สืบค้นงานวิจัย
การสำรวจและวิจัยการระบาดของโรคและศัตรูยางที่สำคัญ เพื่อสร้างระบบการเตือนภัย
อุไร จันทรประทิน - การยางแห่งประเทศไทย
ชื่อเรื่อง: การสำรวจและวิจัยการระบาดของโรคและศัตรูยางที่สำคัญ เพื่อสร้างระบบการเตือนภัย
ชื่อเรื่อง (EN): Surveying and Assessment of Rubber Disease and Pest Epidemic for Development of a Forecasting System
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: อุไร จันทรประทิน
บทคัดย่อ: การสำรวจการระบาดของโรคและศัตรูยางที่สำคัญเพื่อสร้างระบบการเตือนภัย เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนตุลาคม 2547-กันยายน 2551 โดยการสำรวจการระบาดของโรคที่เกิดกับยางพารา ความรุนแรงของโรค แหล่งเกิดโรคและสภาพแวดล้อมที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ปลูกยางทุกภาคของประเทศไทย เพื่อใช้เป็นข้อมูลปัจจุบัน นำมาประมวลผลร่วมกับข้อมูลทางสถิติการระบาดที่ผ่านมา ข้อมูลด้านอุตุนิยมวิทยา ข้อมูลวิชาการด้านโรคและพืชที่เกี่ยวข้องจากการศึกษาวิจัย และการตรวจเอกสาร เพื่อนำไปสรุปผลจัดทำคำพยากรณ์หรือคาดการณ์การระบาดของศัตรูพืช และเตือนภัยให้เกษตรกรได้เฝ้าระวัง และเลือกการจัดการสวนที่เหมาะสม ผลการดำเนินงานได้แบ่งการระบาดของโรคออกเป็น 2 เขตคือ การระบาดของโรคในเขตภาคใต้หรือเขตปลูกยางเดิม และการระบาดของโรคในเขตภาคตะวันออกและตะวันออกเฉียงเหนือ หรือเขตปลูกยางใหม่ ผลจากการสำรวจพบว่าความรุนแรงของโรคในแต่ละปีจะเปลี่ยนแปลงไปตามความแปรปรวนของสภาพอากาศ ช่วงการระบาดอาจเร็วหรือช้า ต่างกันบ้างเล็กน้อย โดยสรุปตามฤดูกาลปกติ ในเขตปลูกยางเดิม โรคราแป้งระบาดช่วงเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม โรคใบจุดตานก ระบาดช่วงเดือนเมษายน-กรกฎาคม ใบจุดก้างปลาระบาดช่วงเดือนเมษายน-ธันวาคม ใบจุดนูนระบาดช่วงเดือนพฤษภาคม-ธันวาคม ใบร่วงไฟทอปโทรา โรคเส้นดำ ราสีชมพู เปลือกเน่า และโรคราก ระบาดช่วงเดือนมิถุนายน-ธันวาคม ในเขตปลูกยางใหม่ จะพบโรคราแป้งช่วงเดือนธันวาคมถึงมีนาคม โรคใบจุดตานก ใบจุดนูน ใบร่วงไฟทอปโทรา โรคราสีชมพู โรคเส้นดำและโรคราก ระบาดช่วงเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม โรคใบจุดก้างปลาระบาดช่วงเดือนสิงหาคม-ตุลาคม โรคที่พบระบาดเป็นประจำทุกปี และมีผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ หากมีการระบาดอย่างรุนแรง มี 3 โรคคือ โรคราแป้ง โรคใบร่วงไฟทอปโทรา และโรคราก โรคราแป้ง ระบาดค่อนข้างรุนแรงในเขตปลูกยางภาคตะวันออกและตะวันออกเฉียงเหนือ แต่ในเขตภาคใต้ความรุนแรงจะน้อยกว่า บางปีเช่นปี 2548 ช่วงเดือนมีนาคมไม่พบการระบาดเลยในบางพื้นที่ในเขตภาคใต้ตอนล่าง และพบว่าการระบาดของโรคราแป้ง มีความสัมพันธ์กับปริมาณน้ำฝนและระยะของใบยาง ปริมาณน้ำฝนที่เหมาะสมกับการระบาดของโรคราแป้ง คือประมาณ 100 มิลลิเมตรหรือมากกว่าเล็กน้อย และใบยางในระยะที่เพิ่มผลิใบเป็นใบอ่อนหรือในระยะใบเพสลาด จะอ่อนแอต่อโรคมาก พื้นที่ที่เป็นโรคค่อนข้างรุนแรงคือ จ.จันทบุรี ตราด พังงา พัทลุง และสงขลา ส่วนโรคใบร่วงไฟทอปโทรา จะมีความสัมพันธ์กับปริมาณน้ำฝนที่ตกหนักติดต่อกัน การระบาดของโรคใบร่วงจะค่อนข้างรุนแรงในพื้นที่ที่มีปริมาณน้ำฝนมากกว่า 1800 มิลลิเมตร สภาพที่ทำให้เกิดโรคใบร่วงคือปริมาณน้ำฝน 25 มิลลิเมตรต่อวัน ฝนตกติดต่อกัน 3-4 วัน และหลายช่วง มีแสงแดดน้อยกว่า 3 ชั่วโมงต่อวัน อุณหภูมิต่ำกว่า 29°C ความชื้นสัมพัทธ์สูงกว่า 80% การระบาดของโรคราแป้งอย่างรุนแรงมีผลทำให้ความรุนแรงของโรคใบร่วงไฟทอปโทราน้อยลง เนื่องจากฝักยางที่เป็นแหล่งระบาดของโรคใบร่วง จะถูกเชื้อรา Oidium เข้าทำลาย ทำให้ไม่ติดฝัก พื้นที่ที่พบการระบาดค่อนข้างรุนแรงคือ จ.จันทบุรี ตราด พังงา ระนอง พัทลุง สงขลา และนราธิวาส ส่วนโรครากของยางพาราพบระบาดในทุกพื้นที่ที่ปลูกยาง โรครากสามารถพบได้ตลอดทั้งปี แต่การระบาดจะรุนแรงในช่วงฤดูฝน โดยเฉพาะโรครากขาว ซึ่งสามารถระบาดได้เร็วกว่าโรครากน้ำตาลและโรครากแดง เป็นโรคที่สำคัญ ทำให้สูญเสียทางเศรษฐกิจมากที่สุด เนื่องจากทำให้ต้นยางตาย ปัจจุบันสัดส่วนของสวนยางที่มีการระบาดของโรครากเพิ่มมากขึ้นถึงร้อยละ 8 สภาพที่เหมาะสมต่อการเกิดโรครากคือ พื้นที่ที่มีฝนตกชุก ปริมาณน้ำฝนตั้งแต่ 1300 มิลลิเมตรขึ้นไป อุณหภูมิ 27-30 C pH9 เจริญได้ดีในที่มืด ความชื้นสัมพัทธ์ตั้งแต่ 50-100% พื้นที่ที่พบสวนยางเป็นโรครากขาวมากคือ จ.ชุมพร พังงา กระบี่ พัทลุง สงขลา และนราธิวาส การเลือกปลูกพันธุ์ยางที่ต้านทานโรคจะช่วยลดความรุนแรงของโรคลงได้ พันธุ์ยางที่มีโอกาสเป็นโรคราแป้งรุนแรง มักเป็นพันธุ์ที่ผลัดใบช้า เช่น BPM24, PB235, RRIT156, PB255, GT1 ส่วนพันธุ์ RRIM600 ผลัดใบเร็วกว่าจึงเป็นโรคราแป้งน้อยมาก จากข้อมูลการประเมินโรคในแปลงเปรียบเทียบพันธุ์ขั้นปลาย ที่ ศบป.กระบี่ (คลองท่อม) และ ศบป.จันทบุรี ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการเลือกใช้พันธุ์ยาง เช่น การประเมินความต้านทานโรคของพันธุ์ยาง RRIT ชุด 200 ที่ ศบป.กระบี่ (คลองท่อม) ซึ่งมีพันธุ์ RRIT226 ที่ถูกคัดเลือกเป็นพันธุ์แนะนำชั้น 1 และ RRIT225 ถูกคัดเลือกเป็นพันธุ์แนะนำชั้น 2 ในคำแนะนำพันธุ์ยาง ปี 2550 ผลการประเมินโรคในแปลงค่อนข้างสอดคล้องกับการทดสอบในห้องปฏิบัติการคือ RRIT226 ค่อนข้างต้านทานต่อโรคใบร่วงไฟทอปโทราและราแป้ง ส่วนพันธุ์ RRIT225 ค่อนข้างต้านทานต่อโรคใบร่วงไฟทอปโทรา แต่ต้านทานปานกลางถึงอ่อนแอต่อโรคราแป้ง แต่ข้อมูลในแปลงที่ ศบป.จันทบุรี พบว่า RRIT225 เป็นพันธุ์ที่อ่อนแอต่อโรคใบร่วงไฟทอปโทรา เช่นเดียวกับ RRIM600 ซึ่งอ่อนแอต่อโรคใบร่วงในทุกพื้นที่ นอกจากนั้นพันธุ์ RRIT226 ยังมีเปอร์เซ็นต์ต้นเป็นโรคเส้นดำและราสีชมพู ค่อนข้างน้อย แต่มีเปอร์เซ็นต์ต้นเป็นโรคเปลือกแห้งค่อนข้างสูง จึงควรระวังการกรีดถี่ เช่นเดียวกับพันธุ์ RRIT225, พันธุ์ยางที่อ่อนแอต่อโรคราสีชมพู มีพันธุ์ RRIC101, RRIC110, RRIC121, RRIT225 และ RRIM600 การเลือกใช้พันธุ์ยางจึงควรพิจารณาเลือกใช้ให้เหมาะสม โรคใบชนิดอื่น ๆ ที่สำคัญที่ควรเฝ้าระวังและใช้พันธุ์ยางที่ต้านทานต่อโรค คือโรคใบจุดก้างปลา แม้ว่าจะพบการระบาดน้อยมากในแปลงยางทั่วไป แต่พบการระบาดค่อนข้างรุนแรงกับพันธุ์ยางทดลองบางพันธุ์ รวมทั้งยางชำถุง ส่วนโรคอื่น ๆ พบการระบาดน้อยมากและไม่รุนแรง ในเขตภาคใต้ตอนบน สำรวจพบโรคยางที่ยังไม่ปรากฏในรายงานกับต้นยางในประเทศไทย โดยพบอาการบนใบยางกับต้นยางชำถุงและแปลงกล้ายาง จากการพิสูจน์เบื้องต้นพบว่าเกิดจากเชื้อ Rhizoctonia sp. ซึ่งควรศึกษาถึงเชื้อสาเหตุ นิเวศวิทยา และการป้องกันต่อไป ส่วนแมลงศัตรูยางที่สำคัญ และพบมากในเขตปลูกยางภาคใต้และมีแนวโน้มการระบาดและทำลายต้นยางเล็กเป็นพื้นที่กว้างคือ หนอนทราย และปลวก ซึ่งพบทำลายทั้งในยางใหญ่และยางเล็ก แต่พบน้อยกว่าหนอนทราย นอกจากนั้นในภาคตะวันออก มีศัตรูยางที่ควรเฝ้าระวังคือ หนอนกัดกินเปลือก พบระบาดช่วงเดือนตุลาคม-มกราคม โดยการกัดกินเปลือกงอกใหม่ ส่งผลกระทบต่อการกรีดยางในรอบถัดไป
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: การยางแห่งประเทศไทย
คำสำคัญ: ระบบการเตือนภัย
คำสำคัญ (EN): Development of a Forecasting System
เจ้าของลิขสิทธิ์: การยางแห่งประเทศไทย
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การสำรวจและวิจัยการระบาดของโรคและศัตรูยางที่สำคัญ เพื่อสร้างระบบการเตือนภัย
การยางแห่งประเทศไทย
ไม่ระบุวันที่เผยแพร่
โครงการวิจัยและพัฒนาเพื่อแก้ปัญหาโรคใบขาวของอ้อย การระบาดของโรคยางพาราที่สำคัญ และผลกระทบต่อผลผลิตน้ำยางพันธุ์แท้แนะนำ การระบาดของโรคยางพาราที่สำคัญ และผลกระทบต่อผลผลิตของยางพันธุ์แนะนำ สำรวจแหล่งโรคและศัตรูยางในพื้นที่ปลูกยาง การพยากรณ์การระบาดของโรคและแมลงศัตรูหม่อน การเตือนภัยการระบาดล่วงหน้าของโรคไข้เลือดออกในประเทศไทยโดยใช้ปัจจัยด้านกีฏวิทยา ระบาดวิทยา และอุตุนิยมวิทยา โดยการวิเคราะห์ด้วยสถิติขั้นสูงและระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ การเฝ้าระวังและเตือนภัยการระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลและโรคไหม้ การตลาดยางของชาวสวนยางรายย่อยในเขตภาคใต้ตอนบน สำรวจและประเมินระดับความรุนแรงของโรคยางพารา การจัดการระบบนิเวศน์เพื่อลดการระบาดของแมลงศัตรูข้าว
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก