สืบค้นงานวิจัย
การชะละลายของตะกั่วและกำลังรับแรงอัดจากการหล่อแข็งกากตะกอนของโรงงานแบตเตอรี่โดยใช้กากแคลเซียมคาร์ไบด์และขี้เถ้าแกลบ
Pornsuda Sirisawetvarin - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: การชะละลายของตะกั่วและกำลังรับแรงอัดจากการหล่อแข็งกากตะกอนของโรงงานแบตเตอรี่โดยใช้กากแคลเซียมคาร์ไบด์และขี้เถ้าแกลบ
ชื่อเรื่อง (EN): Lead leachability and compressive strength of solidified battery waste sludge using calcium carbide waste and rice husk ash
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Pornsuda Sirisawetvarin
บทคัดย่อ: 0.036 มิลลิกรัมต่อลิตรที่อัตราส่วนกาก ตะกอน 0.25 และระยะเวลาการบ่ม 21 วัน ซึ่งปริมาณตะกั่วที่ชะละลายออกมาทุกชุดการทดลองนั้นผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม อัตราส่วนที่เหมาะสมในการศึกษาครั้งนี้ระหว่าง กากแคลเซียมคาร์ไบด์ : ขี้เถ้าแกลบ : อัตราส่วนของน้ำต่อวัสดุ ประสาน:ทราย คือ 0.4:0.6:0.65:2.75 และอัตราส่วนของกากตะกอนที่ 0.25 ซึ่งทั้งค่ากำลังรับแรงอัดและปริมาณตะกั่วที่ ชะละลายออกมานั้นผ่านเกณฑ์มาตรฐานตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม การชะละลายของตะกั่วสามารถทำนายได้จากสมการ การชะละลายของตะกั่ว (มิลลิกรัมต่อลิตร) = - 0.020 + (0.092 ค่ากำลังรับแรงอัด) (R2 = 0.886)
บทคัดย่อ (EN): 0.036 mg/L at 21 days. All average amounts of leached lead met the requirements of the Ministry of Industry of Thailand. The optimum ratio of CCW : RHA : sand : w/b ratio : sludge was 0.4:0.6:2.75:0.65:0.25 which provided a compressive strength and the amount of lead leached that met the criteria requirement of the Ministry of Industry of Thailand. At this ratio,the predicted leaching lead equation in this study was Leaching lead (mg/L) = -0.020 + (0.092 Compressive strength) (R2 = 0.886)
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=464&obj_id=2515
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Rice hull ash
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: 0.036 มิลลิกรัมต่อลิตรที่อัตราส่วนกาก ตะกอน 0.25 และระยะเวลาการบ่ม 21 วัน ซึ่งปริมาณตะกั่วที่ชะละลายออกมาทุกชุดการทดลองนั้นผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม อัตราส่วนที่เหมาะสมในการศึกษาครั้งนี้ระหว่าง กากแคลเซียมคาร์ไบด์ : ขี้เถ้าแกลบ : อัตราส่วนของน้ำต่อวัสดุ ประสาน:ทราย คือ 0.4:0.6:0.65:2.75 และอัตราส่วนของกากตะกอนที่ 0.25 ซึ่งทั้งค่ากำลังรับแรงอัดและปริมาณตะกั่วที่ ชะละลายออกมานั้นผ่านเกณฑ์มาตรฐานตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม การชะละลายของตะกั่วสามารถทำนายได้จากสมการ การชะละลายของตะกั่ว (มิลลิกรัมต่อลิตร) = - 0.020 + (0.092 ค่ากำลังรับแรงอัด) (R2 = 0.886)
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การชะละลายของตะกั่วและกำลังรับแรงอัดจากการหล่อแข็งกากตะกอนของโรงงานแบตเตอรี่โดยใช้กากแคลเซียมคาร์ไบด์และขี้เถ้าแกลบ
Pornsuda Sirisawetvarin
มหาวิทยาลัยมหิดล
29 กรกฎาคม 2552
ผลกระทบของขนาดอนุภาคขี้เถ้าแกลบและกากตะกอนของเสียจากโรงงานแบตเตอร์รี่ต่อกำลังรับแรงอัดและการชะละลายของแท่งหล่อแข็ง กำลังรับแรงอัดอัดของก้อนของเสียหล่อแข็งกากตะกอนจากโรงชุบที่ใช้กากแคลเซียมคาร์ไบด์และเถ้าแกลบดำเป็นวัสดุยึดประสาน และใช้ปูนซีเมนต์ และโซเดียมซิลิเกตในการกระตุ้นปฎิกิริยาปอซโซลาน การหล่อแข็งกากตะกอนตะกั่วโดยใช้ปูนซีเมนต์ขี้เถ้าแกลบและขี้เถ้าลอย อิทธิพลของชนิของสารกระตุ้นประเภทด่างที่มีต่อกำลังรับแรงอัดของก้อนของเสียหล่อแข็งกากตะกอนจากโรงชุบที่ใช้กากแคลเซียลคาร์ไบด์และเถ้าแกลบดำเป็นวัสดุประสาน การใช้ประโยชน์กากแคลเซียมคาร์ไบด์ในการกำจัดตะกั่วในนำ้เสียจากอุตสาหกรรมแผงวงจรไฟฟ้า กำลังอัดและความทนทานของคอนกรีตที่ใช้จากแคลเซียมคาร์ไบด์บดร่วมกับเถ้าชานอ้อยเป็นวัสดุประสาน การใช้ประโยชน์กากตะกอนจากโรงงานแป้งมันดัดแปรผสมกับเศษถ่านผลิตเป็นเชื้อเพลิงอัดแท่ง สมบัติของก้อนหล่อแข็งกากตะกอนโลหะหนักที่ใช้ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์และเถ้าแกลบดำเป็นวัสดุยึดประสาน การใช้ประโยชน์จากกากตะกอนน้ำเสียโรงงานฟอกย้อมในการผลิตปุ๋ย การตรึงกากตะกอนโลหะหนักโดยการกระตุ้นเถ้าแกลบด้วยสารเคมีและความร้อน : ความสามารถในการชะโลหะหนัก
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก