สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาการเปลี่ยนแปลงของโปรตีนในเซลล์ท่อไตส่วนปลายในภาวะขาดโปแตสเซียมโดยเทคนิคโปรตีโอมิกส์
Nardtaya Ausakunpipat - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: การศึกษาการเปลี่ยนแปลงของโปรตีนในเซลล์ท่อไตส่วนปลายในภาวะขาดโปแตสเซียมโดยเทคนิคโปรตีโอมิกส์
ชื่อเรื่อง (EN): Proteome analysis of altered protein expression in distal renal tubular epithelial cells during potassium depletion
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Nardtaya Ausakunpipat
บทคัดย่อ: โรคไตที่เกิดจากภาวะโปแตสเซียมในเลือดต่ำ หรือ hypokalemic nephropathy เป็นโรคที่รู้จักกัน มานาน แต่กลไกการเกิดพยาธิสภาพยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด จากการศึกษาที่ผ่านมาพบว่าท่อไตเป็นส่วนที่ได้รับ ผลกระทบจากการเกิดภาวะโปแตสเซียมในเลือดต่ำ เมื่อรักษาโดยการให้โปแตสเซียมแล้วสามารถทำให้ไตกลับมา ทำงานได้เป็นปกติ ในการศึกษานี้จึงมุ่งเน้นถึงการหาโปรตีนที่มีปริมาณเปลี่ยนแปลงในระหว่างการเกิดภาวะ โปแตสเซียมต่ำทั้งในระยะเฉียบพลันและเรื้อรังในเซลล์บุท่อไตส่วนปลาย นอกจากนี้ยังศึกษาถึงการกลับคืนสู่ ปริมาณปกติของโปรตีนที่เปลี่ยนแปลงไปหลังจากได้รับโปแตสเซียม เทคนิคที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือ การแยก โปรตีนของเซลล์ท่อบุไตส่วนปลายโดยวิธีโปรตีโอมิกส์เพื่อเปรียบเทียบหาโปรตีนที่เปลี่ยนแปลงในเซลล์ที่เลี้ยง ในอาหารที่มีปริมาณโปแตสเซียมปกติ กับอาหารที่มีโปแตสเซียมต่ำ และไม่มีโปแตสเซียมเป็นเวลา 24 ชั่วโมง สำหรับระยะเฉียบพลันและ 10 วันสำหรับระยะเรื้อรัง จากนั้นเซลล์ที่เลี้ยงในอาหารที่มีโปแตสเซียมต่ำ และไม่มี โปแตสเซียม ทั้งในระยะเฉียบพลันและเรื้อรัง จะถูกนำมาเลี้ยงต่อในอาหารที่มีปริมาณโปแตสเซียมปกติเป็นเวลา 24 ชั่วโมงและ 10 วันตามลำดับ พบว่ามีโปรตีนจำนวน 130 จุดที่มีปริมาณเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ ระหว่างการเกิดภาวะโปแตสเซียมทั้งในระยะเฉียบพลันและเรื้อรัง โดยมีการเปลี่ยนแปลงของโปรตีนจำนวน 8 จุด ในกลุ่มเซลล์ที่เลี้ยงในอาหารที่มีโปแตสเซียมต่ำเทียบกับโปแตสเซียมปกติ ,โปรตีนจำนวน 101 จุดในกลุ่มเซลล์ที่ เลี้ยงในอาหารที่มีโปแตสเซียมปกติเทียบกับไม่มีโปแตสเซียม, และโปรตีนจำนวน 21 จุดในการเปรียบเทียบของ ทั้ง 2 กลุ่มข้างต้น สิ่งที่น่าสนใจคือมีโปรตีนจำนวน 24 จุดจาก 130 จุดที่สามารถกลับมามีปริมาณโปรตีนเท่ากับ ภาวะโปแตสเซียมปกติหลังจากได้รับโปแตสเซียมกลับคืน เมื่อใช้เทคนิค Q-TOF mass spectrometry (MS) และ/หรือ tandem mass spectrometry (MS/MS) สามารถระบุชนิดโปรตีนได้ทั้งหมด 101 ชนิด ซึ่ง สามารถแบ่งออกได้เป็นกลุ่มต่างๆดังนี้ metabolic enzymes, signaling proteins, stress-regulatory proteins, plasma proteins, transport proteins, cytoskeleton proteins, translation/transcription factors, Ca2+-binding proteins และโปรตีนที่ยังไม่ทราบหน้าที่แน่ชัด จาก การศึกษาในครั้งนี้ เป็นการเน้นย้ำถึงประโยชน์ของเทคนิคโปรตีโอมิกส์ ที่ใช้ในการหากลไกการเกิดพยาธิสภาพ ของโรคได้ในระดับโมเลกุล ซึ่งจะนำไปสู่การเกิดแนวทางใหม่ในการศึกษาวิจัยโรค hypokalemic nephropathy
บทคัดย่อ (EN): Renal involvement of prolonged K+ deficiency or hypokalemic nephropathy has been characterized for a half of a century. However, its molecular mechanisms remain unclear. Previous studies have demonstrated that the main intrarenal structure that is involved during K+ depletion is the renal tubule and that kidney dysfunction may be reversible after K+ repletion therapy. Therefore, this study focused on the identification of altered cellular proteins in distal renal tubular cells affected by acute and chronic K+ depletion and their reversibility after K+ repletion. A gel-based, differential proteomics study of cellular proteins derived from distal renal tubular epithelial cells grown in normal-K+ (NK), low-K+ (LK) and K+-depleted (KD) media for 24 h and 10 d, respectively, was performed. Another set of cells grown in LK and KD media were switched and maintained in NK medium to determine the reversibility of altered proteins to their basal levels after K+ repletion for 24 h and 10 d, for acute and chronic K+ insufficiency, respectively. A total of 130 protein spots had significantly altered levels during acute and chronic K+ depletion. Only 8 protein spots were differentially expressed between the LK and NK group, 101 protein spots were differentially expressed between the KD and NK condition, and 21 protein spots were differentially expressed between these two groups. Interestingly, of these 130 spots, 25 of them could be completely recovered to baseline levels after K+ repletion. These 130 protein spots representing 101 unique proteins were successfully identified by quadrupole time-of-flight (Q-TOF) mass spectrometry (MS) and/or tandem mass spectrometry (MS/MS) including metabolic enzymes, signaling proteins, stressregulatory proteins, plasma proteins, transport proteins, cytoskeleton proteins, translation/transcription factors, Ca2+-binding proteins and miscellaneous. These findings underscore the utility of proteomics for unraveling pathogenic mechanisms of diseases at the molecular level and may lead to a new roadmap for research on hypokalemic nephropathy.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=4234&obj_id=3609
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Proteomics
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: โรคไตที่เกิดจากภาวะโปแตสเซียมในเลือดต่ำ หรือ hypokalemic nephropathy เป็นโรคที่รู้จักกัน มานาน แต่กลไกการเกิดพยาธิสภาพยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด จากการศึกษาที่ผ่านมาพบว่าท่อไตเป็นส่วนที่ได้รับ ผลกระทบจากการเกิดภาวะโปแตสเซียมในเลือดต่ำ เมื่อรักษาโดยการให้โปแตสเซียมแล้วสามารถทำให้ไตกลับมา ทำงานได้เป็นปกติ ในการศึกษานี้จึงมุ่งเน้นถึงการหาโปรตีนที่มีปริมาณเปลี่ยนแปลงในระหว่างการเกิดภาวะ โปแตสเซียมต่ำทั้งในระยะเฉียบพลันและเรื้อรังในเซลล์บุท่อไตส่วนปลาย นอกจากนี้ยังศึกษาถึงการกลับคืนสู่ ปริมาณปกติของโปรตีนที่เปลี่ยนแปลงไปหลังจากได้รับโปแตสเซียม เทคนิคที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือ การแยก โปรตีนของเซลล์ท่อบุไตส่วนปลายโดยวิธีโปรตีโอมิกส์เพื่อเปรียบเทียบหาโปรตีนที่เปลี่ยนแปลงในเซลล์ที่เลี้ยง ในอาหารที่มีปริมาณโปแตสเซียมปกติ กับอาหารที่มีโปแตสเซียมต่ำ และไม่มีโปแตสเซียมเป็นเวลา 24 ชั่วโมง สำหรับระยะเฉียบพลันและ 10 วันสำหรับระยะเรื้อรัง จากนั้นเซลล์ที่เลี้ยงในอาหารที่มีโปแตสเซียมต่ำ และไม่มี โปแตสเซียม ทั้งในระยะเฉียบพลันและเรื้อรัง จะถูกนำมาเลี้ยงต่อในอาหารที่มีปริมาณโปแตสเซียมปกติเป็นเวลา 24 ชั่วโมงและ 10 วันตามลำดับ พบว่ามีโปรตีนจำนวน 130 จุดที่มีปริมาณเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ ระหว่างการเกิดภาวะโปแตสเซียมทั้งในระยะเฉียบพลันและเรื้อรัง โดยมีการเปลี่ยนแปลงของโปรตีนจำนวน 8 จุด ในกลุ่มเซลล์ที่เลี้ยงในอาหารที่มีโปแตสเซียมต่ำเทียบกับโปแตสเซียมปกติ ,โปรตีนจำนวน 101 จุดในกลุ่มเซลล์ที่ เลี้ยงในอาหารที่มีโปแตสเซียมปกติเทียบกับไม่มีโปแตสเซียม, และโปรตีนจำนวน 21 จุดในการเปรียบเทียบของ ทั้ง 2 กลุ่มข้างต้น สิ่งที่น่าสนใจคือมีโปรตีนจำนวน 24 จุดจาก 130 จุดที่สามารถกลับมามีปริมาณโปรตีนเท่ากับ ภาวะโปแตสเซียมปกติหลังจากได้รับโปแตสเซียมกลับคืน เมื่อใช้เทคนิค Q-TOF mass spectrometry (MS) และ/หรือ tandem mass spectrometry (MS/MS) สามารถระบุชนิดโปรตีนได้ทั้งหมด 101 ชนิด ซึ่ง สามารถแบ่งออกได้เป็นกลุ่มต่างๆดังนี้ metabolic enzymes, signaling proteins, stress-regulatory proteins, plasma proteins, transport proteins, cytoskeleton proteins, translation/transcription factors, Ca2+-binding proteins และโปรตีนที่ยังไม่ทราบหน้าที่แน่ชัด จาก การศึกษาในครั้งนี้ เป็นการเน้นย้ำถึงประโยชน์ของเทคนิคโปรตีโอมิกส์ ที่ใช้ในการหากลไกการเกิดพยาธิสภาพ ของโรคได้ในระดับโมเลกุล ซึ่งจะนำไปสู่การเกิดแนวทางใหม่ในการศึกษาวิจัยโรค hypokalemic nephropathy
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาการเปลี่ยนแปลงของโปรตีนในเซลล์ท่อไตส่วนปลายในภาวะขาดโปแตสเซียมโดยเทคนิคโปรตีโอมิกส์
Nardtaya Ausakunpipat
มหาวิทยาลัยมหิดล
2550
ผลจากธาตุโปแตสเซียมและฟอสฟ การใช้โปรตีนเรืองแสงสีเขียวในการศึกษาตำแหน่งภายในเซลล์ของโปรตีน P3 ของไวรัสโรคใบด่างจุดวงแหวน / Sarasate Eiamtanasate ผลของการออกกำลังกายแบบแอโรบิคที่มีต่อไขมันและไลโปโปรตีนในซีรั่ม การศึกษาคุณสมบัติระดับโมเลกุลของโปรตีนเฉพาะส่วนที่ทำให้เกิดรูรั่วบนผิวเซลล์ของโปรตีนสารพิษ Adenylate cyclase-haemolysin จากเชื้อ Bordetel ผลร่วมของภาวะร้อนและภาวะแล้งต่อการเติบโต ปริมาณรงควัตถุในการสังเคราะห์ด้วยแสงและการแสดงออกของยีนฮีตช็อคโปรตีนในถั่วเหลือง Glycine max (L.) Merrill ผลของน้ำทิ้งจากโรงงานผลิตแบตเตอรี่ต่อความผิดปกติในเซลล์ของปลายรากหอมแดง โปรตีนลูกผสมแอลดีแอลรีเซ็ปเตอร์-จีเอสที สำหรับการพัฒนาเทคนิคการตรวจวัดระดับไลโปโปรตีนชนิดความหนาแน่นต่ำ การผลิตเซลล์ต้นกำเนิดจากกระบือปลักและการแปรสภาพไปเป็นเซลล์กระดูกอ่อน ผลทางห้องปฏิบัติการของว่านหางจระเข้ต่อการเพิ่มจำนวนเซลล์และการสร้างคอลลาเจนของเซลล์เนื้อเยื่อในโพรงฟันหนู การสลายเซลล์ด้วยด่างอย่างต่อเนื่องผ่านท่อผสมที่ไม่มีการกวนเพื่อผลิตพลาสมิดสำหรับยีนบำบัด
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก