สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาปัจจัยเสี่ยงและการระบาดของพยาธิใบไม้ในตับชนิด Fasciola gigantica ในโคและกระบือที่เลี้ยงในพื้นที่รอบทะเลสาบสงขลา
บุรินทร์ นิ่มสุพรรณ์ - มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ชื่อเรื่อง: การศึกษาปัจจัยเสี่ยงและการระบาดของพยาธิใบไม้ในตับชนิด Fasciola gigantica ในโคและกระบือที่เลี้ยงในพื้นที่รอบทะเลสาบสงขลา
ชื่อเรื่อง (EN): A study of risk factors and the epidemiology of Fasciola gigantica infection in cattle and buffaloes rearing around Songkla lake
บทคัดย่อ: วัตถุประสงค์หลักของงานวิจัยนี้เพื่อศึกษาความชุกและปัจจัยเสี่ยงของการติดพยาธิ Fasciola gigantica ในโคและกระบือที่เลี้ยงบริเวณพื้นที่รอบทะเลสาบสงขลา ตัวอย่างอุจจาระและเลือดถูกเก็บมาจากโคและกระบือจำนวน 505 และ 95 ตัวตามลำดับ จาก 5 อำเภอของจังหวัดสงขลา อุจจาระถูกนำมาตรวจหาไข่พยาธิด้วยวิธี Formalin-Ethyl acetate Sedimentation พบว่ามีการติดพยาธิ 7 ชนิด ได้แก่ Fasciola, Eurytrema pancreaticum, Rumen fluke, Strongyle worm, Capillaria, Trichuris และ Moniezia โดยพบการติดพยาธิ Fasciola ในโค 7.80% และในกระบือ 30.12 % ซึ่งการติดพยาธิ Fasciola โดยส่วนใหญ่มักเป็นการติดร่วมกับพยาธิชนิดอื่น ตัวอย่างซีรั่มถูกนำมาตรวจหาการติดพยาธิ F. gigantica ด้วยวิธี ELISA โดยเป็นการตรวจ anti-F. gigantica (E/S antigen) antibody พบการติดพยาธิในโค 29.3 % ซึ่งโคจากอำเภอสิงหนคร มีอัตราการติดพยาธิมากที่สุด (49.41 %) และในกระบือมีอัตราการติดพยาธิ 78.95 % ซึ่งกระบือจากอำเภอกระแสสินธุ์มีอัตราการการติดพยาธิสูงสุด (100%) จากการศึกษาครั้งนี้พบว่ากระบือมีการติดพยาธิในอัตราที่สูงกว่าในโค เนื่องจากกระบือที่เลี้ยงในพื้นที่ดังกล่าวเป็นกระบือน้ำ ที่เลี้ยงแบบปล่อย และไม่เคยได้รับยาถ่ายพยาธิมาก่อน ทำให้กระบือติดพยาธิใบไม้ที่ติดมากับพืชอาหารได้ง่าย กระบือจึงเป็นสัตว์ที่เก็บกักพยาธิ Fasciola ที่สามารถถ่ายทอดสู่คนต่อไปได้ จากการศึกษาครั้งนี้ข้อมูลที่ได้นอกจากจะใช้ประเมินสภาพการติดพยาธิโดยทั่วไปของโคและกระบือในบริเวณดังกล่าวแล้วยังเป็นประโยชน์สำหรับการเฝ้าระวังการติดพยาธิชนิดนี้ในคนที่อาศัยในพื้นที่ได้ต่อไปวัตถุประสงค์หลักของงานวิจัยนี้เพื่อศึกษาความชุกและปัจจัยเสี่ยงของการติดพยาธิ Fasciola gigantica ในโคและกระบือที่เลี้ยงบริเวณพื้นที่รอบทะเลสาบสงขลา ตัวอย่างอุจจาระและเลือดถูกเก็บมาจากโคและกระบือจำนวน 505 และ 95 ตัวตามลำดับ จาก 5 อำเภอของจังหวัดสงขลา อุจจาระถูกนำมาตรวจหาไข่พยาธิด้วยวิธี Formalin-Ethyl acetate Sedimentation พบว่ามีการติดพยาธิ 7 ชนิด ได้แก่ Fasciola, Eurytrema pancreaticum, Rumen fluke, Strongyle worm, Capillaria, Trichuris และ Moniezia โดยพบการติดพยาธิ Fasciola ในโค 7.80% และในกระบือ 30.12 % ซึ่งการติดพยาธิ Fasciola โดยส่วนใหญ่มักเป็นการติดร่วมกับพยาธิชนิดอื่น ตัวอย่างซีรั่มถูกนำมาตรวจหาการติดพยาธิ F. gigantica ด้วยวิธี ELISA โดยเป็นการตรวจ anti-F. gigantica (E/S antigen) antibody พบการติดพยาธิในโค 29.3 % ซึ่งโคจากอำเภอสิงหนคร มีอัตราการติดพยาธิมากที่สุด (49.41 %) และในกระบือมีอัตราการติดพยาธิ 78.95 % ซึ่งกระบือจากอำเภอกระแสสินธุ์มีอัตราการการติดพยาธิสูงสุด (100%) จากการศึกษาครั้งนี้พบว่ากระบือมีการติดพยาธิในอัตราที่สูงกว่าในโค เนื่องจากกระบือที่เลี้ยงในพื้นที่ดังกล่าวเป็นกระบือน้ำ ที่เลี้ยงแบบปล่อย และไม่เคยได้รับยาถ่ายพยาธิมาก่อน ทำให้กระบือติดพยาธิใบไม้ที่ติดมากับพืชอาหารได้ง่าย กระบือจึงเป็นสัตว์ที่เก็บกักพยาธิ Fasciola ที่สามารถถ่ายทอดสู่คนต่อไปได้ จากการศึกษาครั้งนี้ข้อมูลที่ได้นอกจากจะใช้ประเมินสภาพการติดพยาธิโดยทั่วไปของโคและกระบือในบริเวณดังกล่าวแล้วยังเป็นประโยชน์สำหรับการเฝ้าระวังการติดพยาธิชนิดนี้ในคนที่อาศัยในพื้นที่ได้ต่อไป
บทคัดย่อ (EN): The aims of this study were to determine the prevalence and risk factors of Fasciola gigantica infection in cows and buffaloes rearing around Songkla Lake. The stool and blood samples of 505 cows and 95 buffaloes from 5 districts of Songkla province were analyzed. Fecal samples were examined by Formalin-Ethyl acetate Sedimentation which Fasciola, Eurytrema pancreaticum, Rumen fluke, Strongyle worm, Capillaria, Trichuris and Moniezia were found. Fasciola infection in cows was 7.80% and 30.12 % in buffaloes which most of them were mixed infection with the other worms. Anti- F. gigantica (E/S antigen) antibody were detected 29.3 % in cows by ELISA which showed the highest rate in Singhanakorn district (49.41 %). The infection rate in buffaloes was 78.95 % which Krasaesinth district showed the highest rate (100 %). Buffaloes showed the prevalence of F. gigantica infection more than cows because they are water buffaloes which are reared in the field near Songkla Lake and never get the anthelmintic drug before. Therefore, the buffaloes can be reservoir hosts of Fasciola which can be transmitted to the humans through food-borne cycle. From the results of this study, the data can be used for the general assessment of the parasitic infection in cows and buffaloes and also used for the prevention of Fasciola infection in humans who live in the area around Songkla Lake.The aims of this study were to determine the prevalence and risk factors of Fasciola gigantica infection in cows and buffaloes rearing around Songkla Lake. The stool and blood samples of 505 cows and 95 buffaloes from 5 districts of Songkla province were analyzed. Fecal samples were examined by Formalin-Ethyl acetate Sedimentation which Fasciola, Eurytrema pancreaticum, Rumen fluke, Strongyle worm, Capillaria, Trichuris and Moniezia were found. Fasciola infection in cows was 7.80% and 30.12 % in buffaloes which most of them were mixed infection with the other worms. Anti- F. gigantica (E/S antigen) antibody were detected 29.3 % in cows by ELISA which showed the highest rate in Singhanakorn district (49.41 %). The infection rate in buffaloes was 78.95 % which Krasaesinth district showed the highest rate (100 %). Buffaloes showed the prevalence of F. gigantica infection more than cows because they are water buffaloes which are reared in the field near Songkla Lake and never get the anthelmintic drug before. Therefore, the buffaloes can be reservoir hosts of Fasciola which can be transmitted to the humans through food-borne cycle. From the results of this study, the data can be used for the general assessment of the parasitic infection in cows and buffaloes and also used for the prevention of Fasciola infection in humans who live in the area around Songkla Lake.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
คำสำคัญ: กระบือ
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาปัจจัยเสี่ยงและการระบาดของพยาธิใบไม้ในตับชนิด Fasciola gigantica ในโคและกระบือที่เลี้ยงในพื้นที่รอบทะเลสาบสงขลา
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
30 กันยายน 2554
การศึกษาสภาพทางเศรษฐกิจและสังคมของการเลี้ยงสัตว์ท้องถิ่น:กรณีศีกษาการเลี้ยงกระบือในพื้นที่ราบลุ่มรอบทะเลสาบสงขลา หลักการใช้ยอดอ้อยเลี้ยงโค-กระบือให้โตเร็ว คำแนะนำในการเตรียมการรับภัยแล้งสำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงโค-กระบือ การกำหนดมาตรฐานราคาซื้อขายโคในตลาดนัดโค - กระบือ จะพัฒนาการปลูกพืชอาหารสัตว์ให้เพียงพอกับการเลี้ยงโค กระบือได้อย่างไร การใช้วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรในการเลี้ยงโค-กระบือ แอนติบอดีต่อโรคปากและเท้าเปื่อยของโค-กระบือ ในตลาดนัดค้าสัตว์ ในพื้นที่ภาคเหนือระหว่าง พ.ศ. 2542-2546 ฟางข้าว อาหารสำหรับโค-กระบือ การศึกษาสภาพตลาดนัดโค กระบือ ในประเทศไทย ความคิดเห็นของเกษตรกรผู้เลี้ยงโค โครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ กรณีศึกษา:บ้านเกาะหาดทรายดำ ตำบลหงาว อำเภอเมือง จังหวัดระนอง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก