สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาการบริหารจัดการเทคโนโลยีการเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลัง กรณีศึกษา ภาคเหนือและภาคกลาง
สุภัทร หนูแย้ม - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
ชื่อเรื่อง: การศึกษาการบริหารจัดการเทคโนโลยีการเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลัง กรณีศึกษา ภาคเหนือและภาคกลาง
ชื่อเรื่อง (EN): The study of technology management to increase productivity of cassava: A Case Study in the Central and the North
บทคัดย่อ: ในการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการบริหารจัดการเทคโนโลยีการเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังของภาคเหนือและกลาง ด้วยเทคโนโลยีในรูปแบบต่างๆ เพื่อหาแนวทางในการพัฒนาระบบการผลิตที่เหมาะสมต่อเกษตรภาคตะวันภาคเหนือและกลาง โดยการพัฒนาแบบจำลองทำการศึกษาจากงานวิชาการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการสำรวจเกษตรกรที่ประสพความสำเร็จในการผลิตมันสำปะหลังในภาคภาคเหนือและกลาง พบว่า ภาคเหนือ เกษตรกรนิยมปลูกพืชอื่นผสมผสานมีการร่วมกลุ่ม และมีการปลูกข้าวโพดสลับกับมันสำปะหลัง เพื่อใช้เศษวัสดุเหลือจากข้าวโพดเป็นปุ๋ยพืชสด และมีการบริหารความเสี่ยงราคาสำปะหลังเมื่อราคาตกต่ำ โดยภาคกลางพื้นที่ส่วนใหญ่ไม่เหมาะสมต่อการปลูกมันสำปะหลัง แต่เกษตรกรก็แก้ปัญหาโดยปลูกพืชหมุนเวียน เรื่องการใช้ปุ๋ยซึ่งเกษตรกรภาคเหนือจะใช้ปุ๋ยอินทรีย์ร่วมกับเคมีมากถึงร้อยละ 80 และเกษตรกรภาคกลางมีการใช้ปุ๋ยเคมีร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์เพียงร้อยละ 33.3 ซึ่งมีอัตราส่วนเท่ากับเกษตรกรที่ใช้ปุ๋ยเคมีเพียงอย่างเดียว โดยผลผลิตเฉลี่ยภาคเหนือ 5.5 ตันต่อไร่ และสามารถผลิตได้สูงสุดตั้งแต่ 5-13 ตันต่อไร่ ส่วนผลผลิตเฉลี่ยภาคกลาง 5.2 ตัน/ไร่ และสามารถผลิตได้สูงสุดตั้งแต่ 4-12 ตันต่อไร่ โดยผลวิเคราะห์ดิน N-P-K และ pH ของภาคเหนือและภาคกลาง ซึ่งมีค่า N-P-K และ pH ที่เหมือนกัน พบว่าพื้นที่เพาะปลูกของเกษตรกรจะมีปริมาณไนเตรท ไม่มี-ต่ำมาก ปริมาณ P มีค่า ต่ำและ ปานกลาง ปริมาณ K มีค่า ต่ำทั้งหมด ปุ๋ยที่แนะนำคือ 16-8-16 และ 16-4-16 ค่า pH ที่มีความเหมาะสมคือ 5-6 โดยจากการศึกษาพื้นที่เกษตรกรทั้งภาคเหนือและภาคกลาง มีค่า 5.5-6.5 ส่วนของต้นทุนการผลิตของภาคเหนือ อยู่ระหว่าง 2,410-6,425 บาทต่อไร่ จะกำไรสุทธิ 1,775–9,990 บาทต่อไร่ ขึ้นอยู่กับผลผลิตต่อไร่ ส่วนต้นทุนการผลิตของภาคกลางอยู่ระหว่าง1,200-4,800 บาทต่อไร่ เป็นการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ร่วมกับปุ๋ยเคมี กำไรสุทธิ 2,700-5,200 บาทต่อไร่ โดยเกษตรกรมีการใช้แรงงานในครัวเรือนในการเก็บเกี่ยวเป็นส่วนใหญ่และจ้างค่าขนส่ง ส่วนการจัดการดูแลมีไม่มาก ทำให้ลดต้นทุนการผลิตต่ำ เมื่อเปรียบเทียบกับข้อมูลสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรได้ศึกษาเกษตรกรปลูกมันสำปะหลังมีต้นทุนทั้งหมดเฉลี่ยเท่ากับ 6,876.93 บาทต่อไร่ กำไร 2,686.55 บาทต่อไร่ การวิเคราะห์ประสิทธิภาพการผลิตด้วยวิธี Multi-criteria Decision Analysis (MCDA) โดยสร้างแบบจำลองพื้นฐาน จำนวน 10 แบบจำลอง วิเคราะห์ด้านเศรษฐศาสตร์ (Financial + Economic) ด้านสิ่งแวดล้อม/ทรัพยากร ด้านสังคม และด้านวิทยาศาสตร์/วิศวกรรม โดยการพัฒนาเพิ่มศักยภาพการผลิตด้านวิทยาศาสตร์/วิศวกรรม ของภาคเหนือและภาคกลาง ซึ่งเป็นปัจจัยหลักภาคเหนือสามารถพัฒนาเพิ่มได้ 5-17 % จากกระบวนการเตรียมดินต้องมีการไถดินดานทุกๆ 3-4 ปี และการบำรุงดินด้วยปุ๋ยอินทรีย์ควรทำอย่างต่อเนื่องๆ โดยภาคเหนือมีดินที่มีความเหมาะสม ดินร่วนปนทราย (sandy loam) 60.63% และดินทรายปนร่วน (loamy sand) 10.0 % รวมเป็น 70.63% ของพื้นที่ภาคเหนือ ส่วนของภาคกลางสามารถเพิ่มได้ 8-21 % แต่พื้นที่ภาคกลางมีปริมาณดินทรายปนร่วนและดินร่วนปนทรายเพียงร้อยละ 23.8 ที่เป็นพื้นที่เหมาะสม เพราะฉะนั้นในส่วนภาคกลางต้องมุ่งเน้นการบำรุงดินและเลือกพื้นที่เหมาะสมในการเพาะปลูก ซึ่งปัจจุบันหน่วยงานราชการเร่งพัฒนาศูนย์เรียนรู้เพื่อแก้ปัญหา การประเมินด้านสิ่งแวดล้อมและทรัพย์กรภาคเหนือและภาคกลาง ภาคเหนือพบว่าสามารถพัฒนาเพิ่มได้ 9-13 % ถ้าเกษตรกรใช้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มาช่วยในการบริหารการจัดการผลิตหรือปรับปรุงพื้นฐานด้านทรัพยากร เช่น การปลูกพืชชนิดอื่นๆ ด้วย ส่วนภาคกลางพบว่าสามารถพัฒนาเพิ่มได้ 9-13 % ถ้าเกษตรกรใช้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มาช่วยในการบริหารการจัดการผลิตหรือปรับปรุงพื้นฐานด้านทรัพยากร เช่น การปลูกพืชชนิดอื่นด้วยเพื่อลดความเสี่ยงต่ออิทธิพลด้านสิ่งแวดล้อม การเตรียมดินอย่างถูกวิธี การบำรุงดิน การปลูกพืชหมุนเวียน การให้น้ำในช่วงที่แล้ง จะทำให้เกษตรกรสามารถเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุน ซึ่งจากกระประเมินเบื้องต้นพื้นที่ภาคเหนือจะเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาคในการผลิตมันในอนาคต ส่วนด้านปัจจัยทางด้านเศรษฐศาสตร์และด?านสังคมและองค?กรผลการวิเคราะห์พบว่า ภาคเหนือยังมีแนวทางที่ได้ 5-8 % และ 7-10% ซึ่งจากการสำรวจและเปรียบเทียบแนวทางการปฏิบัติของเกษตรกร เกษตรกรภาคเหนือมีการร่วมกลุ่มได้ดี และสามารถสร้างศักยภาพในการผลิตและลดต้นทุนได้ ส่วนภาคกลางสามารถพัฒนาเพิ่มได้ 4-8 % และ 7-13% จากการสำรวจและเปรียบเทียบแนวทางการปฏิบัติของเกษตรกร เกษตรกรภาคกลางขาดการร่วมกลุ่ม แต่เกษตรกรมีการใช้แรงงานภายในครัวเรือน ซึ่งทำให้ปัจจัยในด้านการลงทุนลดต่ำลงไปด้วย
บทคัดย่อ (EN): The aims of this project were to study on the technology management for the increase of the cassava production in the North and central region of Thailand. The various technologies were used to develop the suitable technology for Northeast agriculture area. The model was developed from previous study, related organization and the successful agriculturists. The results expressed the agriculturists integrate the other vegetation in the field such as corn and cassava. The by-product of corn could be used as fresh fertilizer. The risk administration could be preparation such as rotated crops. The most central area was not suitable for cassava growing. The both of chemical and organic fertilizers were applied together for 80% for North region and 33.3% for central region which was equal to the chemical fertilizer usage. The cassava production from Northern region was 5.5 Ton/Rai or in the range of 5-13 Ton/Rai and the production from central region was 5.2 Ton/Rai or in the range of 4-12 Ton/Rai. The soil survey and analysis of N-P-K showed not found or low nitrate content in the cultivated area. The phosphorus content was low to medium values while the potassium content was low in all area. The fertilizer suggestion was calculated which was 16-8-16 and 16-4-16 for Northern and central area. The pH of soil showed 5.5-6.5 while the suitable pH are 5-6. The cost production of Northern region was evaluated between 2410-6425 Baht/Rai with net profit 1,775-9,990Baht/Rai which depended on the amount of production while the cost production of central region 1200-4800 Baht/Rai with net profit 2700-5200 Baht/Rai. The household was the major labor and there are easy to management caused the low cost production. The Office of Agricultural Economics reported the average of cassava cost was 6876.93 Baht/Rai and profit was 2686.55 Baht/Rai. The efficiency of production was evaluated using Multi-criteria Decision Analysis (MCDA). The 10 fundamental models were invented for analysis in term of Financial/Economic, Environment/Resource, Social and Science/Engineering which were the major parameters. They could be improved 5-17% increase for Northern region with plough up and over every 3-4 years and used the organic fertilizer continuously. The suitable soil consisted of 60.63% sandy loam and 10.0% loamy sand which was appeared in Northeast area. The central region, they could be improved 8-21%. The suitable soil was only 23.8% which were sandy loam and loamy sand. Thus, the soil enrichment and selected suitable area for cultivation were focused. The government organization developed the study center for solving problems. The environment/resource of Northern part could be increased 9-13% with the scientific information management such as integrated plants while central part could be increased 9-13% with the scientific information management such as growth other plants to reduce the risk of environment, soil preparation, soil enrichment, rotated crops, water feeding which affected production increase and cost reduction. The evaluation showed Northern region was the potential area for cassava production. Moreover, the results showed the economic and social of Northern region could increase 5-8% and 7-10%, respectively. The accompany with agriculturists caused the potential production increase and cost reduction whereas the central region could be increase 4-8% and 7-13%, respectively. Accompany with agriculturists was not found but they were the household labor cause the cost reduction.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
คำสำคัญ: ภาคเหนือและภาคกลาง
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาการบริหารจัดการเทคโนโลยีการเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลัง กรณีศึกษา ภาคเหนือและภาคกลาง
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
30 กันยายน 2557
การศึกษาการบริหารจัดการเทคโนโลยีการเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลัง กรณีศึกษา ภาคตะวันออก การศึกษาความเป็นไปได้ในการผลิตเชื้อเพลิงแอลกอฮอล์จากมันสำปะหลัง : การศึกษาความเป็นไปได้ทางเศรษฐกิจ โครงการการผลิตแอลกอฮอล์จากมันสำปะหลังเพื่อเป็นพลังงานทดแทน ผลของการใช้จุลินทรีย์จาวปลวกต่อการเพิ่มผลผลิตของมันสำปะหลัง ผลของชนิดและอัตราการใช้ถ่านชีวภาพต่อการเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังในดินกรด ผลของการปลูกพืชตระกูลถั่วแซมต่อการเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลัง การศึกษาหากลุ่มยีนที่จำเพาะต่อวิถีการใช้คาร์บอนในรากมันสำปะหลังที่ส่งผลต่อลักษณะที่โดดเด่นในการสร้างและสะสมแป้ง การไถทำลายชั้นดานร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์ที่มีผลต่อการเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังอย่างยั่งยืน แนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรปลาทู-ลัง บริเวณอ่าวไทยตอนล่าง โครงการวิจัยและพัฒนาเครื่องกำจัดวัชพืชและใส่ปุ๋ยในไร่มันสำปะหลัง การถ่ายทอดเทคโนโลยีการจัดการปุ๋ยมันสำปะหลังเฉพาะพื้นที่
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก