สืบค้นงานวิจัย
การใช้วัสดุเศษเหลือของอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มเพื่อผลิตสารอาหารร่วมและหัวเชื้อเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตก๊าซชีวภาพและผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม
พูนสุข ประเสริฐสรรพ์ - มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ชื่อเรื่อง: การใช้วัสดุเศษเหลือของอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มเพื่อผลิตสารอาหารร่วมและหัวเชื้อเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตก๊าซชีวภาพและผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม
ชื่อเรื่อง (EN): Utilization of Palm Oil Industrial Wastes for Production of Co-Substrates and Starter Cultures to Increase Biogas Production Efficiency and Value-Added Products
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: พูนสุข ประเสริฐสรรพ์
บทคัดย่อ: สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. ได้สนับสนุนทุนวิจัยโครงการ “การใช้วัสดุเศษเหลือของอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มเพื่อผลิตสารอาหารร่วมและหัวเชื้อเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตก๊าซชีวภาพและผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม” แก่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยมี นางพูนสุข ประเสริฐสรรพ์เป็นหัวหน้าโครงการ มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม โดยใช้วัสดุเศษเหลือจากสวนปาล์ม โรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม และโรงงานผลิตไบโอดีเซล รวมทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตก๊าซชีวภาพเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนากระบวนการผลิตก๊าซชีวภาพในโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม จากการศึกษาวิจัย พบว่า 1) สภาวะที่เหมาะสมในการแปรสภาพลำต้นและทางใบปาล์มน้ำมัน คือ การใช้กรดซัลฟูริกเข้มข้นร้อยละ 2 กำลังของเครื่องไมโครเวฟ 700 วัตต์ ระยะเวลาในการทำปฏิกิริยา 10 นาที ผลจากการแปรสภาพได้น้ำตาลทั้งหมด 35.71 และ 29.84 กรัมต่อลิตร ตามลำดับ กรดอะซิติก 3.52 และ 6.45 กรัมต่อลิตร ตามลำดับ เฟอร์ฟูรอล 0.44 และ 0.45 กรัมต่อลิตร และไฮดรอกซีเมธิลเฟอร์ฟูรอล (HMF) 0.34 และ 0.53 กรัมต่อลิตร ตามลำดับ จากการใช้ไฮโดรไลเสตที่ได้จากการแปรสภาพลำต้นและทางใบปาล์มน้ำมัน และหมักเป็นเวลา 24 ชั่วโมง พบว่า การใช้เชื้อผสมระหว่าง Saccharomyces cerevisiae TISTR 5088 กับ Candida shehatae TISTR 5843 ให้ค่าเอทานอลสูงกว่าการใช้เชื้อเดี่ยวทั้งสองกรณี โดยได้ค่าเอทานอลสูงสุดเท่ากับ 8.54  และ 11.61 กรัมต่อลิตร ตามลำดับ 2) โครงสร้างประชากรจุลินทรีย์ในลำต้นและทางใบปาล์มน้ำมันจากการหมักแบบธรรมชาติ พบว่า แบคทีเรียที่พบจากต้นปาล์มมีความหลากหลายกว่าจากทางใบปาล์มทั้งการหมักแบบธรรมชาติที่อุณหภูมิห้อง (30 องศาเซลเซียส) และที่อุณหภูมิ 40 องศาเซลเซียส แบคทีเรียที่พบแบ่งเป็นกลุ่มหลักๆ ได้แก่ แบคทีเรียที่ผลิตกรดน้ำส้มสายชู (กรดอะซิติก) แบคทีเรียกลุ่มแลคติก แบคทีเรียที่ผลิตเอนไซม์ย่อยแป้ง แบคทีเรียที่ไม่ใช้อากาศ ยีสต์ และรา โดยพบแบคทีเรียที่ผลิตกรดน้ำส้มสายชู 3 สายพันธุ์ (Gluconobacter mesenteroides, Gluconobacter oxydans และ Ameyamaea chiangmaiensis) แบคทีเรียกลุ่มแลคติก 2 สายพันธุ์ (Leuconostoc mesenteroides และ Weissella confuse) แบคทีเรียที่ผลิตเอนไซม์ย่อยแป้ง เป็นเชื้อกลุ่ม Bacillus หลายสายพันธุ์ (Bacillus thermoamylovorans, Bacillus circulans, Lysinibacillus xylanilyticus และ Bacillus sp.) ซึ่งมีประสิทธิภาพในการผลิตเอนไซม์ในกลุ่ม Xylanolytic และ Cellulolytic ได้อีกด้วย และราที่พบมีจำนวน 2 สายพันธุ์ (Hexagonia hirta และ Pycnoporus sp.) จากการแยกเชื้อราที่สามารถใช้ต้นปาล์มและทางใบปาล์มได้ดีรวมทั้งผลิตลิกโนเซลลูโลไลสิกเอนไซม์ในปริมาณสูง จำนวน 20 สายพันธุ์ และคัดเลือกได้ 8 สายพันธุ์เพื่อศึกษาการผลิตเอนไซม์จากการหมักแบบอาหารเหลว (SmF) และแบบอาหารแข็ง (SSF) พบว่าสายพันธุ์ TT1 มีการผลิตเอนไซม์ CMCase สูงสุด ในขณะที่สายพันธุ์ TM3 ให้ค่ากิจกรรมเอนไซม์ไซลาเนสสูงสุด ดังนั้น สภาวะการหมักแบบ SmF สามารถผลิตเอนไซม์ CMCase และไซลาเนสได้สูงกว่าสภาวะการหมักแบบ SSF ถึง 2.3 เท่า และ 1.7 เท่า ตามลำดับ ส่วนเชื้อราสายพันธุ์ TT2 ให้ค่ากิจกรรมเอนไซม์ FPase สูงสุดใกล้เคียงกัน (1.54 และ 1.66 ยูนิตต่อกรัมสับสเตรทแห้ง ตามลำดับ) จากการหมักทั้งสองแบบ เมื่อนำเชื้อราทั้ง 3 สายพันธุ์ที่คัดเลือกได้มาผลิตเอนไซม์โดยใช้กากลำต้นปาล์มน้ำมันเป็นแหล่งคาร์บอน พบว่า สายพันธุ์ TT1 ผลิตเอนไซม์ CMCase ไซลาเนส และ FPase ได้ค่าสูงสุดเท่ากับ 18.16, 40.00 และ 1.70 ยูนิตต่อกรัมสับสเตรทแห้ง ตามลำดับ หลังการเลี้ยงเชื้อ 4 วันภายใต้สภาวะการเลี้ยงเชื้อแบบอาหารเหลว (SmF) ส่วนสายพันธุ์ TT2 ผลิตเอนไซม์ CMCase ไซลาเนส และ FPase สูงสุดเท่ากับ 6.10, 21.75 และ 1.70 ยูนิตต่อกรัมสับสเตรทแห้ง ตามลำดับ หลังการหมัก 2 วัน ในสภาวะการเลี้ยงเชื้อแบบอาหารแข็ง (SSF) ส่วนสายพันธุ์ TM3 ผลิตเอนไซม์ CMCase ไซลาเนส และ FPase สูงสุดเท่ากับ 7.13, 56.46 และ 2.13 ยูนิตต่อกรัมสับสเตรทแห้ง ตามลำดับ หลังการหมัก 3 วัน ในสภาวะ SSF เมื่อทดลองใช้เชื้อผสมระหว่างสายพันธุ์ TT1, TT2 และ TM3 ในสัดส่วน 1:1:1 พบว่าเชื้อให้ค่ากิจกรรมเอนไซม์ CMCase ไซลาเนส และ FPase ต่ำกว่าการเลี้ยงเชื้อแบบเชื้อเดี่ยวๆ (6.06, 20.24 และ 1.26 ยูนิตต่อกรัมสับสเตรทแห้ง ตามลำดับ หลังการหมักเป็นเวลา 3 วัน) ประโยชน์ที่จะได้รับจากผลงานวิจัยได้องค์ความรู้และวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตก๊าซชีวภาพจากการใช้ไฮโดรไลเสทเป็นสารอาหารร่วมและผลจากการเติมเอนไซม์ที่ผลิต ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าจากการใช้ทางใบและต้นปาล์มน้ำมันเป็นวัตถุดิบ และผลิตภัณฑ์หัวเชื้อที่ผลิตก๊าซชีวภาพอย่างมีประสิทธิภาพสำหรับโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: https://rdo.psu.ac.th/ResearchProject/reDetail.php?pro_id=X560793
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
คำสำคัญ: โครงสร้างประชากรจุลินทรีย์
คำสำคัญ (EN): microbial community
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

พูนสุข ประเสริฐสรรพ์. "การใช้วัสดุเศษเหลือของอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มเพื่อผลิตสารอาหารร่วมและหัวเชื้อเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตก๊าซชีวภาพและผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มUtilization of Palm Oil Industrial Wastes for Production of Co-Substrates and Starter Cultures to Increase Biogas Production Efficiency and Value-Added Products". มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์. 2557

พูนสุข ประเสริฐสรรพ์. "การใช้วัสดุเศษเหลือของอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มเพื่อผลิตสารอาหารร่วมและหัวเชื้อเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตก๊าซชีวภาพและผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มUtilization of Palm Oil Industrial Wastes for Production of Co-Substrates and Starter Cultures to Increase Biogas Production Efficiency and Value-Added Products". มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์. 2557. Print.



TARR Wordcloud:
การใช้วัสดุเศษเหลือของอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มเพื่อผลิตสารอาหารร่วมและหัวเชื้อเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตก๊าซชีวภาพและผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม
พูนสุข ประเสริฐสรรพ์
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
13 สิงหาคม 2557
การใช้วัสดุเศษเหลือของอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มเพื่อผลิตสารอาหารร่วมและหัวเชื้อเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตก๊าซชีวภาพและผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม ปีที่2 อุตสาหกรรมอาหารไทย ปลอดภัยเชื่อถือได้ การออกแบบตะแกรงสั่นแยกกากน้ำมันปาล์ม การวิจัยเชิงนโยบายเพื่อการประหยัดพลังงานและคาร์บอนไดออกไซด์ สำหรับประเทศไทยและภาคอุตสาหกรรม การพัฒนาผลิตภัณฑ์ตำรับยาสมุนไพรไทยต้านมะเร็งจากฐานข้อมูลคัมภีร์ตำรายาสมุนไพรไทย ปีที่ 3 โครงการศึกษาสถานภาพการใช้เทคโนโลยีแก็สซิฟิเคชันสำหรับ ผลิตความร้อนและไฟฟ้าในระดับอุตสาหกรรม ชุมชน หรือ วิสาหกิจขนาดกลางและ ขนาดเล็กของประเทศไทย การใช้วัสดุเศษเหลือของอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มเพื่อผลิตสารอาหารร่วมและหัวเชื้อเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตก๊าซชีวภาพและผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม การใช้วัสดุเศษเหลือของอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มเพื่อผลิตสารอาหารร่วมและหัวเชื้อเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตก๊าซชีวภาพและผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม ปีที่2 การผลิตก๊าซชีวภาพจากน้ำเสียขาออกจากระบบผลิตก๊าซชีวภาพ ของโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มด้วยระบบไม่ใช้อากาศแบบลูกผสม การวิจัยเพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ของฟาร์มกวาง มหาวิทยาลัยรามคำแหง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair