สืบค้นงานวิจัย
แป้งข้าวเจ้าซัคซีเนตและซัคซีเนตแทนที่และการประยุกต์ใช้ประโยชน์ในทางเภสัชกรรม
รศ.ดร. อรอนงค์ กิตติพงษ์พัฒนา - มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ชื่อเรื่อง: แป้งข้าวเจ้าซัคซีเนตและซัคซีเนตแทนที่และการประยุกต์ใช้ประโยชน์ในทางเภสัชกรรม
ชื่อเรื่อง (EN): Succinate and Substituted Succinate Rice Starch and Pharmaceutical Applications
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: รศ.ดร. อรอนงค์ กิตติพงษ์พัฒนา
บทคัดย่อ: แป้งดิบข้าวเจ้าชัยนาท 1 สุพรรณบุรี 2 และพิษณุโลก 1 ซึ่งมีปริมาณอะมิโลสร้อยละ 27.9, 24.6, และ 16.1 ตามลำดับ ถูกนำมาดัดแปรด้วยปฏิกิริยาเคมีเอสเทอริฟิเคชันด้วยซัคซินิคแอนไฮไดรด์ ออกทีนิลซัคซินิคแอนไฮไดรด์ และโดเดซินิลซัคซินิคแอนไฮไดรด์ ปริมาณร้อยละ 3 ที่เวลาต่างๆ กัน 6 ระดับ นำแป้งดัดแปรที่ได้ไปศึกษาสมบัติทางเคมีกายภาพ สมบัติเชิงกล และสมบัติเชิงหน้าที่ทางเดียวกันให้ร้อยละของผลผลิตที่ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ แต่ในระหว่างกลุ่มปฏิกิริยาที่แตกต่างกันพบว่า แป้งดัดแปรชนิดออกทีนิลซัคซิเนต (OSA) และโดเดซินิลซัคซิเนต (DDSA) จะให้ร้อยละผลผลิตระหว่าง 90-98 ซึ่งสูงกว่าแป้งดัดแปรซัคซิเนต (SA) ที่ให้ผลผลิตอยู่ในช่วงร้อยละ 78-88 ค่าปริมาณความชื้นของแป้งดัดแปร (11-15%) ไม่แตกต่างจากของแป้งดิบ (12-14%) อย่างมีนัยสำคัญ ค่าระดับการแทนที่ของ OSA, DDSA และ SA อยู่ในช่วง 0.12-0.25, 0.14-0.22 และ 0.11-0.27 ตามลำดับ ค่าปริมาณแป้งต้านทานการย่อย (RS) เริ่มต้นของแป้งดิบชัยนาท สุพรรณบุรี และพิษณุโลก มีค่าเท่ากับร้อยละ 12.7, 7.4 และ 3.2 ตามลำดับ ซึ่งเมื่อทำปฏิกิริยาด้วย OSA แล้วมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นสูงสุดถึงร้อยละ 21.4 ในตัวอย่างแป้งชัยนาท 1 ที่ทำปฏิกิริยานาน 6 ชั่วโมง ขณะที่ปฏิกิริยาดัดแปรด้วย DDSA ให้ผลค่า RS เพิ่มขึ้นสูงสุดร้อยละ 16.4 ในตัวอย่างแป้งชัยนาท 1 ที่ทำปฏิกิริยานาน 3 ชั่วโมง ส่วนปฏิกิริยา SA ไม่มีตัวอย่างแป้งที่ให้ผลค่า RS เพิ่มขึ้น การละลายและการพองตัวในน้ำของแป้งดิบและแป้งดัดแปรของแป้งชนิดต่างๆ มีรูปแบบที่คล้ายคลึงกัน โดยแป้งดิบจะไม่ละลายหรือละลายน้ำได้น้อยมาก ( ช้าวเจ้าสุพรรณบุรี 2 > ข้าวเจ้าพิษณุโลก 1 ภายหลังการดัดแปรด้วยปฏิกิริยาเคมี ค่าอุณหภูมิการเกิดเป็นเจลมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และช่วงอุณหภูมิการเกิดเป็นเจลกว้างขึ้น เช่นเดียวกับค่าเอนทาลปีของการเกิดเป็นเจลที่มีค่าเพิ่มขึ้น บ่งชี้ถึงความเป็นระเบียบที่เพิ่มมากขึ้นของการจัดเรียงตัวภายในโมเลกุลของแกรนูลแป้ง ซึ่งเป็นผลมาจากการเกิดปฏิกิริยาแทนที่ แนวโน้มดังกล่าวพบในแป้งที่เตรียมจากแป้งดิบชัยนาท และสุพรรณบุรี แต่มีความแตกต่างไปในแป้งพิษณุโลก กล่าวคือ ที่ระยะเวลาการทำปฏิกิริยาที่นานขึ้น (> 18 h) แป้งพิษณุโลก OSA มีการเปลี่ยนแปลงลดลงของอุณหภูมิการเกิดเป็นเจล และค่าเอนทาลปี ขณะที่ช่วงอุณหภูมิของการเกิดเป็นเจลแคบลงอย่างมีนัยสำคัญ แสดงถึงการสูญเสียความเป็นระเบียบของโครงสร้างภายในแกรนูล และสอดคล้องกับค่าปริมาณแป้งต้านทานการย่อยที่ลดลงอย่างชัดเจนในแป้งดัดแปรกลุ่มนี้ การศึกษาค่าความจุการดูดซึมน้ำมัน พบว่าแป้งดัดแปรมีความจุการดูดซึมน้ำมันอยู่ในช่วง 0.97-1.15 g/g โดยแป้งดัดแปรที่เตรียมจากแป้งข้าวพิษณุโลกมีค่าความจุการดูดซึมน้ำมันสูงกว่าแป้งชนิดอื่น และระยะเวลาที่ใช้ในการทำปฏิกิริยาเตรียมแป้งที่นานขึ้น จะทำให้แป้งดัดแปรที่ได้มีความสามารถในการดูดซับน้ำมันเพิ่มมากขึ้นด้วย ด้านสมบัติการเป็นสารก่ออิมัลชัน ศึกษาที่ความเข้มข้นร้อยละ 8 ของเนื้อแป้งพบว่าแป้งดิบและแป้งดัดแปร SA ให้อิมัลชันที่ไม่คงตัว ขณะที่แป้งดัดแปร OSA หรือ DDSA หลายตัวเป็นสารก่ออิมัลชันที่ดี โดยในกลุ่ม OSA พบว่า OSA-3, 7 และ 10 ให้อิมัลชันที่มีลักษณะดีมาก ขณะที่ในกลุ่ม DDSA พบว่า DDSA-3, 4, 6 และ 13 ให้อิมัลชันที่ดีที่สุด การตรวจสอบลักษณะหยดอนุภาคอิมัลชันภายใต้กล้องจุลทรรศน์ที่เวลา 3 เดือน หลังจากการเตรียม พบลักษณะของอิมัลชันชนิดน้ำมันในน้ำที่มีการกระจายของขนาดอนุภาคที่สม่ำเสมอ ไม่พบอนุภาคขนาดใหญ่ที่บ่งชี้การรวมตัวกันของอนุภาคขนาดเล็ก แสดงให้เห็นถึงความคงตัวของเนื้ออิมัลชันในทุกตำรับ
บทคัดย่อ (EN): Native rice starches, Chainat-1 (CN), Suphanburi-2 (SP) and Phitsanulok-1 (PL), with amylose content of 27.9, 24.6, and 16.1%, respectively, were esterified with 3%w/w succinic anhydride (SA), octenyl succinic anhydride (OSA) and dodecenyl succinic anhydride (DDSA) at 6 different reaction times. The modified starches were subjected to physico-chemical, physico-mechanical studies, as well as a pharmaceutical functional property test as an emulsifying agent. The results showed similar yields among different starch materials of the same reaction, but OSA and DDSA reactions gave higher yields (90-98%) than that of SA (78-88%). The moisture contents of modified starch (11-15%) were not significantly different from that of native starches (12-14%). The degrees of substitution were 0.12-0.25, 0.14-0.22 and 0.11-0.27 for OSA, DDSA and SA, respectively. The resistant starch (RS) contents of CN, SP and PL were 12.7, 7.4 and 3.2%, respectively. Upon modification, the highest RS contents of 21.4 and 16.4% were obtained from CN modified with OSA for 6 h, and with DDSA for 3 h, respectively. Modification with SA did not result in an increase in RS content. The solubility/swellability profiles of native and modified starches were similar. Native starch was insoluble or very slightly soluble in water ( SP > PL. After modification, both Tg and ?H tended to increase, with a broader range of gelatinization temperature, indicating a more ordered arrangement within the starch granules, as a result of esterification. Such trend was found in CN- and SP-modified starches. PL-modified starches exhibited different behaviors in that the Tg, DH decreased as reaction time increased more than 18 h, while Tg range decreased significantly, suggesting a loss of ordered conformation. This is supported by a prominent decrease in RS contents. The oil-absorbing capacity (OAC) was between 0.97 and 1.15 g/g, with PL-modified starches having higher values than others. The longer reaction time yielded modified starches with better OAC values. Emulsifying property, evaluated at 8%w/w showed that native and SA starches yielded unstable emulsions, while several OSA and DDSA exhibited good emulsifying property. OSA-3, 7, 10, as well as DDSA-3, 4, 6, 13, yielded good emulsions. Evaluation of emulsion droplets after 3-month storage under a microscope showed stable, uniformly-distributed, oil-in-water emulsions without large particles. This indicated a stable emulsion.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
คำสำคัญ: สารช่วยทางเภสัชกรรม
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
แป้งข้าวเจ้าซัคซีเนตและซัคซีเนตแทนที่และการประยุกต์ใช้ประโยชน์ในทางเภสัชกรรม
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
30 กันยายน 2558
แป้งข้าวก่ำดัดแปรและผลิตภัณฑ์จากข้าวก่ำเพื่อประโยชน์ด้านสุขภาพ เชิงป้องกัน น้ำสมุนไพรดื่มดีมีประโยชน์ 9 ประโยชน์ของวิตามินซี การพัฒนากระบวนการเพาะเลี้ยงสไปรูลิน่าเพื่อการผลิตผงสีซี-ไฟโคไซยานินและการประยุกต์ใช้ในผลิตภัณฑ์อาหาร ประโยชน์และโทษของการบริโภคนํ้าส้มสายชูหมักแอปเปิ้ลไซเดอร์ การใช้ประโยชน์ของชุดตรวจดินภาคสนามสำหรับให้คำแนะนำปุ๋ยในการปลูกข้าว ในจังหวัดนครสวรรค์ การใช้ประโยชน์ของชุดตรวจดินภาคสนามสำหรับให้คำแนะนำปุ๋ยในการปลูกข้าว ในจังหวัดเชียงใหม่ การประยุกต์ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อพัฒนาศักยภาพการผลิตโคขุนของสมาชิกสหกรณ์การเลี้ยงปศุสัตว์ กรป. กลาง โพนยางคำ จำกัด การใช้ประโยชน์ชุดตรวจดินภาคสนามกรมพัฒนาที่ดินสำหรับให้คำแนะนำปุ๋ยสำหรับการปลูกข้าวในจังหวัดน่าน การประยุกต์ใช้เมี่ยงหมักและน้ำเมี่ยงให้เกิดประโยชน์ทางการแพทย์และเภสัชกรรม
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก