สืบค้นงานวิจัย
การเพิ่มประสิทธิภาพในการผสมพันธุ์ยาง
สมจินตนา รูเดอร์แมน - การยางแห่งประเทศไทย
ชื่อเรื่อง: การเพิ่มประสิทธิภาพในการผสมพันธุ์ยาง
ชื่อเรื่อง (EN): Improving Hevea’s Hand Pollination Efficiency
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สมจินตนา รูเดอร์แมน
บทคัดย่อ: การศึกษาอายุที่เหมาะสมของยางอ่อนในการเร่งดอกออกดอกของต้นยางพันธุ์ต่าง ๆ จำนวน 4 พันธุ์ คือ RRIM 600 RRII 105 AVROS 2037 และ สงขลา 36 ที่ราดสารพาโคลบิวทราโซนความเข้มข้น 2 g.a.i./ต้น และ 4 g.a.i./ต้น ร่วมกับการควั่นขนาด 2 มิลลิเมตร ที่อายุ 1.5 และ 2 ปี พบว่าที่อายุ 1.5 ปี และหลังจากให้ทรีทเมนต์ประมาณ 16 วัน พบว่ามีต้นออกดอกทั้งหมด 63 ต้น จากจำนวนต้นทั้งหมด 409 ต้น คิดเป็น 15.40 เปอร์เซ็นต์ โดยมี 3 พันธุ์ที่ออกดอกคือ AVROS 2037 ออกดอก 31.68 เปอร์เซ็นต์ RRIM 600 ออกดอก 16.98 เปอร์เซ็นต์ RRII 105 ออกดอก 13.27 เปอร์เซ็นต์ ส่วน สงขลา 36 ไม่ออกดอก เมื่ออายุครบ 2 ปี มีต้นออกดอกในช่วงเดือน กรกฎาคม - พฤศจิกายน 2546 (ซึ่งไม่ใช่ฤดูหลักของการออกดอก) จำนวน 14 - 82 ต้นจากต้นที่ทดลองทั้งหมด 144 ต้น คิดเป็น 9.72 - 56.94 เปอร์เซ็นต์ จำนวนต้นออกดอกต่ำสุด 14 ต้นในเดือนกรกฎาคม จำนวนต้นออกดอกสูงสุด 82 ต้นในเดือนตุลาคม โดยที่พันธุ์ RRII 105 จำนวน 32 ต้น RRIM 600 จำนวน 37 ต้น AVROS 2037 จำนวน 21 ต้น สงขลา 36 จำนวน 2 ต้น อย่างไรก็ตามอิทธิพลของทรีทเมนท์ต่อการออกดอกยังอยู่ในระหว่างการวิเคราะห์ผลการทดลอง และเก็บผลการทดลองเพิ่มเติม การศึกษาการเจริญของดอกยาง จำนวนและความมีชีวิตของละอองเกสรยาง และความงอกของละอองเกสรของยางพันธุ์ RRIM 600 โดยสังเกตการเปลี่ยนแปลงของกลีบดอกตั้งแต่เริ่มแทงช่อจนถึงดอกบาน พบว่าสามารถแบ่งการเจริญของดอกยางได้เป็น 5 ระยะคือ ระยะที่ 1 ดอกตูมสีเขียว ระยะที่ 2 ดอกตูมสีเหลือง ระยะที่ 3 ดอกตูมสีเหลืองปลายกลีบเริ่มผลิ ระยะที่ 4 ดอกเริ่มบาน และระยะที่ 5 ดอกบานเต็มที่ แต่เมื่อนับจำนวนวันที่มีการเปลี่ยนแปลงของกลีบดอกสามารถแบ่งได้เป็น 4 ระยะ โดยระยะที่ 1 เริ่มแทงช่อดอกจนถึงดอกตูมสีเขียวใช้เวลา 13 วัน ระยะที่ 2 ดอกตูมสีเขียวเปลี่ยนเป็นดอกตูมสีเหลืองใช้เวลา 3 วัน ระยะที่ 3 ดอกตูมสีเหลืองเปลี่ยนเป็นดอกตูมสีเหลืองปลายกลีบดอกเริ่มผลิ ใช้เวลา 1 วัน ระยะที่ 4 ดอกตูมสีเหลืองปลายกลีบดอกเริ่มผลิ ดอกเริ่มบาน และบานเต็มที่ใช้เวลา 1 วัน ตั้งแต่เริ่มแทงช่อดอกถึงบานเต็มที่ ใช้เวลาประมาณ 18 วัน การศึกษาตรวจนับจำนวนละอองเกสรและความมีชีวิตของละอองเกสรโดยการย้อมติดสีอะซีโตคาร์มีน จากการนำละอองเกสรดอกระยะต่างๆทั้ง 4 ระยะ มานับจำนวนละอองเกสรและจำนวนการย้อมติดสีของละอองเกกสรด้วยอะซิโตคาร์มีน พบว่า ดอกยางระยะที่ 2 มีจำนวนละอองเกสรมากที่สุด รองลงมาคือดอกยางระยะที่ 3 สำหรับเปอร์เซ็นต์การย้อมติดสี ดอกยางระยะที่ 3 มีเปอร์เซ็นต์การย้อมติดสีมากที่สุด รองลงมาคือดอกยางระยะที่ 2 แต่ไม่มีความแตกต่างทางสถิติที่ระดับความเชื่อมั่น 99 เปอร์เซ็นต์ การศึกษาการเก็บรักษาเกสรตัวผู้พันธุ์ RRII105 โดยไม่ลดความชื้นที่อุณหภูมิ -85 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 0 5 10 15 20 25 และ 30 วัน ณ ศูนย์วิจัยยางฉะเชิงเทรา จำนวน 212 ดอก/อายุเก็บ เมื่อครบกำหนดอายุนำไปผสมในแปลงผสมพันธุ์ประมาณ 200 ดอก/อายุเก็บ (ใช้ตัวเมียหลายพันธุ์เนื่องจากมีจำนวนดอกไม่พอ) ขณะเดียวกันก็ทดสอบความมีชีวิตและความงอกของละอองเกสรในห้องทดลอง ผลจากการทดลองพบว่าหลังจากเก็บรักษา 30 วัน เกสรตัวผู้ยังมีเปอร์เซ็นต์ความชีวิตสูงกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ผลการผสมพันธุ์พบว่าโดยทั่วไปในช่วง 1 สัปดาห์หลังการผสมพันธุ์มีเปอร์เซ็นต์การผสมติดค่อนข้างสูงและจะลดลงเรื่อยๆเนื่องจากดอกร่วงจนถึงอายุประมาณ 5 สัปดาห์หลังการผสมพันธุ์เปอร์เซ็นต์การผสมติดค่อนข้างจะคงที่ เกสรที่มีอายุเก็บรักษา 0 วัน (ดอกสด) พบว่าผสมติด 5 ฝักคิดเป็น 2.07 เปอร์เซ็นต์ของดอกที่ผสม เกสรที่มีอายุเก็บรักษา 5 วันผสมติด 2 ฝักคิดเป็น 1.03 เปอร์เซ็นต์ของดอกที่ผสม อายุเก็บรักษา 15 และ 30 วัน ผสมติดอย่างละ 1 ฝัก คิดเป็น 0.51 และ 0.48 เปอร์เซ็นต์ของดอกที่ผสมตามลำดับ โดยได้เมล็ดอย่างละ 3 เมล็ดซึ่งเป็นเมล็ดดีทั้งหมดและนำไปเพาะต้นกล้าได้อย่างละ 3 ต้น แสดงให้เห็นว่าการเก็บรักษาเกสรตัวผู้โดยไม่ลดความชื้นที่อุณหภูมิ -85 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 30 วัน นั้นเกสรตัวผู้ยังมีเปอร์เซ็นต์ความชีวิตสูงและสามารถที่จะผสมเป็นฝักและเมล็ดมีความสมบูรณ์ดีไม่ฝ่อและสามารถเพาะเป็นต้นกล้าได้ แต่อัตราการผสมติดค่อนค้างต่ำคือลดลงจากดอกสดปกติ (อายุเก็บรักษา 0 วัน) ประมาณ 4.3 เท่า อย่างไรก็ตามการเพิ่มจำนวนดอกผสมให้มากขึ้นก็สามารถเพิ่มจำนวนการติดฝักและจำนวนต้นกล้าได้ และควรทดสอบลายพิมพ์ดีเอ็นเอของต้นกล้าที่ได้เพื่อยืนยันการทดลอง
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: การยางแห่งประเทศไทย
คำสำคัญ: ดีเอ็นเอของต้นกล้า
คำสำคัญ (EN): Improving
เจ้าของลิขสิทธิ์: การยางแห่งประเทศไทย
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การเพิ่มประสิทธิภาพในการผสมพันธุ์ยาง
การยางแห่งประเทศไทย
ไม่ระบุวันที่เผยแพร่
การเพิ่มประสิทธิภาพของหินฟอสเฟตโดยเผาที่อุณหภูมิต่ำ การเพิ่มประสิทธิภาพการผสมพันธุ์ของแมลงวันผลไม้เพศผู้เป็นหมัน ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการติดผลของยางที่ผสมพันธุ์ด้วยมือ การเพิ่มประสิทธิภาพปุ๋ยไนโตรเจนในนาข้าว โครงการวิจัยและปรับปรุงพันธุ์กาแฟอาราบิก้าโดยวิธีการผสมพันธุ์ การผสมพันธุ์ยางเพื่อเพิ่มผลผลิตน้ำยางปี 2545 การตลาดยางของชาวสวนยางรายย่อยในเขตภาคใต้ตอนบน การจัดการสมดุลน้ำในสวนยางพาราเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การปลูกมังคุดเป็นพืชร่วมยางก่อนการโค่นยาง การทดสอบประสิทธิภาพโรงอบยางพลังงานแสงอาทิตย์
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก