สืบค้นงานวิจัย
การพัฒนาสารเร่งสีสำหรับสัตว์น้ำจากดอกดาวเรือง Tagetes erecta
ชลี ไพบูลย์กิจกุล - มหาวิทยาลัยบูรพา
ชื่อเรื่อง: การพัฒนาสารเร่งสีสำหรับสัตว์น้ำจากดอกดาวเรือง Tagetes erecta
ชื่อเรื่อง (EN): Development of color accelerator for aquatic animals from marigold Tagetes erecta
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ชลี ไพบูลย์กิจกุล
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: ารศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาสารเร่งสีสำหรับสัตว์น้ำจากดอกดาวเรือง Tagetes erecta การศึกษาแบ่งออกเป็น 3 การทดลอง การทดลองที่ 1 ศึกษาผลของการเสริมดอกดาวเรืองในอาหารสำเร็จรูปต่อความเข้มสี อัตราการเจริญ และอัตราการอดตายของกุ้งกุลาดำ Penaeus monodon การทดลองที่ 2 ศึกษาผลของการเสริมเม็ดสีที่สกัดจากดอกดาวเรืองเพื่อการเร่งสีในกุ้งกุลาดำ Penaeus monodon และการทดลองที่ 3 ศึกษาการสกัดสารสีจากดอกดาวเรือง วิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีเคราะห์ความแปรปรวนและเปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยระหว่างชุดการทดลองโดยวิธี Duncan’s New Multiple Range Test ที่ระดับความเชื่อมั่น 95 เปอร์เซ็นต์ ผลการวิจัยพบว่า กุ้งที่ได้รับอาหารที่ผสมกลีบดอกดาวเรืองที่ระดับ 0,2 และ 6 เปอร์เซ็นต์มีอัตราการเจริญเติบโตทั้งด้านน้ำหนักและความยาวไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ (P>0.05) แต่มีอัตราความเจริญเติบโตทั้งด้านน้ำหนักและความยาวน้อยกว่ากุ้งที่ได้รับอาหารที่ผสมกลีบดอกดาวเรือง 4 เปอร์เซ็นต์ อย่างมีนัยสำคัญ (P>0.05) อัตราการรอดพบว่ากุ้งที่ได้รับอาหารที่ผสมกลีบดอกดาวเรืองทุกระดับมีอัตราการรอดไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ (P>0.05) กุ้งที่ได้รับอาหารที่ผสมกลีบดอกดาวเรืองที่ระดับ 6 เปอร์เซ็นต์ มีปริมาณคาร์โรทินอยด์สะสมสูงสุดแตกต่างจากกลุ่มอื่นอย่างสำคัญ (P>0.05) การเสริมกลีบดอกดาวเรืองในอาหารมีผลทำให้กุ้งมีการสะสมคาร์โรทินอยด์ในเนื้อเยื่อมากขึ้น กุ้งที่ได้รับสารอาหารที่ผสมสารสกัดจากกลีบดอกดาวเรืองทุกระดับมีการเจริญเติบโตและอัตราการรอดไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ (P>0.05) กุ้งที่ได้รับสารอาหารที่มีส่วนผสมจากกลีบดอกดาวเรืองสูงขึ้นจะมีการสะสมสารสีในร่างกายเพิ่มมากขึ้น กุ้งที่ได้สารอาหารผสมจากสารสกัดจากกลีบดอกดาวเรือง .04 เปอร์เซ็นต์จะมีปริมาณคาร์โรทินอยด์สูงสุดแตกต่างจากชุดทดลองอื่นอย่างมีนัยสำคัญ (P>0.05) รองลงมาได้แก่กุ้งที่ได้รับสารอาหารที่ผสมสารสกัดจากดอกดาวเรือง 0.2,0.1 และ 0 เปอร์เซ็นต์ กุ้งที่ได้รับอาหารผสมสารสกัดจากกลับดอกดาวเรืองมีการสะสมคาร์โรทินอยด์ในร่างกายได้มากกว่ากุ้งที่ได้รับอาหารที่ผสมสารสกัดจากกลีบดอกดาวเรือง ในการศึกษาครั้งนี้พบว่าการสกัดสารสีจากกลีบดอกดาวเรืองที่เหมาะสมควรใช้ actone เป็นตัวทำละลาย ควรใช้อัตราส่วนกลีบดอกดาวเรืองต่อตัวทำละลายเท่ากับ 1:100 (w/v) ใช้เวลาในการสกัดนาน 24 ชั่วโมง ผลการศึกษาพบว่าดอกดาวเรืองมีศักยภาพสูงในการใช้เป็นสารเร่งสีในกุ้งทั้งการใช้กลีบดอกโดยตรง และการสกัดสารสีมาใช้เพื่อเพิ่มความเข้มข้น
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dspace.lib.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/1356?show=full
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยบูรพา
คำสำคัญ: สัตว์น้ำ
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การพัฒนาสารเร่งสีสำหรับสัตว์น้ำจากดอกดาวเรือง Tagetes erecta
มหาวิทยาลัยบูรพา
30 กันยายน 2556
สี การติดตามตรวจสอบสารกลุ่มโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอนในอากาศริมถนนโดยใช้ใบไม้ในเขตจังหวัดนนทบุรี การศึกษาผลของการเสริมสารเร่งสีจากแหล่งที่ต่างกันในอาหารต่อการเจริญเติบโตและสีของปลาทอง การนำวัสดุจากผ้าอ้อมที่ใช้แล้วมาประยุกต์ใช้สำหรับผลิตดาวเรือง สาร 3-MCPD กับซอสถั่วเหลือง การผลิต Inulin และ Oligofructose จากกล้วยเพื่อใช้เป็นสารเสริมอาหาร ความถี่ อัตราและช่วงระยะเวลาการให้น้ำสำหรับอ้อยในเขตชลประทานภาคกลาง โครงการย่อยที่ 5 โครงการวิเคราะห์ปริมาณสาร THC ในเฮมพ์ ศึกษาเทคนิคการนำผลิตภัณฑ์สารเร่ง พด. สกัดสารจากพืชสมุนไพร เพื่อควบคุมแมลงศัตรูของพืชผัก โครงการย่อยที่ 1 โครงการคัดเลือกสายพันธุ์เฮมพ์ที่มีปริมาณสาร THC ต่ำ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก