สืบค้นงานวิจัย
การปรับปรุงสายพันธุ์ Aspergillus sp. BR 1 เพื่อผลิตกรดโคจิก
นวลพรรณ ณ ระนอง - สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
ชื่อเรื่อง: การปรับปรุงสายพันธุ์ Aspergillus sp. BR 1 เพื่อผลิตกรดโคจิก
ชื่อเรื่อง (EN): Strain improvement of Aspergillus sp. BR 1 for kojic acid Production
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: นวลพรรณ ณ ระนอง
บทคัดย่อ: บทคัดย่อ ศึกษาการปรับปรุงสายพันธุ์ Aspergillus sp. BR-1 เพื่อให้ได้เชื้อกลายพันธุ์ที่ผลิตกรดโคจิกสูงกว่าสายพันธุ์เดิม โดยนำสปอร์แขวนลอย (1x107 สปอร์ต่อมิลลิลิตร) ผสมกับสารละลาย NTG 2 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร ที่พีเอช 7.0 เป็นเวลา 30 นาที หลังจากทำให้เกิดการกลายพันธุ์ พบว่าเชื้อรากลายพันธุ์ N-2062 ให้ผลผลิตกรดโคจิกสูงที่สุด เท่ากับ 1.42 กรัมต่อลิตร เมื่อเลี้ยงในอาหาร starch medium ศึกษาการผลิตกรดโคจิกของเชื้อกลายพันธุ์ N-2062 ในฟลาสก์แบบเขย่าที่ความเร็วรอบ 180 รอบต่อนาที ที่อุณหภูมิห้อง เมื่อใช้แป้งมันสำปะหลังที่ความเข้มข้น 20 40 และ 60 กรัมต่อลิตร เป็นแหล่งคาร์บอน พบว่าอาหารที่มีแป้งมันสำปะหลัง 60 กรัมต่อลิตร ให้กรดโคจิกสูงสุด 15.42 กรัมต่อลิตร และอัตราการผลิตกรดโคจิก 3.08 กรัมต่อลิตรต่อวัน ตามลำดับ เมื่อศึกษาผลของแหล่งไนโตรเจนในการผลิตกรดโคจิกโดยใช้ยีสต์สกัด เปปโทน ทริปโทน แอมโมเนียมซัลเฟต และโซเดียมไนเตรท 5 กรัมต่อลิตร พบว่าเชื้อรากลายพันธุ์ผลิตกรดโคจิกสูงสุด 15.70 กรัมต่อลิตร เมื่อใช้ยีสต์สกัดเป็นแหล่งไนโตรเจน อัตราการผลิตกรดโคจิกเท่ากับ 3.14 กรัมต่อลิตร สูตรอาหารที่เหมาะสมประกอบด้วย แป้งมันสำปะหลัง 60 กรัมต่อลิตร ยีสต์สกัด 5 กรัมต่อลิตร ไดโพแทสเซียมไฮโดเจนฟอสเฟต 1 กรัมต่อลิตร แมกนีเซียมซัลเฟต 0.5 กรัมต่อลิตร พีเอชเริ่มต้นเท่ากับ 4.0 เมื่อศึกษาการผลิตกรดโคจิกระหว่างเชื้อกลายพันธุ์ N-2062 และสายพันธุ์เดิมในอาหารที่เหมาะสม พบว่ารากลายพันธุ์ N-2062 ให้ปริมาณกรดโคจิก 16.07 กรัมต่อลิตร ในขณะที่เชื้อสายพันธุ์เดิมผลิตกรดโคจิกเพียง 2.32 กรัมต่อลิตร
บทคัดย่อ (EN): Abstract Improvement of Aspergillus sp. BR1 was studied to obtain a potential mutant which produced kojic acid higher than its parent strain. Spore suspension (1x107 spores/ml) was treated with 2 mg/ml NTG solution at pH 7.0 for 30 min. After mutagenesis, a mutant strain N-2062 was selected and the highest kojic acid production of 1.42 g/l was produced in starch medium. Kojic acid production of the mutant strain N-2062 was determined in shaking flasks with shaking speed of 180 rpm at room temperatue. Cassava starch was used as carbon source with the concentrations of 20, 40 and 60 g/l. When 60 g/l cassava starch was used in the medium, the maximum kojic acid concentration and productivity were 15.42 g/l and 3.08 g/ld, respectively. The effect of nitrogen sources on production of kojic acid was investigated using 5 g/l yeast extract, peptone, tryptone, ammomium sulfate and sodium nitrate. The highest kojic acid production of 15.70 g/l was obtained when yeast extract was used as nitrogen source with productivity of 3.14 g/ld. The optimum medium contained (g/l) : cassava starch, 60 ; yeast extract, 5 ; K2HPO4 1 ; MgSO4?7H2O, 0.5 with an initial pH of 4.0. The yields of kojic acid production in the optimized medium between mutant strain N-2062 and the parent strain were studied. From the results, kojic acid production by the mutant strain N-2062 was 16.07 g/l where as the parent strain produced only 2.32 g/l kojic acid.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
คำสำคัญ: เชื้อรา
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การปรับปรุงสายพันธุ์ Aspergillus sp. BR 1 เพื่อผลิตกรดโคจิก
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
2552
Aspergerus niger, Rhizopus oryzae, Colletotrichum sp., Pertatoliopsis sp. และ Selerotium sp. งานวิจัยเรื่อง การศึกษาผลของน้ำพริกแกงที่มีต่อเชื่อ Staphylococus aureus, Shigella sp., Salmonella sp., Escherichia coli และ Aspergillus flavus การศึกษาของสารสกัดจากพริกขี้หนูสวนต่อการยับยั้ง Aspergillus parasiticus และ Aspergillus fumigatus การใช้เชื้อ Aspergillus oryzae, Saccharomyces sake และบักเตรีกรดอะซิติกในการผลิตน้ำส้มสายชูจากข้าวเหนียว การสกัดสีจาก Neurospora sp การศึกษาเทคนิคการหล่อสเตนเลสเพื่อผลิตเครื่องประดับ การแก้ไขปัญหาการผสมไม่ติดในโคเนื้อระยะแรกคลอดเชิงบูรณาการของกลุ่มผู้เลี้ยงโคเนื่อในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การปรับปรุงสายพันธุ์และการพัฒนาสภาวะการเลี้ยงแบคทีเรีย Alcaligenes sp. เพื่อเพิ่มความสามารถในการผลิตพอลิเมอร์ที่ย่อยสลายได้ กลุ่มพอลีไฮดรอกซีอัลคาโนเอต การควบคุมประสิทธิภาพของยาลดกรดโดยรวดเร็ว : รายงานผลการวิจัย การลดจำนวนแบคทีเรียในน้ำเสียด้วยปรากฏการณ์โคโรน่า
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก