สืบค้นงานวิจัย
การสะสมและการขับทิ้งไนโตรเจนและฟอสฟอรัสของปลากะพงขาว (Lates calcarifer Bloch, 1790) ที่เลี้ยงด้วยอาหารเม็ดแห้งและอาหารปลาสด
จูอะดี พงศ์มณีรัตน์ - กรมประมง
ชื่อเรื่อง: การสะสมและการขับทิ้งไนโตรเจนและฟอสฟอรัสของปลากะพงขาว (Lates calcarifer Bloch, 1790) ที่เลี้ยงด้วยอาหารเม็ดแห้งและอาหารปลาสด
ชื่อเรื่อง (EN): Retention and Excretion of Nitrogen and Phosphorus of Seabss (Lates calcarifer Bloch, 1790) Fed Dry Pellet and Raw Fish
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: จูอะดี พงศ์มณีรัตน์
บทคัดย่อ: ศึกษาการสะสมและการขับทิ้งไนโตรเจนและฟอสฟรัสของปลากะพงขาว ที่เลี้ยงในกระชังด้วยอาหารเม็ดแห้งและอาหารปลาสด โดยเลี้ยงปลากะพงขาว ขนาดน้ำหนักเริ่มต้น ประมาณ 24 กรัม ในกระชัง ขนาด 2x2x2 เมตร จำนวน 6 กระชัง ด้วยอาหารเม็ดแห้งผสมสำเร็จรูป (โปรตีน 43% น้ำหนักแห้ง) และอาหารปลาสด (ปลาหลังเขียว) เป็นระยะเวลา 45 วัน พบว่า ปลากะพงขาวที่เลี้ยงด้วยอาหารปลาสดมีน้ำหนักเพิ่ม (395.8%) มากกว่าปลาที่เลี้ยงดัวยอาหารเม็ดแห้ง (318.1%) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P< 0.05) อย่างไรก็ตามปลาที่เลี้ยงด้วยอาหารเม็ดแห้งมีอัตราการแลกเนื้อ ประสิทธิภาพอาหาร และประสิทธิภาพโปรตีน ดีกว่าปลาที่เลี้ยงด้วยอาหารปลาสดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P< 0.05) ประสิทธิภาพการย่อยไนโตรเจนและฟอสฟอรัสในอาหารเม็ดแห้งมีค่า 80.7% และ 24.7 ตามลำดับ สำหรับค่ากิจกรรมเอนไซม์โปรติเอส อะไมเลส และ ไลเปส ในตับและทางเดินอาหารของปลาทั้งสองชุดการทดลองไม่มีความแตกต่างกัน ยกเว้นโปรติเอสในทางเดินอาหารปลาที่เลี้ยงด้วยอาหารปลาสดซึ่งพบว่ามีค่ากิจกรรมเอนไชม์ที่สูงกว่าปลาที่เลี้ยงตัวยอาหารเม็ดแห้ง อัตราการสะสมไนโตรเจนและฟอสฟอรัส ของปลากะพงซาวที่เลี้ยงด้วยอาหารเม็ดแห้งมีค่า 46.16% และ 53.7 8% ซึ่งสูงกว่าปลาที่เลี้ยงด้วยอาหารปลาสด คือ 33.2 3% และ 48.94% ตามลำดับ ส่วนอัตราการขับทิ้งไนโตรเจนและฟอสฟอรัสของปลาที่เลี้ยงด้วยอาหารเม็ดแห้ง มีค่า 53.84% และ 46.22% และต่ำกว่าปลาที่เลี้ยงด้วยอาหารปลาสด คือ 66.7 7% และ 51.06% ตามลำดับ การสูญเสียจากการละลายของอาหารเม็ดแห้ง ภายในเวลา 5 - 15 นาที มีค่าอยู่ในช่าง 0.86 - 1.84% ซึ่งต่ำกว่าอาหารปลาสตที่ละลายสูญเสีย ประมาณ 3.85 -4.22% แต่สำหรับสารอาหารไนโตรจนและฟอสฟอรัสในอาหารปลาสด มีการสูญเสีย 4.44% และ 8.16% และสูงกว่าอาหารเม็ดแห้ง ซึ่งมีค่า 1,42% และ 0.30% ตามลำดับ การขับทิ้งไนโตรเจนและฟอสฟอรัสของปลาที่เลี้ยงด้วยอาหารปลาสด มีค่าประมาณ 65.69 และ 1 0.4 7 กรัม/น้ำหนักปลา 1 กิโลกรัม ส่วนปลาที่เลี้ยงด้วยอาหารเม็ดแห้งมีการชับทิ้งลงสู่แหล่งน้ำน้อยกว่า คือประมาณ 37.94 และ 5.61 กรัม/น้ำหนักปลา 1 กิโลกรัม ดังนั้นการใช้อาหารเม็ดแห้งในการเลี้ยงปลากะพงขาว สามารถลดปริมาณการขับทิ้งไนโตรเจนลงสู่แหล่งน้ำลงได้ถึง 42% และลดการขับทิ้งฟอสฟอรัสลงได้ถึง 46% เมื่อเทียบกับการใช้อาหารปลาสด
บทคัดย่อ (EN): The study was conducted to evaluate the nitrogen (N) and phosphorus (P) retention and excretion by seabass (Lates calcarifer Bloch, 1790) fed commercial dry pellet (43% protein dry basis) and raw fish (sardine). Fish weighting 24 g on average were reared with the two diets in 2x2x2 net cage for 45 days in triplicates. Weight gain was significantly higher (p<0.05) for the dry pellet fed group (395.8%) compared to the group fed on raw fish (318. 1%), However, feed conversion, feed efficiency and protein effciency were significantly better for the dry pellet fed group. The digestibility of nitrogen and phosphorus in dry pellet were 80.7% and 24.7%, respectively. The digestive enzyme activities, protease, amylase and lipase of liver and digestive tract were not significantly different between the two feeding groups (p<0.05), except for the protease activity in digestive tract which was higher in fish fed raw fish. N and P retention rates were higher in fish fed dry pellet (46.16% and 53.78%) than those fed on raw fish (33.23% and 48.94%); and comparatively less N and P excretion rate were achieved in fish fed dry pellet (53.84% and 46.22%) compared to the group fed on raw fish (66.77% and 51.06%), The amount of feed loss from dry pellet (ranged 0.86-1.84%) was lower than that from raw fish (ranged 3.85-4.22%), after soaking in seawater for 5- 15 min. Whereas the N and P losses from raw fish (4.44% and 8.16%) were higher than those nutrients losses from dry pellet (1.42% and 0.30%),In addition, N and P excretion from fish fed dry pellet (37.94 g/kg and 5.61 g/kg production) were considerably less than fish fed raw fish (65.69 g/kg and 10.47 g/kg production), Therefore, loading of N and P into the water per kilogram of seabass production can respectively reduced by 42% and 46% when using dry pellet instead of raw fish.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมประมง
คำสำคัญ: ปลากะพงขาว
คำสำคัญ (EN): seabass
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การสะสมและการขับทิ้งไนโตรเจนและฟอสฟอรัสของปลากะพงขาว (Lates calcarifer Bloch, 1790) ที่เลี้ยงด้วยอาหารเม็ดแห้งและอาหารปลาสด
กรมประมง
31 มีนาคม 2554
กรมประมง
ปริมาณไนโตรเจนที่ขับถ่ายจากปลาช่อนทะเลและดุลของไนโตรเจน ที่เลี้ยงด้วยอาหารแตกต่างกัน การอนุบาลลูกปลากะพงขาว (Lates calcarifer Bloch, 1790) โดยใช้อาหารธรรมชาติด้วยวิธีการเตรียมบ่อต่างกัน การใช้สารสกัดเปลือกมังคุด (Garcinia mangostana,Linn) รักษาโรคแผลด่าง (Flexibacter maritimus) ในปลากะพงขาว (Lates calcarifer Bloch, 1790) ผลของการใช้หอยเชอรี่ทดแทนปลาข้างเหลืองในการเลี้ยงปลากะพงขาว ผลของไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมต่อการเจริญเติบโตของแกลดิโอลัส ผลของระดับไนโตรเจน ฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมต่อการเจริญเติบโตของบัวชั้น การใช้ใบมะละกอป่นในอาหารเลี้ยงปลานิลแดง (Oreochromis niloticus × O. mossambicus) การเจริญเติบโตของสาหร่ายผักกาดทะเล (Ulva rigida C. Agardh, 1823) ที่เลี้ยงร่วมกับปลากะพงขาว (Lates calcarifer Bloch, 1970) ข้อมูลเบื้องต้นของอาหารปลาราคาถูกจากอุตสาหกรรมการเลี้ยงปลานิล ผลของสารสกัดหยาบจากฟ้าทะลายโจร (Andrographis paniculata) ต่อองค์ประกอบเลือด ระบบภูมิคุ้มกันและความต้านทานโรคในปลากะพงขาว (Lates calcarifer Bloch, 1790)
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก