สืบค้นงานวิจัย
ดินโป่งในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี
จิราณี วานิชกุล - มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง
ชื่อเรื่อง: ดินโป่งในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี
ชื่อเรื่อง (EN): NaturalSalt-Licks inMaenamPhachi WildlifeSanctuary
บทคัดย่อ: บทคัดย่อ การศึกษาส้ารวจโป่งธรรมชาติในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้้าภาชีจังหวัดราชบุรี มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทราบจ้านวน ต้าแหน่ง การกระจาย สมบัติต่างๆของดินโป่งธรรมชาติและดินป่าที่อยู่ใกล้เคียง รวมทั้งร่องรอยการใช้ประโยชน์ของสัตว์ป่า สามารถใช้ข้อมูลดังกล่าวแยกดินโป่งออกจากดินป่าได้ และน้าผลไปใช้ในการอนุรักษ์โป่งธรรมชาติและการเสริมโป่งเทียมอย่างเหมาะสม การส้ารวจโป่งท้าในเดือนมกราคม -กุมภาพันธุ์ 2552 บันทึกข้อมูลและเก็บตัวอย่างดินโป่งและดินป่าธรรมชาติที่อยู่ใกล้เคียงไปวิเคราะห์สมบัติต่างๆรวมทั้งปริมาณธาตุอาหาร วิเคราะห์ผล ทางสถิติโดยใช้ค่าเฉลี่ย ความเบี่ยงเบนมาตราฐาน ทดสอบความแตกต่างของสมบัติดินโป่ง และดินป่าโดยใช้ t-test ในการส้ารวจได้พบโป่งธรรมชาติรวม 20 โป่ง ประกอบด้วย โป่งเป็น 16 โป่งและโป่งร้าง 4 โป่ง กระจายอยู่เป็นกลุ่ม 7 กลุ่ม พบในป่าดิบแล้ง 13 โป่ง ป่าดิบชื้น 4 โป่งและป่าเบญจพรรณ 3 โป่ง อยู่ในบริเวณที่เป็นภูเขาและล้าห้วย ความลาดชันระดับราบถึงชันมาก ที่ระดับความสูง 230 – 608 เมตรจากระดับน้้าทะเล และพบร่องรอยการใช้ประโยชน์ของสัตว์รวม 16 ชนิด โดยพบร่องรอยของเก้งมากที่สุด รองลงมา คือ เลียงผา โป่งส่วนใหญ่มีดินตื้น ดินโป่งเป็นมีปริมาณอินทรีย์วัตถุต่้ากว่าและความหนาแน่นรวมและปริมาณแร่ธาตุส่วนใหญ่สูงกว่าดินป่าเล็กน้อย ปริมาณโซเดียม คลอรีนและทองแดงสูงกว่าดินป่ามากและมีนัยส้าคัญทางสถิติ (t = 3.169*,2.326* และ 2.738*) ดินโป่งร้างและดินป่ามีสมบัติต่างๆ ใกล้เคียงกัน แต่ดินป่ามีทองแดงมากกว่าดินโป่งร้างอย่างมีนัยส้าคัญทางสถิติ (t = 2.973*) ดินโป่งเป็นแตกต่างจากดินโป่งร้าง คือ มีปริมาณโซเดียมและคลอรีนสูงกว่า ปริมาณสังกะสีและทองแดงต่้ากว่าอย่างมีนัยส้าคัญทางสถิติ (t =3.148*,2.324* , -2.318*และ -2.698*) การรักษาสภาพโป่งเป็นและสร้างโป่งเทียมดินโป่งเป็นควรมีปริมาณโซเดียม คลอรีน สังกะสีและทองแดงอย่างน้อย 30.0 , 36.9, 0.5 และ 0.1 ppm รวมทั้งพิจารณาปริมาณธาตุอื่นๆและสมบัติของดินประกอบด้วย เช่น pH เนื้อดิน ความหนาแน่นรวม และปริมาณอินทรีย์วัตถุ
บทคัดย่อ (EN): The objective of this survey study in Maenam Phachi Wildlife Sanctuary, Ratchaburi , was to acquire information on the number , location , distribution patterns, soil properties , mineral content of natural salt-licks and traces left by wildlife feeding at the salt licks. The information can be used to distinguish natural salt - licks soils from forest soils as well as to promote conservation of natural salt-licks and preparation of artificial salt-licks. The survey study was conducted during January and February 2009 . Data and samples from natural salt-licks and forest soils were collected and analyzed using means, standard deviations and t-test to compare the characteristics differences of natural salt-licks and forest soils. Twenty natural salt-licks found were comprised of 16 active and 4 defected salt-licks. Natural salt- licks distributed in cluster pattern . Thirteen salt-licks were found in the dry evergreen forest , four in the moist evergreen forest and three in the mixed deciduous forest. They were located in 7 clusters in mountain and stream areas , on flat to very steep slope, and they were 230 – 608 meters above sea level. Sixteen species of wild animals used the active salt-licks. Barking deer and serows , respectively , left the most tracks and signs. Most natural salt-licks had shallow soils. Soils from active natural salt-licks had less soil organic matter than forest soils , but soil density and most of mineral content were slightly higher . But sodium, chlorine and copper in active salt-licks soils were all significantly higher than those in forest soils(t = 3.169*,2.326* and 2.738*). Overall, the properties of defected natural salt-licks and forest soils were similar except that copper in forest soils was significantly higher (t = 2.973*). The sodium and chlorine in active natural salt-licks were significantly higher than those in defected natural salt-licks, but zinc and copper were significantly lower (t =3.148*,2.324*, -2.318*and -2.698*). It was suggested that the conservation of active natural salt-licks and the preparation of artificial ones should include at least 30.0, 36.9, 0.5, and 0.1 ppm of sodium, chlorine, zinc and copper, respectively. Consideration should also put on other minerals and soil properties such as pH , texture, density and organic matter in soil.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง
คำสำคัญ: เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ดินโป่งในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี
มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง
30 กันยายน 2552
การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนในการอนุรักษ์และฟื้นฟูชะนีที่ถูกคุกคามและใกล้สูญพันธุ์ใกล้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว จ. จันทบุรี และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย จ. แม่ฮ่องสอน นิเวศวิทยา ประชากร และแนวทางในการแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างช้างป่า (Elephas maximus) และชาวบ้าน ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง จังหวัดเลย ความหลากหลายทางชีวภาพของเห็ดกินได้และเห็ดมีพิษ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา จังหวัดลพบุรี การศึกษาสังคมของสัตว์กลุ่มไก่ฟ้า ณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง: นิเวศวิทยา พฤติกรรมการสืบพันธุ์ การเลือกใช้ถิ่นที่อยู่อาศัย และการซ้อนทับกันของความต้องการทาง นิเวศวิทยาในสัตว์กลุ่มไก่ฟ้าแต่ละชนิด การศึกษาสังคมของสัตว์กลุ่มไก่ฟ้า ณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง: นิเวศวิทยา พฤติกรรมการสืบพันธุ์ การเลือกใช้ถิ่นที่อยู่อาศัย และการซ้อนทับกันของความต้องการทางนิเวศวิทยาในสัตว์กลุ่มไก่ฟ้าแต่ละชนิด การศึกษาสังคมของสัตว์กลุ่มไก่ฟ้า ณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง: นิเวศวิทยา พฤติกรรมการสืบพันธุ์ การเลือกใช้ถิ่นที่อยู่อาศัย และการซ้อนทับกันของความต้องการทางนิเวศวิทยาในสัตว์กลุ่มไก่ฟ้าแต่ละชนิด การพัฒนาระบบการจัดการน้ำเพื่ออนุรักษ์แหล่งต้นน้ำเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกาอย่างยั่งยืน โครงการจัดตั้งแปลงศึกษาวิจัยนิเวศวิทยาป่าไม้เพื่อการติดตามการเปลี่ยนแปลงประชากรนกป่าอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ป่าดิบแล้งและป่าเบญจพรรณ ณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง (ระยะที่ 2) ผลกระทบทางนิเวศวิทยาของกิจกรรมมนุษย์ต่อการกระจายและนิเวศวิทยาของวัวแดง (Bos javanicus) กระทิง (Bos gaurus) และช้างป่า (Elephant maximus) ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ การวิจัยและพัฒนาเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา ป่าฝืนสุดท้ายของภาคกลาง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก