สืบค้นงานวิจัย
การใช้แผ่นฟิล์มพอลิเอธิลีนกราฟท์มาเลอิคแอนไฮไดรด์สำหรับจับโปรตีนที่สกัดได้จากยางธรรมชาติ
Ladawan Watthanachote - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: การใช้แผ่นฟิล์มพอลิเอธิลีนกราฟท์มาเลอิคแอนไฮไดรด์สำหรับจับโปรตีนที่สกัดได้จากยางธรรมชาติ
ชื่อเรื่อง (EN): Use of polyethylene graft maleic anhydride film for binding extractable proteins from natural rubber
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Ladawan Watthanachote
บทคัดย่อ: มาเลอิคแอนไฮไดรด์เมมเบรน 2 ชนิดที่นำมาใช้ศึกษาการจับโปรตีนคือ พอลิเอธิลีนกราฟท์มาเลอิค แอนไฮไดรด์ที่ได้จากการเตรียมโดยการฉายแสงยูวี และ การทำเป็นฟิล์มโดยการอัดด้วยความร้อนของโคพอลิ เมอร์เรซิน จากนั้นนำฟิล์มทั้งสองชนิดผ่านความร้อนเพื่อช่วยเพิ่มปริมาณหมู่แอนไฮไดรด์บนพื้นผิว สำหรับ คุณสมบัติพื้นผิวของฟิล์มวิเคราะห์ได้โดยการใช้เทคนิคอินฟราเรดสเปกโทรสโกปีและการวัดมุมสัมผัส ผล การศึกษาพบว่าแผ่นฟิล์มที่ได้จากการเตรียมด้วยการฉายแสงยูวี ภายใต้สภาวะที่เหมาะสมคือ ระยะห่างระหว่าง หลอดยูวีกับตัวอย่าง 25 เซนติเมตร และ เวลาในการฉายแสง 5 นาที มีปริมาณหมู่แอนไฮไดรด์บนพื้นผิวมากกว่า แผ่นฟิล์มที่เตรียมจากการอัดแผ่นของเรซินที่อุณหภูมิ 140 องศาเซลเซียส และการอบที่อุณหภูมิ 120 องศา เซลเซียส เป็นเวลา 3 ชั่วโมง เป็นวิธีที่เหมาะสมสำหรับการเพิ่มปริมาณหมู่แอนไฮไดรด์บนแผ่นฟิล์ม ในส่วนของการสกัดโปรตีนจากยางสกิมแห้ง ปริมาณโปรตีนที่สกัดได้ขึ้นอยู่กับชนิดของสารละลายที่ ใช้สกัด จำนวนรอบที่สกัดและ ขนาดของชิ้นยาง โปรตีนที่สามารถสกัดได้นำมาวิเคราะห์ด้วย SDS-PAGE วิเคราะห์หาปริมาณธาตุ CHN ด้วย elemental analysis รวมถึงเทคนิคอินฟาเรดสเปกโทรสโกปีเพื่อ วิเคราะห์ลักษณะเฉพาะของโปรตีน ซึ่งพบว่าสภาวะการสกัดที่ให้ปริมาณโปรตีนสูงคือการสกัดยางชิ้นขนาดเล็ก ในสารละลาย SDS ด้วยการสกัดซ้ำ 3 รอบ (12 ชั่วโมงต่อ1รอบ) งานวิจัยนี้ได้เลือกโปรตีน BSA เพื่อศึกษาหาเวลาที่เหมาะสมในการจับโปรตีน ในการวิเคราะห์เชิง ปริมาณของโปรตีน ได้ทำการตรวจวัดการดูดกลืนแสงยูวีที่ความยาวคลื่น 592 นาโนเมตร โดยอาศัยหลักการย้อม สีของโปรตีนด้วยวิธี Bradford พบว่า ระยะเวลา 4 ชั่วโมง เป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการจับโปรตีน หมู่ แอนไฮไดรด์บนแผ่นฟิล์มแสดงการจับโปรตีนที่มีประสิทธิภาพสูง (72.3 ไมโครกรัมต่อตารางเซนติเมตร) ซึ่ง ปริมาณหมู่แอนไฮไดรด์บนพื้นผิวมีอิทธิพลสำคัญต่อความสามารถในการจับโปรตีน และจากผลทางสเปคโทรส โกปี สามารถยืนยันการจับโปรตีนผ่านพันธะโควาเลนซ์กับหมู่แอนไฮไดรด์บนแผ่นฟิล์มได้เป็นอย่างดี
บทคัดย่อ (EN): g/cm2). The amount of anhydride groups on the surface had a significant influence on the protein binding ability of the film. The spectroscopic results demonstrated that proteins can be successfully immobilized onto the film surface via covalent linkage.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=4953&obj_id=3141
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Rubber
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: มาเลอิคแอนไฮไดรด์เมมเบรน 2 ชนิดที่นำมาใช้ศึกษาการจับโปรตีนคือ พอลิเอธิลีนกราฟท์มาเลอิค แอนไฮไดรด์ที่ได้จากการเตรียมโดยการฉายแสงยูวี และ การทำเป็นฟิล์มโดยการอัดด้วยความร้อนของโคพอลิ เมอร์เรซิน จากนั้นนำฟิล์มทั้งสองชนิดผ่านความร้อนเพื่อช่วยเพิ่มปริมาณหมู่แอนไฮไดรด์บนพื้นผิว สำหรับ คุณสมบัติพื้นผิวของฟิล์มวิเคราะห์ได้โดยการใช้เทคนิคอินฟราเรดสเปกโทรสโกปีและการวัดมุมสัมผัส ผล การศึกษาพบว่าแผ่นฟิล์มที่ได้จากการเตรียมด้วยการฉายแสงยูวี ภายใต้สภาวะที่เหมาะสมคือ ระยะห่างระหว่าง หลอดยูวีกับตัวอย่าง 25 เซนติเมตร และ เวลาในการฉายแสง 5 นาที มีปริมาณหมู่แอนไฮไดรด์บนพื้นผิวมากกว่า แผ่นฟิล์มที่เตรียมจากการอัดแผ่นของเรซินที่อุณหภูมิ 140 องศาเซลเซียส และการอบที่อุณหภูมิ 120 องศา เซลเซียส เป็นเวลา 3 ชั่วโมง เป็นวิธีที่เหมาะสมสำหรับการเพิ่มปริมาณหมู่แอนไฮไดรด์บนแผ่นฟิล์ม ในส่วนของการสกัดโปรตีนจากยางสกิมแห้ง ปริมาณโปรตีนที่สกัดได้ขึ้นอยู่กับชนิดของสารละลายที่ ใช้สกัด จำนวนรอบที่สกัดและ ขนาดของชิ้นยาง โปรตีนที่สามารถสกัดได้นำมาวิเคราะห์ด้วย SDS-PAGE วิเคราะห์หาปริมาณธาตุ CHN ด้วย elemental analysis รวมถึงเทคนิคอินฟาเรดสเปกโทรสโกปีเพื่อ วิเคราะห์ลักษณะเฉพาะของโปรตีน ซึ่งพบว่าสภาวะการสกัดที่ให้ปริมาณโปรตีนสูงคือการสกัดยางชิ้นขนาดเล็ก ในสารละลาย SDS ด้วยการสกัดซ้ำ 3 รอบ (12 ชั่วโมงต่อ1รอบ) งานวิจัยนี้ได้เลือกโปรตีน BSA เพื่อศึกษาหาเวลาที่เหมาะสมในการจับโปรตีน ในการวิเคราะห์เชิง ปริมาณของโปรตีน ได้ทำการตรวจวัดการดูดกลืนแสงยูวีที่ความยาวคลื่น 592 นาโนเมตร โดยอาศัยหลักการย้อม สีของโปรตีนด้วยวิธี Bradford พบว่า ระยะเวลา 4 ชั่วโมง เป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการจับโปรตีน หมู่ แอนไฮไดรด์บนแผ่นฟิล์มแสดงการจับโปรตีนที่มีประสิทธิภาพสูง (72.3 ไมโครกรัมต่อตารางเซนติเมตร) ซึ่ง ปริมาณหมู่แอนไฮไดรด์บนพื้นผิวมีอิทธิพลสำคัญต่อความสามารถในการจับโปรตีน และจากผลทางสเปคโทรส โกปี สามารถยืนยันการจับโปรตีนผ่านพันธะโควาเลนซ์กับหมู่แอนไฮไดรด์บนแผ่นฟิล์มได้เป็นอย่างดี
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การใช้แผ่นฟิล์มพอลิเอธิลีนกราฟท์มาเลอิคแอนไฮไดรด์สำหรับจับโปรตีนที่สกัดได้จากยางธรรมชาติ
Ladawan Watthanachote
มหาวิทยาลัยมหิดล
2550
การศึกษาการนำกลับมาใช้ใหม่ของพอลิเมอร์ผสมระหว่างยางคลอลิเนตเตืพอลิเอททิลีนกับยางธรรมชาติ การควบคุมการเกิดฟิล์มและตำหนิของฟิล์มบางที่เตรียมจากน้ำยางธรรมชาติที่วัลคาไนซ์ด้วยกำมะถันโดยกระบวนการจุ่มแบบไม่ใช้สารช่วยจับตัว ลักษณะสมบัติของโปรตีนที่จับกับพอลิเอมีนในไซยาโนแบคทีเรีย Synechocystis sp. PCC 6803 การสกัดและการศึกษาคุณลักษณะของโปรตีนจากโอคารา. ผลของสารเคมีต่อการจับก้อนของน้ำยางธรรมชาติ ปฏิกิริยาการเติมก๊าซไฮโดรเจนของยางธรรมชาติที่ผ่านการกำจัดโปรตีน การศึกษาสมบัติการไหลและสมบัติเชิงกลในพอลิเมอร์ผสมระหว่างยางคลอริเนเทตพอลิเอทธิลีนกับยางธรรมชาติโดยมีดินขาวเป็นสารตัวเติม การเตรียมแผ่นสองขั้วโดยใช้วัสดุผสมแปรงถ่านและพอลิคาร์บอเนตเสริมใยคาร์บอนเพื่อใช้ในเซลล์เชื้อเพลิงแบบเมมเบรนแลกเปลี่ยนโปรตอน การสกัดไคโตซานจากเกล็ดปลานิลเพื่อการผลิตแผ่นฟิล์มที่บริโภคได้ สมบัติของยางผสมระหว่างยางธรรมชาติกับ ทรานส์พอลิไอโซปรีนที่ผ่านการวัลคาไนซ์แล้ว
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก