สืบค้นงานวิจัย
ศึกษาการป้องกันกำจัดวัชพืชที่สำคัญในสวนยางในเขตแห้งแล้ง
อารักษ์ จันทุมา - การยางแห่งประเทศไทย
ชื่อเรื่อง: ศึกษาการป้องกันกำจัดวัชพืชที่สำคัญในสวนยางในเขตแห้งแล้ง
ชื่อเรื่อง (EN): Control of Major Weed in Rubber Plantation of Ustic Moiture Regime
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: อารักษ์ จันทุมา
บทคัดย่อ: ทดลองใช้สารเคมีกำจัดหญ้าคาในสวนยางเขตแห้งแล้ง แบ่งออกเป็น 4 การทดลองวางแผนการทดลอง RCB จำนวน 4 ซ้ำ การทดลองที่ 1 มี 8 วิธีการ คือวิธีการที่ 1 – 3 สารไกลโฟเสท อัตรา 200, 320 และ 480 กรัม สารออกฤทธิ์ต่อไร่ วิธีการที่ 4 – 6 ใช้สาร ไกลโฟเสทร่วมกับ น้ำมัน เบอร์ 1097, 1756 และ 2634 อัตรา 200 + 200 กรัม สารออกฤทธิ์ต่อไร่ วิธีการที่ 7 – 8 เป็นการตัดและไม่กำจัดวัชพืชเลย การทดลองที่ 2 มี 10วิธีการ ดังนี้ วิธีการที่ 1 – 4 สารอิมัลสเฟอร์ อัตรา 40, 60, 80, และ 100 กรัม สารออกฤทธิ์ต่อไร่ วิธีการที่ 5 – 8 เป็นการใช้อิมัลสเฟอร์ร่วมกัน สารจับในเบอร์ 969, 356, 609 และ 744 เปรียบเทียบกับวิธีการที่ 9 และ 10 เป็นการตัดและไม่ใช้สารเคมีควบคุมวัชพืช การทดลองที่ 3 มี 10 วิธีการ วิธีการที่ 1 – 3, วิธีการที่ 4 – 6 และ 7 – 9 เป็นการใช้สารไกลโฟเสท และอิมัลสเฟอร์ ผสมกับน้ำ 3 ชนิด คือ น้ำกลั่น น้ำประปาหรือน้ำบ่อใส และน้ำคลอง ซึ่งมีตะกอนขุ่นแขวนลอย วิธีการที่ 10 ไม่ใส่สารเคมี การทดลองที่ 4 มี 5 วิธีการคือ วิธีการที่ 1 และ 2 สารไกลโฟเสท 41% ในรูปของเกลือโซเดียม และเกลืออามีน วิธีการที่ 3 สารอิมัลสเฟอร์ 10% วิธีการที่ 4 สารไกลโฟเสท 70% ในรูปของเกลือโซเดียม เปรียบเทียบกับวิธีที่ 5 ไม่ใช้สารเคมี ดำเนินการในฤดูฝน ปี 2534 ถึงกลางฤดูฝน ปี 2535 ที่ศูนย์วิจัยยางฉะเชิงเทรา ผลการทดลองพบว่า การทดลองที่ 1 การใช้น้ำมันพืชผสมกับสารไกลโฟเสท อัตรา 200 กรัม (a . i .) / ไร่ ในสัดส่วน 1 : 1 ยังไม่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมหญ้าคาได้แตกต่างจากเดิม การทดลองที่ 2 การใช้สารจับใบผสมกับสารอิมัลสเฟอร์ ทั้ง 4 ชนิด ในอัตรา 1 : 1 จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมวัชพืชของสารเคมีดังกล่าวได้ แตกต่างกับทางสถิติ การทดลองที่ 3 แสดงให้เห็นว่าสารเคมีไกลโฟเสท, พาราขวัท และอิมัลสเฟอร์ เมื่อผสมใช้กับน้ำกลั่น น้ำบ่อใส และน้ำคลอง ซึ่งมีตะกอนแขวนลอย ปรากฏว่า ความสามารถในการควบคุมหญ้าคาลดลง 10 % ตามคุณภาพของน้ำ แต่ไม่มีความแตกต่างกับทางสถิติ การทดลองที่ 4 สารเคมีไกลโฟเสท ที่อยู่ในรูปของเกลือโซเดียมหรือ ไอโซโปรฟิว อามีน 41% อัตรา 360 กรัม (a . i .) / ไร่ และรูปของเกลือโซเดียม 41% อัตรา 360 กรัม (a . i .) / ไร่ ให้ผลในการกำจัดวัชพืชต่ำกว่าวิธีการอื่น ๆ แต่วิธีการใช้สารเคมีกำจัดวัชพืชทุกวิธีการดีกว่าไม่ใช้สารเคมีกำจัดวัชพืช
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: การยางแห่งประเทศไทย
คำสำคัญ: สวนยางเขตแห้งแล้ง
คำสำคัญ (EN): Ustic Moiture Regime
เจ้าของลิขสิทธิ์: การยางแห่งประเทศไทย
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ศึกษาการป้องกันกำจัดวัชพืชที่สำคัญในสวนยางในเขตแห้งแล้ง
การยางแห่งประเทศไทย
ไม่ระบุวันที่เผยแพร่
การปลูกพืชเศรษฐกิจในสวนยางเขตแห้งแล้ง การใช้สารเคมีกำจัดวัชพืชชนิดอื่น ๆ ในสวนยาง ประสิทธิภาพของสารกำจัดวัชพืชบางชนิดในไร่ชา ศึกษาการป้องกันกำจัดวัชพืชในแปลงกิ่งตายาง ศึกษาวิธีการใส่ปุ๋ยร่วมกับการกำจัดวัชพืชในนาดำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การแข่งขันระหว่างข้าวกับวัชพืชจากการใส่ปุ๋ยรองพื้นระยะเวลาต่างๆ ในนาหว่านข้าวแห้ง เทคโนโลยีการปลูกสร้างสวนยางในพื้นที่แห้งแล้ง อิทธิพลของสารกำจัดวัชพืชประเภทก่อนงอกและอัตราการหว่านต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตถั่วเขียวผิวดำ โครงการวิจัยทดสอบและพัฒนาเครื่องกำจัดวัชพืชสำหรับสวนลำไย ผลของปุ๋ยต่อการแข่งขันระหว่างเดือยกับวัชพืชภายใต้สภาพแวดล้อมที่ต่างกัน
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก