สืบค้นงานวิจัย
การพัฒนาการเลี้ยงหอยแครงในบ่อดินแบบผสมผสานของเกษตรกรในอำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด ตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง
จารุนันท์ ประทุมยศ - สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ
ชื่อเรื่อง: การพัฒนาการเลี้ยงหอยแครงในบ่อดินแบบผสมผสานของเกษตรกรในอำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด ตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง
ชื่อเรื่อง (EN): Development of Integrated Blood Cockle Culture in Earthen Ponds of Farmers at Laem Ngop District, Trat Province Following the Royal Project Guidelines on Self-sufficiency
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: จารุนันท์ ประทุมยศ
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: บ่อดินเลี้ยงกุ้งทิ้งร้างไม่ได้ใช้ประโยชน์สามารถปรับเปลี่ยนมาทำการเกษตรแบบผสมผสาน เป็นการ ใช้ที่ดินให้มีประสิทธิภาพสูงสุดทำให้เกษตรกรมีรายได้มีกินมีอยู่อย่างพอเพียงตามแนวทางพระราชดำริในหลวง รัชกาลที่ 9 โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาการเลี้ยงหอยแครงในบ่อดินร่วมกับปลานวลจันทร์ทะเลและ สาหร่ายพวงองุ่นให้กับเกษตรกรและถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กลุ่มเกษตรกรนำไปใช้เป็นแนวปฏิบัติตามหลัก เศรษฐกิจพอเพียง การดำเนินงานประกอบด้วยกิจกรรม 1) บ่อต้นแบบการเลี้ยงหอยแครงในบ่อดิน (ร่องคูน้ำ สวนมะพร้าว) แบบผสมผสาน 2) การพาเกษตรกรศึกษาดูงานการเลี้ยงหอยแครงในบ่อดิน ตำบลคลองด่าน จังหวัดสมุทรปราการ และ 3) การถ่ายทอดองค์ความรู้คืนข้อมูลสู่ชุมชน ได้แก่ การเลี้ยงหอยแครงในบ่อดิน การเพาะขยายแพลงก์ตอนพืช การเลี้ยงปลานวลจันทร์ทะเล และ การเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่น สถานที่ตั้งบ่อสาธิตต้นแบบการเลี้ยงหอยแครงในบ่อดินแบบผสมผสานนี้เดิมกำหนดไว้เป็นบ่อดินที่บ้าน แหลมมะขาม อำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด แต่ประสบปัญหาความไม่พร้อมของเกษตรกรและของบ่อดิน จึง เปลี่ยนสถานที่ดำเนินการมาอยู่ที่ตำบลห้วงน้ำขาว อำเภอเมือง จังหวัดตราด ซึ่งเป็นสวนมะพร้าวที่ขุดดินยก ร่องคูน้ำและมีประตูปิดเปิดน้ำเข้าออกจำนวน 2 ประตู หลังจากเตรียมบ่อดิน ทำการกั้นคอกด้วยตาข่ายในร่อง คูน้ำสวนมะพร้าวจำนวน 2 คอกๆละ 1 ไร่ ในเดือนพฤษภาคม 2565 ระดับความเค็มน้ำในบ่อประมาณ 18 พีพี ที หว่านหอยแครงที่ซื้อจากตำบลคลองโคน (หอยแครงนำเข้าจากประเทศพม่า) จังหวัดสมุทรสงคราม ขนาด 1000 ตัว/กก และซื้อจากชาวประมงจังหวัดตราด (หอยแครงพื้นถิ่น) ขนาด 250 ตัว/กก ชนิดละ 100 กกต่อไร่ ในเดือนสิงหาคม 2565 ระดับความเค็มน้ำในบ่อประมาณ 5-6 พีพีที ปล่อยปลานวลจันทร์ทะเลขนาด 2-3 นิ้ว จำนวน 1200 ตัวต่อไร่ และในเดือนธันวาคม 2565 ระดับความเค็มของน้ำประมาณ 25-27 พีพีที เลี้ยงสาหร่าย พวงองุ่นแบบแขวนแผงใต้น้ำ ระดับความลึกของน้ำในร่องคูน้ำตลอดระยะเวลาเลี้ยงสัตว์น้ำมีค่าระหว่าง 35-80 เซนติเมตร หอยแครงที่ซื้อจากตำบลคลองโคน จังหวัดสมุทรสงครามตายหมดภายใน 1 สัปดาห์เนื่องจากปริมาณ ฝนที่ตกต่อเนื่องทำให้ระดับความเค็มของน้ำในบ่อต่ำรวดเร็ว ระดับน้ำเค็มที่ต่ำนี้มีผลให้ชนิดและปริมาณ แพลงก์ตอนพืชลดลง น้ำในบ่อที่ระดับความเค็มระหว่าง 5-8 พีพีที ในระยะเวลา 3 เดือนแรกหอยแครงพื้นถิ่น จังหวัดตราดเจริญเติบโตดี หลังจากนั้นหอยแครงเริ่มมีน้ำหนักลดลงและพบหอยแครงตายประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์เมื่อระดับความเค็มของน้ำต่ำเป็นระยะเวลานานกว่า 4 เดือน เมื่อระดับความเค็มของน้ำในบ่อสูงขึ้น หอยแครงมีการเจริญเติบโตรวดเร็วและหลังจากเลี้ยงเป็นระยะเวลา 6 เดือนมีจำนวน 106 ตัว/กกซึ่งเป็นขนาด ที่ขายในตลาด ส่วนปลานวลจันทร์ทะเลมีการเจริญเติบโตช้ามาก หลังจากเลี้ยงเป็นระยะเวลา 5 เดือน ปลา นวลจันทร์ทะเลมีน้ำหนักเฉลี่ยและความยาวทั้งหมดเฉลี่ยเท่ากับ 70.4±15 กรัม และ 22.7±1.9 เซนติเมตร ตามลำดับ ในการทำกิจกรรมนี้ไม่ประสบผลสำเร็จในการเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นแบบแขวนแผงเนื่องมาจากปัจจัย ระดับความเค็มน้ำทะเลที่ไม่เหมาะสมและปัจจัยตะกอนดินปริมาณมากในน้ำทับถมบนแผงทำให้สาหร่าย สังเคราะห์แสงได้น้อยและไม่เจริญเติบโต โดยสรุป การดำเนินงานโครงการนี้บรรลุเป้าหมายในการเลี้ยงหอยแครงในบ่อดินร่วมกับปลา นวลจันทร์ทะเล แต่ควรเลี้ยงในบ่อดินที่มีความลึกมากกว่า 1 เมตร เนื่องจากลูกหอยแครงมีราคาแพง เกษตรกร ที่มีบ่อดินจึงสนใจในการเลี้ยงปลานวลจันทร์ทะเล และในเดือนมีนาคม 2566 เกษตรกรจำนวน 2 รายได้ ดำเนินการเตรียมบ่อเลี้ยงปลานวลจันทร์ทะเลร่วมกับสัตว์น้ำพื้นถิ่นในบ่อดินพื้นที่4 ไร่ ที่บ้านเขาน้อย อำเภอ แหลมงอบ จังหวัดตราด
บทคัดย่อ (EN): Earthen ponds that have been abandoned for shrimp farming can be repurposed for integrated aquaculture systems, which enable farmers to use their ponds more efficiently and generate sufficient income. This initiative was inspired by the efforts of His Majesty King Rama IX. The project aims to promote the development of integrated blood cockle culture systems in earthen ponds and disseminate research findings to farmers. The project involves three main activities: 1) establishing a model for integrated blood cockle farming in earthen ponds, 2) visiting a blood cockle farm in Khlong Dan Sub-district, Samut Prakan Province to learn about blood cockle farming in earthen ponds, and 3) sharing research knowledge on topics such as blood cockle farming, mass culture of phytoplankton, milkfish farming and deboning, and green algae culture with farmers. Initially, it was planned to establish an integrated blood cockle pond at Laem Makham in Trat Province, but the local farmers and their ponds were not ready to participate in the project. As a result, the project was relocated to a coconut plantation in Huang Nam Khao, Mueang District, Trat Province, where two net pens of approximately one rai each were set up in ditches that were connected to two inlet-outlet gates. The ponds were prepared by drying the soil, removing predators, and taking other necessary steps. In May 2022, 100 kg of blood cockle seed were released into each net pen. The blood cockle seed, which were purchased from a farm in Samut Songkhram Province, had a density of 1000 pieces per kilogram and were originally from Myanmar. In addition, local blood cockle seed were purchased from a Trat Province fisherman at a density of 250 pieces per kilogram. By August 2022, the water salinity had decreased to about 5-6 ppt., at which point 1,200 milkfish fry measuring 2-3 inches in length were introduced into each net pen. In December 2022, the water salinity had increased to around 25-27 ppt., and green grape seaweed was planted in plastic frames and suspended in the ponds. Throughout these activities, the water depth in the trench was maintained at between 35-80 centimetres. Unfortunately, all the blood cockle seed obtained from Thumbol Klong Khon in Samut Songkram Province died within a week due to a rapid drop in water salinity during the rainy season. This led to a sharp decrease in the abundance of phytoplankton as well. However, the local blood cockle seed were able to survive and showed good growth during the first three months when the salinity level ranged between 5-8 ppt. After that, the blood cockles began to lose weight and about 40% of them died when exposed to low salinity for longer than four months. Once the water salinity increased to normal levels, the blood cockles exhibited rapid growth and reached the marketable size of approximately 106 pieces per kilogram within six months of rearing periods. In the case of milkfish, the average weight and length were 70.4±15 g and 22.7±1.9 cm, respectively, after five months of rearing, which is considered to be a slow growth rate. Unfortunately, the attempt to cultivate green grape seaweed failed due to the variation in salinity levels associated with high amounts of sediment deposition on the frames, which inhibited photosynthesis and growth. In conclusion, the objectives of the project were attained with regards to the integrated farming of blood cockles and milkfish, however, it was found that the ponds should be deeper than one metre. Despite the success of blood cockle farming in earthen ponds, farmers were not interested in culture blood cockle as the price of the cockle seed was expensive. On the other hand, farmers were interested in culturing milkfish and, by March 2023, two of them have already set up a four-rai pond to integrate milkfish farming with some local aquatic species at Ban Khao-noi, Laem Ngop District, Trat Province.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ
คำสำคัญ: การเลี้ยงแบบผสมผสาน
คำสำคัญ (EN): Integrated farming
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การพัฒนาการเลี้ยงหอยแครงในบ่อดินแบบผสมผสานของเกษตรกรในอำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด ตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ
2566
การพัฒนาเกษตรกรเพื่อสร้างชุมชนการพึ่งพาตนเองด้านการจัดการสุขภาพปศุสัตว์เบื้องต้น การถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นในการเพิ่มมูลค่าฉี่และมูลไส้เดือนดิน ตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การวิเคราะห์ดิน และความชื้นในดินจากภาพถ่าย เพื่อพัฒนาโมบายแอพพลิเคชั่นสารสนเทศแนะนำการปรับปรุงดินสำหรับพืชเศรษฐกิจทางเลือกของจังหวัดพิษณุโลก การพัฒนาพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ลูกผสมเชิงการค้าโดยการบูรณาการงานวิจัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของภาครัฐ (ปีที่ 2) การถ่ายทอดองค์ความรู้และนวัตกรรมการผลิตอาหารอัดเม็ดคุณภาพสูงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้ออย่างยั่งยืน การถ่ายองค์ความรู้และนวัตกรรมการผลิตอาหารต้นทุนต่ำโดยใช้วัตถุดิบอาหารในท้องถิ่น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงจิ้งหรีด นวัตกรรมการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารเสริมชะลอวัยและเพิ่มมูลค่าจากสารสกัดหอมแดงศรีสะเกษ GI แบบครบวงจร เพื่อพัฒนายกระดับเศรษฐกิจให้กับเกษตรกรผู้ปลูกหอมแดงในจังหวัดศรีสะเกษ รายงานผลการวิจัย โครงการวิจัยและวางแผนเพื่อพัฒนาการศึกษา จังหวัดปัตตานี การไร้ที่ดินทำกินของเกษตรกรในภาคใต้ตอนล่าง พ.ศ. 2530 การพัฒนากระบวนการแปรสภาพเส้นใยจากใบอ้อย เพื่อการออกแบบผลิตภัณฑ์สิ่งทอตามแนวคิดนิเวศเศรษฐกิจ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก