สืบค้นงานวิจัย
การย่อยสลายของเสียบางชนิดในบ่อเลี้ยงกุ้งกุลาดำแบบพัฒนาโดยกลุ่มแบคทีเรีย
สาลินี ผลมาตย์ - มหาวิทยาลัยบูรพา
ชื่อเรื่อง: การย่อยสลายของเสียบางชนิดในบ่อเลี้ยงกุ้งกุลาดำแบบพัฒนาโดยกลุ่มแบคทีเรีย
ชื่อเรื่อง (EN): Biodegradation of Selected Wastes Releasing in the Intensive Black Tiger Shrimp Pond by Bacterial Consortium
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สาลินี ผลมาตย์
บทคัดย่อ: ดินตะกอนจากบ่อกุ้งกุลาดำมีจุลินทรีย์ผสมที่สามารถย่อยสลายแอมโมเนีย ไนเตรท ไนไตรต์และฟอสเฟตได้ภายใต้สภาวะที่ออกซิเจนและภายใต้สภาวะที่มีออกซิเจนและไนเตรท และสามารถแยกแบคทีเรียได้ คือ ไอโซเลท SP-1 บนอาหารแข็ง BT ที่มีแอมโมเนีย ไนเตรท ไนไตรต์และฟอสเฟตเป็นองค์ประกอบ แต่แบคทีเรีย SP-1 ไม่สามารถย่อยสลายและเจริญได้ในอาหารเหลวที่มีสารดังกล่าวข้างต้นเป็นองค์ประกอบ และเมื่อนำแบคทีเรีย SP-1 มาตรวจสอบ การย่อยสลายในน้ำและดินตะกอนจากบ่อเลี้ยงกุ้ง พบว่าสามารถย่อยสลายสารอินทรีย์ไนโตรเจน และทำให้เกิดการสะสมของแอมโมเนีย แบคทีเรีย SP-1 จึงน่าที่จะเป็นแบคทีเรียกลุ่มแอมโมนิฟายอิ้ง สารละลายดินตะกอนและสารละลายนมพลาสเจอรไรซ์เสีย มีจุลินทรีย์ที่สามารถย่อยสลายแอมโมเนีย ไนเตรท ไนไตรต์และฟอสเฟตได้ภายใต้สภาวะที่มีออกซิเจน และภายใต้สภาวะที่มีออกซิเจนและไนเตรทได้ใกล้เคียงกัน เมื่อคัดแยกแบคทีเรียจากแหล่งของจุลินทรีย์ทั้งสอง พบว่า Enterobacter และ Aeromonas เป็นแบคทีเรียส่วนใหญ่ที่สามารถย่อยสลายสารเหล่านั้นได้ทั้งสองสภาวะ จึงนำเอาแบคทีเรียมาผสมกันแล้วนำไปตรวจสอบความสามารถในการย่อยสลายสารเหล่านั้นพบว่า กลุ่มแบคทีเรียสามารถย่อยสลายภายใต้สภาวะที่มีออกซิเจนและภายใต้สภาวะที่มีออกซิเจนและไนเตรทได้ใกล้เคียงกัน แต่ภายใต้สภาวะที่มีออกซิเจนมีกลุ่มแบคทีเรียย่อยสลายไนไตรท์ได้ (94.78 เปอร์เซ็นต์) ดีกว่าภายใต้สภาวะที่มีออกซิเจนที่มีออกซิเจนและไนเตรท (81.06 เปอร์เซ็นต์) ภายในระยะเวลา 15 วัน เมื่อนำมาทดสอบประสิทธิภาพการย่อยสลายในบ่อกุ้งจำลอง แต่จะมีการสะสมของแอมโมเนีย ไนเตรท ไนไตรต์และฟอสเฟต จากการศึกษาในครั้งนี้พบว่า การใช้แบคทีเรียในการควบคุมคุณภาพน้ำในขณะที่มีการเติมขี้เลนลงไปในระบบสูงเกินไป จะไปส่งผลให้กลุ่มแบคทีเรียย่อยสลายสารอินทรีย์มากกว่าไปย่อยสลายสารที่ต้องการ ทำให้คุณภาพน้ำในบ่อเลี้ยงกุ้งจำลองไม่ดีขึ้น
บทคัดย่อ (EN): Mixed microgranisms in collected students from shrimp pond were able to degrade ammonia, nitrare, nitrite and phosphate under aerobic and aerobic denitrifying conditions.SP-1 strain was isolated from those sediments pnto BT media containing ammonia, nitrate, nitrite and phosphate. However, SP-1 strain can not degrade and grow in liquid media or in shimp pond water containing selected substances. In contrast, it converted organic nitrogen and accumalated ammonia in those cultures. This findings suggested that SP-1 strain could be and ammonifying bacteria. Sediments and deteriorated pasteurized milk slurries also consisted of microorganisms which were able to degrade ammonia, nitrate, nitrite and phophate under aerobic and aerobic denitrifying conditions. Entrobacter and Aeromonas were majority of isolated bacteria from both clutures. The mixed culture of Entrobacter 2 isolates and Aeromonas 1 isolate were setup fpr studying the capability of selected substrances under aerobics and aerobic denitrifying conditions. Obtain results showed that mixed cultures can degrade selected substrances in the similar fasion, while the mixed cultures can degrade intrite under aerobic (94.78%) and aerobic denitrifying conditions (81.06%) within 15 days. Then the mixed cultures were utilized to simulate in the shimp pond. The mixed cultures can degrade organic materials from 1.84% to 1.76% and can accumalate ammonia, nitrate, nitrite and phosphate within 7 days of incubation. In this study , it is found that biodegrading bacteria could cause the deterioration of water quality in the case of hight amount of black, anaerobic organic material accumulation of the pond sediment.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=95&RecId=7834&obj_id=58221
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยบูรพา
คำสำคัญ: การย่อยสลายทางชีวภาพ
คำสำคัญ (EN): 333
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยบูรพา
รายละเอียด: Mixed microgranisms in collected students from shrimp pond were able to degrade ammonia, nitrare, nitrite and phosphate under aerobic and aerobic denitrifying conditions.SP-1 strain was isolated from those sediments pnto BT media containing ammonia, nitrate, nitrite and phosphate. However, SP-1 strain can not degrade and grow in liquid media or in shimp pond water containing selected substances. In contrast, it converted organic nitrogen and accumalated ammonia in those cultures. This findings suggested that SP-1 strain could be and ammonifying bacteria. Sediments and deteriorated pasteurized milk slurries also consisted of microorganisms which were able to degrade ammonia, nitrate, nitrite and phophate under aerobic and aerobic denitrifying conditions. Entrobacter and Aeromonas were majority of isolated bacteria from both clutures. The mixed culture of Entrobacter 2 isolates and Aeromonas 1 isolate were setup fpr studying the capability of selected substrances under aerobics and aerobic denitrifying conditions. Obtain results showed that mixed cultures can degrade selected substrances in the similar fasion, while the mixed cultures can degrade intrite under aerobic (94.78%) and aerobic denitrifying conditions (81.06%) within 15 days. Then the mixed cultures were utilized to simulate in the shimp pond. The mixed cultures can degrade organic materials from 1.84% to 1.76% and can accumalate ammonia, nitrate, nitrite and phosphate within 7 days of incubation. In this study , it is found that biodegrading bacteria could cause the deterioration of water quality in the case of hight amount of black, anaerobic organic material accumulation of the pond sediment.
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

สาลินี ผลมาตย์. "การย่อยสลายของเสียบางชนิดในบ่อเลี้ยงกุ้งกุลาดำแบบพัฒนาโดยกลุ่มแบคทีเรียBiodegradation of Selected Wastes Releasing in the Intensive Black Tiger Shrimp Pond by Bacterial Consortium". มหาวิทยาลัยบูรพา. 2546

สาลินี ผลมาตย์. "การย่อยสลายของเสียบางชนิดในบ่อเลี้ยงกุ้งกุลาดำแบบพัฒนาโดยกลุ่มแบคทีเรียBiodegradation of Selected Wastes Releasing in the Intensive Black Tiger Shrimp Pond by Bacterial Consortium". มหาวิทยาลัยบูรพา. 2546. Print.



TARR Wordcloud:
การย่อยสลายของเสียบางชนิดในบ่อเลี้ยงกุ้งกุลาดำแบบพัฒนาโดยกลุ่มแบคทีเรีย
สาลินี ผลมาตย์
มหาวิทยาลัยบูรพา
2546
การประยุกต์ใช้โพรไบโอติกในการเลี้ยงกุ้งกุลาดำ (Penaeus monodon) ประสิทธิภาพในการลดไนเทรต ไนไทรด์ แอมโมเนียและฟอสเฟต ในบ่อเลี้ยงกุ้งกุลาดำระบบปิด โดยแบคทีเรียผสม การพัฒนาระบบหมุนเวียนน้ำแบบปิดด้วยการใช้สาหร่ายและตัวกรองชีวภาพในการบำบัดในบ่อเลี้ยงกุ้งกุลาดำแบบพัฒนา การพัฒนาเครื่องหมายติดภายในและการประมาณค่าอัตราพันธุกรรมต่อการเติบโตของกุ้งกุลาดำ Penaeus monodon Fabricius, 1798 โดยวิธี Full-sib analysis อิทธิพลของความเค็มระดับต่ำที่มีการเจริญเติบโตอัตราการรอดตายและสรีรวิทยาการหายใจของลูกกุ้งกุลาดำวัยอ่อน (penaeus monodon fabricius) ผลของปริมาณฟอสฟอรัสในอาหารต่อการเจริญเติบโตของกุ้งกุลาดำ (Penaeus monodon) ที่เลี้ยงในบ่อดินระบบความเค็มต่ำ การศึกษาแนวทางการเลี้ยงกุ้งกุลาดำที่ประสบความสำเร็จของเษตรกร จังหวัดฉะเชิงเทรา ความสัมพันธ์ทางวิวัฒนาการของกุ้งสกุล Metapenaeus บางชนิดที่พบทางภาคตะวันออกของประเทศไทยโดยการวิเคราะห์ลำดับนิวคลีโอไทด์ของยีน 16S rRNA และ COI บนไมโทคอนเดรีย ผลของคลอเรลลาและออสซิลาตอเรียต่อ วิบริโอ ฮาวีอาย 1526 ในการเลี้ยงกุ้งกุลาดำ ผลของวัสดุทางการเกษตรในการช่วยสลายไพรีนและฟีแนนทรีนโดยกลุ่มแบคทีเรีย RRM-V3
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair