจำลองแบบ SCAR SBR และ BSC ซึ่งตัวกลางที่นำมาศึกษาครั้งนี้ คือ โรล์ม้วนผม ออกซิบอล ไม้ไผ่ ไม้ระกำ รังบวบ และหลอด ระยะเวลาทำการตลอกทั้งสิ้น 100วัน โดยมีการตวบคุมค่า MLSS ของแต่ละระบบให้อยู่ระหว่าง 1500-2000 มิลลิกรัมต่อลิตร พารามิเตอร์ที่ทำการศึกษาคือค่าซีฏอดี ชีวมวล แอมโมเนีย-ไนโตรเจน ไนไตร์ท-ไนโตรเจน ไนเตรท-ไนโตรเจน และออโะฟอสเฟต-ฟอสฟอรัสผลการวิจัยพบว่าระบบบำบัดน้ำเสีย SCAR SBR และBSC สามารถบำบัดซีโอดี เฉลี่ยได้ประมาณ 98% 94% และ95% ตามลำดับ ส่วนการบำบัดไนโตรเจนพบว่า ระบบบำบัดน้ำเสีบแบบ SCAS และSBR ไม่สามารถบำบัดค่าไนโตรเจนได้ เนื่องจากในระบบมีการสะสมปริมาณ ไนเตรท-ไนโตรเจนอยู่ในปริมาณมาก ซึ่งระบบบำบัดน้ำเสีย SBR เกิดปฎิกิริยาไนติฟิเคชั่นอย่างไม่สมบูรณ์ ทำให้ระบบมีการสะสมค่าไรไตร์ท-ไรโตรเจนสูง แต่ระบบบำบัดน้ำเสียแบบ BSC เกิดปฏิกิริยาไนติฟิเคชั่นควบคู่กัน ทำให้สามารถบำบัดปริมาณไนโตรเจนได้ จากการวิจัย ตัวกลางแต่ละชนิดมีประสิทธิภาพการบำบัดน้ำเสียต่างกัน โดยวันสุดท้ายของการทดลองมีค่าเฉลี่ยการบำบัดไนโตรเจนดังนี้ โรล์ม้วนผมมีค่าเฉลี่ยความเข้มข้นของแอมโมเนีย-ไนโตรเจน ไนไตร์ท-ไนโตรเจน และไนเตรท-ไนโตรเจนต่ำกว่า 20 0.5 และ3 มิลลิกรัมต่อลิตร ตามลำดับ ออกซิบอลมีค่าเฉลี่ยต่ำกว่า 18 0.5 และ15 มิลลิกรัมต่อลิตรตามลำดับ ไม้ไผ่มีค่าเฉลี่ยต่ำกว่า 20 0.2 และ 10 มิลลิกรัมต่อลิตรตามลำดับ ไม้ระกำมีค่าเฉลี่ยต่ำกว่า 20 0.5 และ 2 มิลลิกรัมต่อลิตรตามลำดับ รังบวบมีค่าเฉลี่ยต่ำกว่า 20 0.5 และ 15 มิลลิกรัมต่อลิตรตามลำดับ และหลอดมีค่าเฉลี่ยต่ำกว่า15 0.5 และ15 มิลลิกรัมต่อลิตรตามลำดับ ซึ่งระบบบำบัดน้ำเสียทั้ง 3 แบบไม่สามารถบำบัดค่าฟอสฟอรัสได้ เมื่อสิ้นสุดการทดลองจึงมีค่าความเข้มข้นของฟอสฟอรัสเท่ากับ 100 มิลลิกรัมต่อลิตร และตัวกลางที่เหมาะสมการยึดเกาะของจุลินทรีย์มากที่สุดคือ รังบวบ ซึ่งมีปริมาณของจุลินทรีย์ที่เจิญบนตัวกลางมากที่สุด
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การบำบัดน้ำเสียด้วยระบบบำบัดน้ำเสียแบบจุลินทรีย์แขวนลอยและจุลินทรีย์บนตัวกลางยึดเกาะ
มหาวิทยาลัยบูรพา
2548
การควบคุมจุลินทรีย์กลุ่มสีแดงในบ่อบำบัดคงตัวด้วยวิธีทางกายภาพ-เคมี การคัดเลือกจุลินทรีย์จากแหล่งในประเทศไทยที่ผลิตเอนไซม์แอลฟาอะไมเลสสลายแป้งมันสำปะหลัง การใช้จุลินทรีย์ที่มีประสิทธิผลในการบำบัดน้ำเสียบางแหล่ง การผลิตจุลินทรีย์ที่สร้างเอนไซม์ไลเปสเพื่อใช้ในการบำบัดน้ำเสียที่มีไขมันสูง การวิเคราะห์ความหลากหลายของประชากรจุลินทรีย์ในถังปฏิกรณ์อีจีเอสบีโดยใช้เทคนิค PCR-DGGE การลดปริมาณสารแขวนลอยของน้ำเสียจากโรงงานถุงมือยางโดยการใช้ไคโตซานเป็นสารช่วยสร้างตะกอน ผลของน้ำมันตะไคร้ต่อไปปรสิตและจุลินทรีย์ก่อโรคในผึ้ง การบำบัดน้ำเสียจากอุตสาหกรรมผลิตสีย้อมและการย่อยสลายสีย้อมกลุ่มอะโซบางชนิดโดยจุลินทรีย์ผสม ผลของความลึกชั้นตัวกลางต่อการกำจัดไนโตรเจนในระบบบึงประดิษฐ์แบบน้ำไหลใต้ผิวหนังในแนวดิ่ง การใช้จุลินทรีย์คิโตเมี่ยมควบคุมโรคแอนแทรคโนสของปาล์ม.
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก