สืบค้นงานวิจัย
การพัฒนาการตรวจวิเคราะห์สารประกอบเอมีนในผลิตภัณฑ์อาหารหมักโดยวิธีคัลเลอริเมตริกเพื่อการประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรม (ระยะที่ 2)
จิรศักดิ์ คงเกียรติขจร - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
ชื่อเรื่อง: การพัฒนาการตรวจวิเคราะห์สารประกอบเอมีนในผลิตภัณฑ์อาหารหมักโดยวิธีคัลเลอริเมตริกเพื่อการประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรม (ระยะที่ 2)
ชื่อเรื่อง (EN): Development of colorimetric assay of biogenic amines in fermented food products for industrial application (Phase 2)
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: จิรศักดิ์ คงเกียรติขจร
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): JIRASAK KONGKIATTIKAJORN
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: ในงานวิจัยนี้มุ่งที่จะพัฒนาการตร วจวิคราะห์สารประกอบเอมึนจากผลิตภัณฑ์อาหารหมักดอง ด้วย วิธีการใช้เอนไซมั โดยอาศัยการทำงานของเอนไซม์เอมีนออกซิเดสที่สกัคจากรากของต้นอ่อนของ เมล็ดถั่วเหลืองงอก ร่วมกับเอนไซม์โบร โมเปอร์ออกซิเดสที่สกัดจากสาหร่ายทะเลสีแดงสายพันธุ์ Grucilaria chard ปริมาณของสารประกอบเอมินสามารถวิเคราะห์ได้จากปริมาณสิของผลิตภัณฑ์ที่ เกิดขึ้นจากปฏิกิริยาโบรมิเนชันของฟินอลูเรด ซึ่งเป็นซับสตรตของโบร โมเปอร์ออกซิเดส จาก การศึกษาปฏิกิริย1 enzyme coupling ay เอน ไซม์สามารถจับจำเพาะกับสารประกอบเอมึนชนิด putrescine cadaverine histamine tryptamine tyramine และ Bphenyletiylamine ซึ่งในงานวิจัยนี้ ได้ คำนวนปริมาณสารประกอบเอมิ่นในอาหารหมักคองจากกราฟมาตรฐานของสารประกอบเอมินชนิด putrescine โดยสรละลายสกัดที่เหมาะสมในการสกัดสารประกอบเอมึน จากแหนม และ ไส้กรอกเปรี้ยว คือ กรดเปอร์คลอริก ความเข้มข้น 3 โมลารู้ ข้าวหมาก คือ กรดเปอร์คลอริก ความ ข้มขัน 1.5 โมลาร์ ปลาร้ำ และหอยดอง คือ กรดไฮ!ครคลอริก ความเข้มข้น 4 โมลาร์ โดยอัตราส่วน ในการสกัคระหว่างน้ำหนักของอาหารหมักคองต่อปริมาตรของสารละลายสกัด คือ อัตราส่วน 1 : 2 และสกัดทั้งหมด 3 ซ้ำ โดยค่าเฉลี่ยของเปอร์เซ็นต์การสกัด putrescine cadaverine และ histamine จาก สกัด 3 ซ้ำ จากอาหารหมักดองชนิดต่างๆเท่ากับ 74.80 64.65 และ 50.60 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ ซึ่ง ตัวอย่างแหนมหมู ไส้กรอกเปรี้ยว ข้าวหมาก ปลาร้ำ และหอยคอง ที่นำมาตรวจวิเคราะห์มิปริมาณ สารประกอบเอมึน เท่ากับ 340.70, 267.21, 183.33, 432.06 และ 381.06 มิลลิกรัมต่อกิโลกรั ม ตามลำดับ และจากการวิเคราะห์ปริมาณสารประกอบเอมึน ในตัวอย่างอาหารหมักคองประเภทต่างๆ สามารถสรุปได้ว่า อาหาร หมักคองประเภทนื้อสัตว์ มีปริมาณสารประกอบเอมึนมากที่สุด รองลงมา คือ อาหารหมักคองประเภทผัก เครื่องดื่ม และประเภทนมและผลิตภัณฑ์นม ตามลำดับ นอกจากนี้ น้ำยาตรวจวิเคราะห์สารประกอบเอมีนสำเร็จรูปสามารถยืดอายุการเก็บรักษาได้ โดยการเดิมกลืเซ อรอล หรือโพลื!อทีถิ่นไกลคอลเป็นสารเพิ่มความคงตัว (stabilizer) และการ ทำแห้งน้ำยาตรวจ วิเคราะห์ และควรเก็บรักษาน้ำยาตรวจวิเกราะห์ที่อุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียส เนื่องจากสามารถเก็บ รักษาเสถียรภาพของเอนไซม์ในน้ำยาตรวจวิเคราะห์ได้ดีกว่าที่อุณหภูมิ 10 และ 25 องศาเซลเซียส
บทคัดย่อ (EN): In this research, biogenic amines (BAs) assay in fermented foods by enzymatic method using coupling enzymes between amine oxidase (AO) from the roots of soybean seedlings and bromoperoxidase (BPO) from marine red algae (Gracilaria changit) was developed. Amounts of biogenic amines were detected from levels of products established from a bromination reaction between phenol red, a substrate of BPO. Enzyme coupling assay was specific for putrescine, cadaverine, histamine, tryptamine, tyramine and P-phenylethylamine. The contents of biogenic amine in fermented foods were determined from the standard curve of putrescine. From the results, the suitable acid for extraction BAs from fermented meat and Thai fermented sausage, was 3 M perchloric acid (PCA) and 1.5 M PCA was suitable for fermented rice while 4 M bydrochloric acid (HC1) was suitable acid for extraction of biogenic amines from fermented fish and fermented shell. The ratio of sample and acid for was 1:2 (w/v) for three times extraction. Average of % recovery of putrescine, cadaverine and histamine in fermented foods was 74.80, 64.65 and 50.60%, respectively. BAs contents of nham, Thai fermented sausage, fermented rice, fermented fish and fermented shell were 340.70, 267.21, 183.33, 432.06 and 381.06 mg/kg, respectively. According to the results, fermented meat had the highest BAs content, followed by fermented vegetable, fermented beverage and fermented milk and milk product, respectively. The shelf life of reaction mixture for determination of biogenic amines could be prolong in the liquid form by adding with glycerol or polyethylene glycol as stabilizer or in the lyophilized form. The shelf life of BAs test kits could be prolong by storage at least 4C to stabilize enzyme activity that were more stable than storage at 10C and 25 C.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
คำสำคัญ: N/A
คำสำคัญ (EN): assay
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การพัฒนาการตรวจวิเคราะห์สารประกอบเอมีนในผลิตภัณฑ์อาหารหมักโดยวิธีคัลเลอริเมตริกเพื่อการประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรม (ระยะที่ 2)
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
30 กันยายน 2553
อุตสาหกรรมอาหารไทย ปลอดภัยเชื่อถือได้ 5 แนวโน้มผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่น่าจับตา การวิจัยเชิงนโยบายเพื่อการประหยัดพลังงานและคาร์บอนไดออกไซด์ สำหรับประเทศไทยและภาคอุตสาหกรรม การติดตามตรวจสอบสารกลุ่มโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอนในอากาศริมถนนโดยใช้ใบไม้ในเขตจังหวัดนนทบุรี โครงการศึกษาสถานภาพการใช้เทคโนโลยีแก็สซิฟิเคชันสำหรับ ผลิตความร้อนและไฟฟ้าในระดับอุตสาหกรรม ชุมชน หรือ วิสาหกิจขนาดกลางและ ขนาดเล็กของประเทศไทย การสำรวจและวิเคราะห์ เพื่อส่งเสริมพัฒนาผลิตภัณฑ์โครงการแปรรูปอาหาร การพัฒนาวิธีตรวจเชื้อ Trichomonas foetus ในน้ำเชื้อโคด้วยเทคนิค PCR อาหารบำรุงสมอง โครงการวิจัยการประยุกต์ใช้คอนกรีตพรุน (Porous Concrete) สำหรับการพัฒนาแหล่งน้ำ การประยุกต์ใช้แก่นตะวันในผลิตภัณฑ์อาหาร
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก