สืบค้นงานวิจัย
การเลี้ยงปลาโมงในกระชังด้วยอัตราปล่อยต่างกัน
วิระวรรณ ระยัน - กรมประมง, กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง
ชื่อเรื่อง: การเลี้ยงปลาโมงในกระชังด้วยอัตราปล่อยต่างกัน
ชื่อเรื่อง (EN): Cage Culture of Pangasius bocourti Sauvage, 1880 at Different Stocking Densities
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: วิระวรรณ ระยัน
ผู้ร่วมงาน / ผู้ร่วมวิจัย: สุภาพร มหันต์กิจ
คำสำคัญ: ปลาโมง เลี้ยงในกระชัง อัตราปล่อย ต้นทุนการผลิต
คำสำคัญ (EN): Pangasius bocourti, cage culture, stocking densities, production cost
บทคัดย่อ: การศึกษาการเจริญเติบโตและผลตอบแทนทางเศรษฐศาสตร์ของการเลี้ยงปลาโมงในกระชังในบ่อดินที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน ้าจืดสกลนคร ปล่อยปลาโมงความยาวเริ่มต้นเฉลี่ย 8.42+0.68,8.42+0.75และ 8.49+0.63 เซนติเมตร ตามล าดับ น ้าหนักเฉลี่ย 5.96+1.61, 5.93+1.63และ 5.98+1.40 กรัม ตามล าดับโดยใช้อัตราปล่อยแตกต่างกัน 3ระดับ คือ 50, 100และ 200 ตัวต่อลูกบาศก์เมตร ลงเลี้ยงในกระชังขนาด 1.5 x 1.5 x 1.8เมตร ระดับน ้าลึก 1.5 เมตร ให้อาหารส าเร็จรูปชนิดเม็ดลอยน ้าระดับโปรตีน 30 เปอร์เซ็นต์ โดยให้กินจนอิ่ม วันละ 2 ครั้ง เวลา 04.00 น. และ 20.00 น. ทดลองเลี้ยงระหว่างเดือนพฤษภาคม 2549-เดือนมีนาคม 2551 เป็นเวลา 23 เดือน ผลการทดลองพบว่าปลาโมงที่เลี้ยงมีน ้าหนักสุดท้ายเฉลี่ยเท่ากับ 1,677.50+271.31,1,415.63+254.31และ1,213.94+295.15กรัม ความยาวสุดท้ายเฉลี่ย 50.50+3.39,49.11+3.07และ 46.97+3.26เซนติเมตร ตามล าดับ น ้าหนักเพิ่มเฉลี่ยต่อวัน 2.38+0.11, 2.01+0.01 และ 1.72+0.12 กรัมต่อวัน อัตราการเจริญเติบโตจ าเพาะ0.80+0.01, 0.79+0.03และ 0.75+0.03 เปอร์เซ็นต์ต่อวัน ตามล าดับ ทั้งนี้การเจริญเติบโตด้านน ้าหนักและความยาวของชุดการทดลองที่เลี้ยงด้วยอัตราปล่อย 50และ 100 ตัวต่อลูกบาศก์เมตรไม่แตกต่างกันทางสถิติแต่มีความแตกต่างจากชุดการทดลองที่เลี้ยงด้วยอัตราปล่อย 200 ตัวต่อลูกบาศก์เมตรอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ ส่วนอัตรารอดเท่ากับ 95.33+0.67, 94.67+4.16และ93.39+5.26เปอร์เซ็นต์ซึ่งพบว่าไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ อัตราแลกเนื้อเท่ากับ 2.50+0.04, 2.90+0.22และ 2.29+0.09 ตามล าดับ ทั้งนี้พบว่าอัตราแลกเนื้อที่อัตราปล่อย100 ตัวต่อลูกบาศก์เมตร มีค่าแตกต่างจากปลาที่เลี้ยงที่อัตราปล่อย 50และ 200 ตัวต่อลูกบาศก์เมตรอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติจุดคุ้มทุนของราคาขายปลาโมงที่เลี้ยงด้วยอัตราปล่อย 50, 100และ 200 ตัวต่อลูกบาศก์เมตร มีค่าเท่ากับ 68.92, 43.12และ57.19 บาทต่อกิโลกรัม รายได้ทั้งหมดเท่ากับ 19,190.40, 32,163.00และ 54,416.80 บาทต่อกระชังรายได้สุทธิเท่ากับ 4,327.91, 4,435.56และ 17,182.13 บาท ก าไรสุทธิเท่ากับ 2,658.29,2,765.94และ15,512.52 บาท และผลตอบแทนต่อการลงทุนเท่ากับ 26.18, 9.41และ39.87เปอร์เซ็นต์ ตามล าดับ จากการวิเคราะห์ต้นทุนการผลิต พบว่าอัตราปล่อยที่เหมาะสมในการเลี้ยงปลาโมงในกระชังคือ 200 ตัวต่อลูกบาศก์เมตรเพราะให้ก าไรสุทธิและรายได้สุทธิสูงสุด
ปีเริ่มต้นงานวิจัย: 2551
ปีสิ้นสุดงานวิจัย: 2551
เอกสารแนบ: http://www.inlandfisheries.go.th/research/details.php?id=39
ลิขสิทธิ์: แสดงที่มา-อนุญาตแบบเดียวกัน 3.0 ประเทศไทย (CC BY-SA 3.0 TH)
เผยแพร่โดย: กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด, กรมประมง
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การเลี้ยงปลาโมงในกระชังด้วยอัตราปล่อยต่างกัน
กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด, กรมประมง
2551
เอกสารแนบ 1
เอกสารแนบ 2
เอกสารแนบ 3
การเลี้ยงปลาชะโดในกระชังด้วยอัตราปล่อยต่างกัน อิทธิพลของอัตราปล่อยต่อการอนุบาลลูกปลาโมง การเลี้ยงปลาโมงในกระชังเพื่อเป็นพ่อแม่พันธุ์ุ การศึกษาสภาวะเศรษฐกิจสังคมของการเลี้ยงปลาโมงในกระชัง ในแม่น้าโขง จังหวัดนครพนม การเลี้ยงกุ้งก้ามกรามแบบพัฒนาโดยใช้อัตราปล่อยต่างๆกัน การศึกษาสมรรถนะการเจริญเติบโตของปลานิล (Oreochromis niloticus) และปลาโมง (Pongosius bocourti) ในการทดลองเลี้ยงปลาในพื้นที่ที่มีปัญหาดินเค็ม การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตปลาโมงและปลาโมงลูกผสมเพื่อเพิ่ม ศักยภาพการแข่งขันเชิงพาณิชย์ ศึกษาเปรียบเทียบลักษณะสำคัญเชิงเพาะเลี้ยงระหว่างปลานิลแดงเพศผู้ 4 สายพันธุ์ ที่เลี้ยงในกระชัง การเสริมโปรไบโอติกและอีเอ็มในอาหารต่อการเจริญเติบโตและอัตราการรอดของปลาหมอไทยที่เลี้ยงในกระชัง ปัจจัยของการเกิดโรคปลาที่เลี้ยงในกระชังในแม่น้ำมูลเขต จ.อุบลราชธานี

แสดงที่มา-อนุญาตแบบเดียวกัน 3.0 ประเทศไทย (CC BY-SA 3.0 TH)
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก