สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาความชุกและปัจจัยเสี่ยงของปัญหาขาเจ็บในโคนมในเขตภาคตะวันตก
ศุภชาติ ปานเนียม - มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ชื่อเรื่อง: การศึกษาความชุกและปัจจัยเสี่ยงของปัญหาขาเจ็บในโคนมในเขตภาคตะวันตก
ชื่อเรื่อง (EN): A Study of Prevalence and Risk Factors of Dairy Cattle Lameness in Western of Thailand
บทคัดย่อ: ศึกษาความชุกของกีบและขาเจ็บและวิการของกีบ โดยทำการเก็บข้อมูลวิการของกีบในโคนมในจังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี และนครปฐม รวมทั้งสิ้น 1,151 ตัว จาก 66 ฟาร์ม พบว่าความชุกของปัญหากีบและขาเจ็บ (locomotion score ? 3) เท่ากับ 21.98% โดยกีบด้านในของขาหน้าซ้ายและขวาจะพบวิการมากกว่ากีบด้านนอกของขาหน้าซ้ายและขวา ส่วนวิการที่ขาหลังจะพบในกีบด้านนอกของขาหลังซ้ายและขวามากกว่ากีบด้านในขาหลังซ้ายและขวา วิการที่พบมาก คือ white line disease (60.62%), bruise sole (28.19%) และ sole ulcer (25.85%) วิการที่พบน้อย คือ toe ulcer (1.3%), heel erosion (0.78%) และ interdigital dermatitis (0.26%) ในโคที่มีปัญหากีบและขาเจ็บพบ white line disease (69.2%), sole ulcer (61.2%) และ bruise sole (46.3%) ปัญหากีบและขาเจ็บสามารถพบได้ทุกระยะของการให้นม โคที่ไม่ได้รับการปาดกีบมีโอกาสพบปัญหากีบและขาเจ็บได้ประมาณ 2 เท่า (OR=2.0, P=0.001) เมื่อเทียบกับโคที่ได้รับการปาดกีบ 1 ถึง 2 ครั้งต่อปี แม่โคที่มีปัญหากีบและขาเจ็บไม่ตั้งท้องสูงกว่าแม่โคที่ไม่มีปัญหากีบและขาเจ็บ 1.7 เท่า (P=0.003) ศึกษาความชุกของกีบและขาเจ็บและวิการของกีบ โดยทำการเก็บข้อมูลวิการของกีบในโคนมในจังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี และนครปฐม รวมทั้งสิ้น 1,151 ตัว จาก 66 ฟาร์ม พบว่าความชุกของปัญหากีบและขาเจ็บ (locomotion score ? 3) เท่ากับ 21.98% โดยกีบด้านในของขาหน้าซ้ายและขวาจะพบวิการมากกว่ากีบด้านนอกของขาหน้าซ้ายและขวา ส่วนวิการที่ขาหลังจะพบในกีบด้านนอกของขาหลังซ้ายและขวามากกว่ากีบด้านในขาหลังซ้ายและขวา วิการที่พบมาก คือ white line disease (60.62%), bruise sole (28.19%) และ sole ulcer (25.85%) วิการที่พบน้อย คือ toe ulcer (1.3%), heel erosion (0.78%) และ interdigital dermatitis (0.26%) ในโคที่มีปัญหากีบและขาเจ็บพบ white line disease (69.2%), sole ulcer (61.2%) และ bruise sole (46.3%) ปัญหากีบและขาเจ็บสามารถพบได้ทุกระยะของการให้นม โคที่ไม่ได้รับการปาดกีบมีโอกาสพบปัญหากีบและขาเจ็บได้ประมาณ 2 เท่า (OR=2.0, P=0.001) เมื่อเทียบกับโคที่ได้รับการปาดกีบ 1 ถึง 2 ครั้งต่อปี แม่โคที่มีปัญหากีบและขาเจ็บไม่ตั้งท้องสูงกว่าแม่โคที่ไม่มีปัญหากีบและขาเจ็บ 1.7 เท่า (P=0.003)
บทคัดย่อ (EN): This study were investigated the prevalence of lameness and hoof lesions in 1,151 dairy cows from 66 herds in Ratchaburi, Kanchanaburi and Nakornpathom provinces. The prevalence of lameness (locomotion score ? 3) was 21.98%. Hoof lesions were found in median horns more than lateral horns in both forelimbs. Lesions in left and right hindlimbs were found in lateral horns more than in median horns. High prevalence lesions were included white line disease (60.62%), bruise sole (28.19%) and sole ulcer (25.85%) which in less prevalence were included toe ulcer (1.3%), heel erosion (0.78%) and interdigital dermatitis (0.26%). Most problems of lameness cows were white line disease (69.17%), bruise sole (61.16%) and sole ulcer (46.25%), respectively. No significant difference was found in state of lactation. Trimming hooves at least once a year could be reduced risk of lameness two times (OR=2.0, P=0.001). The lame cows was less likely to be pregnant 1.7 times when compared with healthy cows (P=0.003). This study were investigated the prevalence of lameness and hoof lesions in 1,151 dairy cows from 66 herds in Ratchaburi, Kanchanaburi and Nakornpathom provinces. The prevalence of lameness (locomotion score ? 3) was 21.98%. Hoof lesions were found in median horns more than lateral horns in both forelimbs. Lesions in left and right hindlimbs were found in lateral horns more than in median horns. High prevalence lesions were included white line disease (60.62%), bruise sole (28.19%) and sole ulcer (25.85%) which in less prevalence were included toe ulcer (1.3%), heel erosion (0.78%) and interdigital dermatitis (0.26%). Most problems of lameness cows were white line disease (69.17%), bruise sole (61.16%) and sole ulcer (46.25%), respectively. No significant difference was found in state of lactation. Trimming hooves at least once a year could be reduced risk of lameness two times (OR=2.0, P=0.001). The lame cows was less likely to be pregnant 1.7 times when compared with healthy cows (P=0.003).
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
คำสำคัญ: โคนม
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

ศุภชาติ ปานเนียม. "การศึกษาความชุกและปัจจัยเสี่ยงของปัญหาขาเจ็บในโคนมในเขตภาคตะวันตกA Study of Prevalence and Risk Factors of Dairy Cattle Lameness in Western of Thailand". มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. 2551

ศุภชาติ ปานเนียม. "การศึกษาความชุกและปัจจัยเสี่ยงของปัญหาขาเจ็บในโคนมในเขตภาคตะวันตกA Study of Prevalence and Risk Factors of Dairy Cattle Lameness in Western of Thailand". มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. 2551. Print.



TARR Wordcloud:
การศึกษาความชุกและปัจจัยเสี่ยงของปัญหาขาเจ็บในโคนมในเขตภาคตะวันตก
ศุภชาติ ปานเนียม
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
30 กันยายน 2551
การศึกษาความชุกและปัจจัยเสี่ยงของโรค Trypanosomiasis ที่ทำให้เกิดอาการ แท้งในโคนมในเขตภาคกลาง ของประเทศไทย ความชุกทางซีรัมวิทยาและปัจจัยเสี่ยงของโรคติดต่อระหว่างสัตว์และคนในแพะและแกะในภาคตะวันตกของประเทศไทย ความชุกทางซีรัมวิทยาและปัจจัยเสี่ยงการติดเชื้อ Brucella melitensis และ caprine arthritis encephalitis virus ในแพะภาคตะวันตกของประเทศไทย การศึกษาสำรวจเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดปัญหากีบและขาเจ็บในโคนมในเขตภาคตะวันตก การศึกษาความชุกของการติดเชื้อไวรัสมะเร็งเม็ดเลือดขาวในโคนมและโคสาวทดแทนในภาคตะวันตกของประเทศไทย การเพิ่มอัตราส่วนลูกโคนมเพศเมียและการแก้ไขปัญหาการผสม ไม่ติดในโคนมของสมาชิกสหกรณ์ โคนมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การสำรวจหาความชุกของ Salmonella และ Campylobacter ในฟาร์มลูกเป็ดไข่ ความสัมพันธ์ระหว่างปัญหากีบและขากับประสิทธิภาพระบบ สืบพันธุ์ในโคนมที่เลี้ยงในฟาร์มโคนมรายย่อย ปัจจัยที่มีอิทธิพลและความเป็นไปได้ในการคัดเลือกพันธุ์เพื่อลดจำนวนเซลล์โซมาติกในน้ำนมของโคนมที่เลี้ยงดูในภาคกลางของประเทศไทย การศึกษาระดับและปัจจัยเสี่ยงที่มีผลต่อระดับอิมมูโนกลอบูลินจีในลูกโคนมที่เลี้ยงในฟาร์มเกษตรกรรายย่อยในประเทศไทย
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair