สืบค้นงานวิจัย
ผลของการใช้วัสดุเคลือบใบ เพื่อลด photoinhibition ภายใต้สภาวะโลกร้อน และคุณภาพผลผลิตของมะม่วงพันธุ์มหาชนก
สุนทรี ยิ่งชัชวาลย์ - มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ชื่อเรื่อง: ผลของการใช้วัสดุเคลือบใบ เพื่อลด photoinhibition ภายใต้สภาวะโลกร้อน และคุณภาพผลผลิตของมะม่วงพันธุ์มหาชนก
ชื่อเรื่อง (EN): Effect of leaf coating material on delay photoinhibition under global warming and fruit quality of mango cv. Mahachanok
บทคัดย่อ: ในช่วงฤดูร้อนที่พืชได้รับแสงที่มีความเข้มสูง ทำให้พืชเกิดปรากฏการณ์ photoinhibition กระบวนการสังเคราะห์แสงถูกยับยั้ง ส่งผลให้ผลผลิตพืชลดลง สารเคโอลีน (kaolin) เมื่อนำมาเคลือบใบพืช มีคุณสมบัติสะท้อนแสงจากใบพืช ช่วยลดความเข้มแสงที่สัมผัสใบพืชโดยตรง สามารถลดการเกิด photoinhibition ได้ ทำให้พืชนำอาหารจากกระบวนการสังเคราะห์แสงไปสร้างเป็นผลผลิตได้มากขึ้น การทดลองนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาคุณสมบัติของสารเคลือบใบ 4 ชนิด ได้แก่ ดินขาวเคโอลีนจากประเทศอินโดนีเซีย ดินขาวเคโอลินจากประเทศมาเลเซีย แคลเซียมคาร์บอเนต และ เบนโทไนท์ เพื่อสามารถพัฒนาไปเป็นสารเคลือบใบในมะม่วง และศึกษาผลของ kaolin ต่อการสังเคราะห์แสง ปริมาณ คุณภาพผลผลิต และการลดการเกิดโรคแอนแทรคโนสของมะม่วงในช่วงฤดูร้อนที่มีความเข้มแสงสูง ผลการทดลองพบว่า ดินขาวเคโอลีนจากประเทศอินโดนีเซีย สามารถพัฒนาไปเป็นสารเคลือบใบในมะม่วงได้ดีที่สุด เนื่องจากใช้เวลาในการตกตะกอนนานที่สุด มีความสามารถในการลดความเข้มแสงที่สูงเกินไปได้มากที่สุด และทำให้มะม่วงมีอัตราการสังเคราะห์แสงในช่วงกลางวัน (midday photosynthesis) ระหว่างเวลา 11.00 – 14.00 น. สูงที่สุด การทดลองนำดินขาวเคโอลีนจากประเทศอินโดนีเซียมาใช้เป็นสารเคลือบใบในมะม่วงพันธุ์มหาชนก โดยพ่นสารความเข้มข้น 60 กรัม/ลิตร จำนวน 1 และ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ในระยะกลีบดอกร่วง (petal fall) จนถึงระยะผลโตเต็มที่ พบว่า การวัดอัตราการสังเคราะห์แสงครั้งที่ 1 ต้นมะม่วงเผชิญสภาพอากาศที่มีความแห้งรุนแรง และได้รับความเข้มแสงสูงเป็นระยะเวลานาน การพ่นสารเคโอลีน 2 ครั้งต่อสัปดาห์ทำให้มีอัตราการสังเคราะห์แสงสูงกว่าต้นมะม่วงที่ได้รับการพ่นสารเคโอลีนเพียง 1 ครั้งต่อสัปดาห์และต้นมะม่วงที่ไม่ได้รับการพ่นสาร ในการวัดอัตราการสังเคราะห์แสงครั้งที่ 2 ต้นมะม่วงเผชิญสภาพอากาศมีความแห้งรุนแรงน้อยกว่า และได้รับความเข้มแสงสูงในช่วงเวลาที่สั้นกว่าการวัดในครั้งแรก การพ่นสารเคโอลีน 1 และ 2 ครั้งต่อสัปดาห์มีแนวโน้มทำให้ใบมะม่วงมีอัตราการสังเคราะห์แสงในรอบวันสูงกว่าต้นที่ไม่ได้พ่นสาร มะม่วงในทุกการทดลองไม่พบความแตกต่างกันในเรื่องของปริมาณผลผลิต และคุณภาพผลผลิต (ปริมาณของแข็งที่ละลายน้ำได้และปริมาณกรด) แต่การพ่นเคโอลีน 1 และ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ทำให้ผิวผลมะม่วงในระยะเก็บเกี่ยวมีสีแดงเพิ่มมากขึ้น และการพ่นสารเคโอลีน 2 ครั้งต่อสัปดาห์ทำให้ผลมะม่วงมีระดับความรุนแรงของผลเน่าจากโรคแอนแทรคโนสน้อยกว่าการพ่นสาร 1 ครั้งต่อสัปดาห์และการไม่พ่นสาร ในช่วงฤดูร้อนที่พืชได้รับแสงที่มีความเข้มสูง ทำให้พืชเกิดปรากฏการณ์ photoinhibition กระบวนการสังเคราะห์แสงถูกยับยั้ง ส่งผลให้ผลผลิตพืชลดลง สารเคโอลีน (kaolin) เมื่อนำมาเคลือบใบพืช มีคุณสมบัติสะท้อนแสงจากใบพืช ช่วยลดความเข้มแสงที่สัมผัสใบพืชโดยตรง สามารถลดการเกิด photoinhibition ได้ ทำให้พืชนำอาหารจากกระบวนการสังเคราะห์แสงไปสร้างเป็นผลผลิตได้มากขึ้น การทดลองนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาคุณสมบัติของสารเคลือบใบ 4 ชนิด ได้แก่ ดินขาวเคโอลีนจากประเทศอินโดนีเซีย ดินขาวเคโอลินจากประเทศมาเลเซีย แคลเซียมคาร์บอเนต และ เบนโทไนท์ เพื่อสามารถพัฒนาไปเป็นสารเคลือบใบในมะม่วง และศึกษาผลของ kaolin ต่อการสังเคราะห์แสง ปริมาณ คุณภาพผลผลิต และการลดการเกิดโรคแอนแทรคโนสของมะม่วงในช่วงฤดูร้อนที่มีความเข้มแสงสูง ผลการทดลองพบว่า ดินขาวเคโอลีนจากประเทศอินโดนีเซีย สามารถพัฒนาไปเป็นสารเคลือบใบในมะม่วงได้ดีที่สุด เนื่องจากใช้เวลาในการตกตะกอนนานที่สุด มีความสามารถในการลดความเข้มแสงที่สูงเกินไปได้มากที่สุด และทำให้มะม่วงมีอัตราการสังเคราะห์แสงในช่วงกลางวัน (midday photosynthesis) ระหว่างเวลา 11.00 – 14.00 น. สูงที่สุด การทดลองนำดินขาวเคโอลีนจากประเทศอินโดนีเซียมาใช้เป็นสารเคลือบใบในมะม่วงพันธุ์มหาชนก โดยพ่นสารความเข้มข้น 60 กรัม/ลิตร จำนวน 1 และ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ในระยะกลีบดอกร่วง (petal fall) จนถึงระยะผลโตเต็มที่ พบว่า การวัดอัตราการสังเคราะห์แสงครั้งที่ 1 ต้นมะม่วงเผชิญสภาพอากาศที่มีความแห้งรุนแรง และได้รับความเข้มแสงสูงเป็นระยะเวลานาน การพ่นสารเคโอลีน 2 ครั้งต่อสัปดาห์ทำให้มีอัตราการสังเคราะห์แสงสูงกว่าต้นมะม่วงที่ได้รับการพ่นสารเคโอลีนเพียง 1 ครั้งต่อสัปดาห์และต้นมะม่วงที่ไม่ได้รับการพ่นสาร ในการวัดอัตราการสังเคราะห์แสงครั้งที่ 2 ต้นมะม่วงเผชิญสภาพอากาศมีความแห้งรุนแรงน้อยกว่า และได้รับความเข้มแสงสูงในช่วงเวลาที่สั้นกว่าการวัดในครั้งแรก การพ่นสารเคโอลีน 1 และ 2 ครั้งต่อสัปดาห์มีแนวโน้มทำให้ใบมะม่วงมีอัตราการสังเคราะห์แสงในรอบวันสูงกว่าต้นที่ไม่ได้พ่นสาร มะม่วงในทุกการทดลองไม่พบความแตกต่างกันในเรื่องของปริมาณผลผลิต และคุณภาพผลผลิต (ปริมาณของแข็งที่ละลายน้ำได้และปริมาณกรด) แต่การพ่นเคโอลีน 1 และ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ทำให้ผิวผลมะม่วงในระยะเก็บเกี่ยวมีสีแดงเพิ่มมากขึ้น และการพ่นสารเคโอลีน 2 ครั้งต่อสัปดาห์ทำให้ผลมะม่วงมีระดับความรุนแรงของผลเน่าจากโรคแอนแทรคโนสน้อยกว่าการพ่นสาร 1 ครั้งต่อสัปดาห์และการไม่พ่นสาร
บทคัดย่อ (EN): Photoinhibition occurring during plants expose to high irradiance causes decreasing of photosynthesis and finally, decrease yield. Kaolin was developed as leaf coating material. The property of kaolin is decreasing of light reflection from leave. Thus, kaolin can reduce excess light expose to leave, decrease photoinhibition and increase yield. The objective of this study was to examine the property of 4 leaf coating materials namely, Indonesia kaolin, Malaysia kaolin, calcium carbonate and bentonite in order to develop to leaf coating material in mango and to determine the effect of spraying kaolin during high irradiance in summer season on photosynthesis, yield, quality and decreasing of anthracnose disease. Due to Indonesia kaolin showed the slowest precipitation rate, the highest percentage of light absorbance, the highest midday photosynthesis rate. Therefore, Indonesia kaolin had the approximate property for develop to leaf coating material and use in the next experiment. Indonesia kaolin at the rate of 60 g L-1 was spray to mango leave cv. Maha Chanok once and twice a week from petal fall stage until fruit mature. The first photosynthesis measurement was done under high vapor pressure and long time receiving high irradiance. The result showed that spraying kaolin twice a week had higher photosynthesis rate than spraying once a week and non spraying trees. In second photosynthesis measurement, the climate was lower high vapor pressure and shorter time receiving to high irradiance. Spraying kaolin once and twice a week had higher photosynthesis rate than non spraying trees. Mangoes in all treatments had no difference in fruit yield and fruit quality as soluble solids and the titratable acidity. However, spraying kaolin once and twice a week gave higher of redness color peel. Spraying kaolin once and twice a week had more effective on reducing anthracnose severity level than non spraying trees. Photoinhibition occurring during plants expose to high irradiance causes decreasing of photosynthesis and finally, decrease yield. Kaolin was developed as leaf coating material. The property of kaolin is decreasing of light reflection from leave. Thus, kaolin can reduce excess light expose to leave, decrease photoinhibition and increase yield. The objective of this study was to examine the property of 4 leaf coating materials namely, Indonesia kaolin, Malaysia kaolin, calcium carbonate and bentonite in order to develop to leaf coating material in mango and to determine the effect of spraying kaolin during high irradiance in summer season on photosynthesis, yield, quality and decreasing of anthracnose disease. Due to Indonesia kaolin showed the slowest precipitation rate, the highest percentage of light absorbance, the highest midday photosynthesis rate. Therefore, Indonesia kaolin had the approximate property for develop to leaf coating material and use in the next experiment. Indonesia kaolin at the rate of 60 g L-1 was spray to mango leave cv. Maha Chanok once and twice a week from petal fall stage until fruit mature. The first photosynthesis measurement was done under high vapor pressure and long time receiving high irradiance. The result showed that spraying kaolin twice a week had higher photosynthesis rate than spraying once a week and non spraying trees. In second photosynthesis measurement, the climate was lower high vapor pressure and shorter time receiving to high irradiance. Spraying kaolin once and twice a week had higher photosynthesis rate than non spraying trees. Mangoes in all treatments had no difference in fruit yield and fruit quality as soluble solids and the titratable acidity. However, spraying kaolin once and twice a week gave higher of redness color peel. Spraying kaolin once and twice a week had more effective on reducing anthracnose severity level than non spraying trees.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
คำสำคัญ: เพลี้ยไฟ
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ผลของการใช้วัสดุเคลือบใบ เพื่อลด photoinhibition ภายใต้สภาวะโลกร้อน และคุณภาพผลผลิตของมะม่วงพันธุ์มหาชนก
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
30 กันยายน 2552
ผลของการใช้วัสดุเคลือบใบต่อการเพิ่มผลผลิตและคาร์โบไฮเดรตที่ใช้ประโยชน์ได้ของมะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้ภายใต้สภาพอุณหภูมิและความเข้มแสงสูง การพัฒนาพันธุ์ข้าวเพื่อลดผลกระทบของสภาวะโลกร้อนในระยะสืบพันธุ์และให้ผลผลิต การชะลอการสูญเสียคุณภาพมะม่วงพันธุ์มหาชนกเพื่อเพิ่มมูลค่าภายหลังการเก็บเกี่ยว การพัฒนาสายพันธุ์มะม่วงน้ำดอกไม้สีทองและมหาชนกและคัดเลือกมะม่วงเพื่อบริโภคผลสด การผลิตเมล็ดพันธุ์พริกคุณภาพสูงในสภาวะโลกร้อน การพัฒนาพันธุ์ข้าวเพื่อลดผลกระทบของสภาวะโลกร้อนในระยะสืบพันธุ์และให้ผลผลิต การควบคุมโรคแอนแทรคโนสในมะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้โดยใช้ ไคโตซานร่วมกับสารสกัดจากเปลือกมังคุด การลดความเสียหายที่เกิดจากโรคแอนแทรคโนสภายหลังการเก็บเกี่ยวของมะม่วงโดยการลดการเข้าทำลายในสภาพแปลงโดยราที่เป้นสาเหตุของโรค (Colletotrichum gloeosporioides) โดยจุลินทรีย์ทรงพุ่ม การใช้สารกลุ่มปลอดภัยในการควบคุมโรคแอนแทรคโนสของผลมะม่วง การลดความเสียหายที่เกิดจากโรคแอนแทรคโนสภายหลังการเก็บเกี่ยวของมะม่วงโดยการลดการเข้าทำลายในสภาพแปลงโดยราที่เป็นสาเหตุของโรค (Colletotrichum gloeosporioides) โดยจุลินทรีย์ทรงพุ่ม
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก