สืบค้นงานวิจัย
การวิเคราะห์ศักยภาพของอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มในประเทศไทย เพื่อสร้างกลยุทธ์การแข่งขันทางการค้า
นันทรัตน์ นามบุรี - มหาวิทยาลัยแม่โจ้
ชื่อเรื่อง: การวิเคราะห์ศักยภาพของอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มในประเทศไทย เพื่อสร้างกลยุทธ์การแข่งขันทางการค้า
ชื่อเรื่อง (EN): The potential of palm oil industry in Thailand toward trade completion strategy
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: นันทรัตน์ นามบุรี
บทคัดย่อ: การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาศักยภาพการแข่งขันทางการค้าและออกแบบกล ยุทธ์การสร้างความได้เปรียบการแข่งขันทางการค้าของอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มของไทย ประชากรที่ศึกษาคือ ผู้ประกอบการปลูกปาล์มน้ามัน ผู้บริหารของกิจการที่สกัดหรือกลั่นน้ามัน ปาล์มและผูบริหารของกลุ่มผู้ผลิตที่ใช้น้ำมันปาล์มเป็นวัตถุดิบ โดยการสุ่มตัวอย่างแบบหลาย ขั้น ตอนได้กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 716 ราย เครื่องมือที่ใช้ได้แก่แบบสอบถามมาตรประมาณค่า 5 ระดับ และสัมภาษณ์ข้อมูลจากผู้บริหารอีกจำนวน 6 ราย การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ โดย คำนวณค่าเฉลี่ยและค่าร้อยละ สำหรับข้อมูลจากการสัมภาษณ์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงพรรณนา ผลการศึกษาศักยภาพการแข่งขันทางการค้าของผู้ลูกปาล์ม ด้านสภาพแวดล้อมการ แข่งขัน ทางการค้าพบวา่ มีการแข่งขัน ที่เกิดจากอำนาจต่อรองของกลุ่มผู้ซื้ออมากที่สุดโดยมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.04 เมื่อศึกษาความเกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมนำ้มันปาล์มที่ผู้ลูกปาล์มสามารถปฏิบตัิได้ มากที่สุดได้แก่ด้านอุปสงค์โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.97 นอกจากนี้ การศึกษาสภาพของ จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาสและอุปสรรคพบวา่ ผู้ลูกปาล์มมีจุดอ่อนมากที่สุดคือ ต้นทุนของพันธ์ูปาล์มมีราคา สูง มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.21 สำหรับการศึกษาศักยภาพการแข่งขัน ทางการค้าของกิจการสกัดและ กลั่นน้ามันปาล์ม ด้านนสภาพแวดล้อมการแข่งขันทางการค้า พบว่า มีการแข่งขัน ที่เกิดจากันลงทุนราย ใหม่มากที่สุดโดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.25 เมื่อศึกษาความเกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มที่ กิจการสกัดและกลั่นน้ามันปาล์มสามารถปฏิบตัิได้มาากที่สุดไดแ้ก่กลยุทธ์โครงสร้างขององค์กร และการแข่งขัน โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากบั 4.02 นอกจากนี้การศึกษาสภาพของ จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรคพบว่า มีจุดแข็งมากที่สุดคือ บุคลากรมีความรู้ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการสกัด หรือ กลั่นน้ามันปาล์ม มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.11 และการศึกษาศักยภาพการแข่งขัน ทางการค้าของกิจการ ผลิตสินค้าที่ใช้น้ำมันปาล์มเป็นวัตถุดิบ ด้านสภาพแวดล้อมการแข่งขัน ทางการค้าพบว่า มีการ แข่งขัน ที่เกิดจากอำนาจต่อรองของผู้ป้อนวัตถุดิบมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.68 เมื่อศึกษา ความเกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมน้ามันปาล์มที่กิจการสามารถปฏิบตัิได้มากที่สุดไดแ้ก่ด้านอุปสงค์ โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.10 นอกจากน้ีการศึกษาสภาพของ จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาสและอุปสรรค พบว่า มีจุดแข็งมากที่สุดคือ บุคลากรมีความรู้ความเชี่ยวชาญ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.40 สำหรับการกำหนดกลยุทธ์เพื่อสร้างความได้ปรียบทางการค้าไดแ้ก่การเพิ่มมูลค่าผลผลิต ทะลายสดปาล์มน้ำมันปาล์มการเพิ่มมูลค่าน้ำมันปาล์ม การเพิ่มมูลค่าเนื้อไม้และวัสดุพลอยได้การสร้าง ความสัมพนัธ์การร่วมมือระหว่างองค์กรการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ การตอบสนองที่รวดเร็ว การลดต้นทุนและการสร้างความแตกต่าง The purposes of this research were to study the trade competition potential and to design the strategy for advantageous trade competition of Thai oil palm industry. The population used in this research was the oil palm planting entrepreneur, the administrators of extracted business and the administrators of oil palm producer. The sample used was 716 people selected by Multi-Stage Random Sampling. The research instrument was the 5 rating scale questionnaires and doing the in-depth interview from the 6 administrators. The quantitative data was analyzed by mean and percentage and the interviewed data was in a descriptive report. The finding indicated that the trade competition potential of the oil palm planter regarding to the competitive environment showed that the competition was mostly caused by the buyer negotiation (mean=4.04). On the relation of oil palm industry it was revealed that the things that the oil palm planter could do most was the demand (mean= 3.97). Besides, the study of the strength, the weakness, the opportunity and the obstacles showed that the weakness of palm planters was the high cost of the young palm trees (mean= 4.21). With regards to the potential of the trade competition of the oil palm extracted business in term of the competitive environment it was found that the competition was mostly caused by the new investors (mean=3.25). With regards to the oil palm industry relation and the oil palm extract business it was found that the thing that they could do most was the strategy of organization structure and competition (mean= 4.02). Besides, the study of the strength, the weakness, the opportunity and the obstacles showed that the strength was that the officer had knowledge and expertised on oil palm extract (mean=4.11). With regards to the potential of the trade competition of the oil palm business in term of the competitive environment it was found that the competition was mostly caused by the negotiation of the raw material input (mean=3.68). With regards to the oil palm industry relation it was found that the thing that they could do most was the demand (mean=4.10) Besides, the study of the strength, the weakness, the opportunity and the obstacles showed that the most strength was that the officer had knowledge and expertised (mean=4.40). With regards to the strategy determined for creating the trade advantageous it was to increase the value of the fresh palm bush, oil palm, wood and the other materials and to create the relationship between organizations, using information technology, quick response, reducing cost and to create the differences.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยแม่โจ้
คำสำคัญ: พืชให้น้ำมัน (ปาล์ม)วจ 633.85 น215ก
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา
รายละเอียด: การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาศักยภาพการแข่งขันทางการค้าและออกแบบกล ยุทธ์การสร้างความได้เปรียบการแข่งขันทางการค้าของอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มของไทย ประชากรที่ศึกษาคือ ผู้ประกอบการปลูกปาล์มน้ามัน ผู้บริหารของกิจการที่สกัดหรือกลั่นน้ามัน ปาล์มและผูบริหารของกลุ่มผู้ผลิตที่ใช้น้ำมันปาล์มเป็นวัตถุดิบ โดยการสุ่มตัวอย่างแบบหลาย ขั้น ตอนได้กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 716 ราย เครื่องมือที่ใช้ได้แก่แบบสอบถามมาตรประมาณค่า 5 ระดับ และสัมภาษณ์ข้อมูลจากผู้บริหารอีกจำนวน 6 ราย การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ โดย คำนวณค่าเฉลี่ยและค่าร้อยละ สำหรับข้อมูลจากการสัมภาษณ์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงพรรณนา ผลการศึกษาศักยภาพการแข่งขันทางการค้าของผู้ลูกปาล์ม ด้านสภาพแวดล้อมการ แข่งขัน ทางการค้าพบวา่ มีการแข่งขัน ที่เกิดจากอำนาจต่อรองของกลุ่มผู้ซื้ออมากที่สุดโดยมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.04 เมื่อศึกษาความเกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมนำ้มันปาล์มที่ผู้ลูกปาล์มสามารถปฏิบตัิได้ มากที่สุดได้แก่ด้านอุปสงค์โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.97 นอกจากนี้ การศึกษาสภาพของ จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาสและอุปสรรคพบวา่ ผู้ลูกปาล์มมีจุดอ่อนมากที่สุดคือ ต้นทุนของพันธ์ูปาล์มมีราคา สูง มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.21 สำหรับการศึกษาศักยภาพการแข่งขัน ทางการค้าของกิจการสกัดและ กลั่นน้ามันปาล์ม ด้านนสภาพแวดล้อมการแข่งขันทางการค้า พบว่า มีการแข่งขัน ที่เกิดจากันลงทุนราย ใหม่มากที่สุดโดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.25 เมื่อศึกษาความเกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มที่ กิจการสกัดและกลั่นน้ามันปาล์มสามารถปฏิบตัิได้มาากที่สุดไดแ้ก่กลยุทธ์โครงสร้างขององค์กร และการแข่งขัน โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากบั 4.02 นอกจากนี้การศึกษาสภาพของ จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรคพบว่า มีจุดแข็งมากที่สุดคือ บุคลากรมีความรู้ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการสกัด หรือ กลั่นน้ามันปาล์ม มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.11 และการศึกษาศักยภาพการแข่งขัน ทางการค้าของกิจการ ผลิตสินค้าที่ใช้น้ำมันปาล์มเป็นวัตถุดิบ ด้านสภาพแวดล้อมการแข่งขัน ทางการค้าพบว่า มีการ แข่งขัน ที่เกิดจากอำนาจต่อรองของผู้ป้อนวัตถุดิบมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.68 เมื่อศึกษา ความเกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมน้ามันปาล์มที่กิจการสามารถปฏิบตัิได้มากที่สุดไดแ้ก่ด้านอุปสงค์ โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.10 นอกจากน้ีการศึกษาสภาพของ จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาสและอุปสรรค พบว่า มีจุดแข็งมากที่สุดคือ บุคลากรมีความรู้ความเชี่ยวชาญ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.40 สำหรับการกำหนดกลยุทธ์เพื่อสร้างความได้ปรียบทางการค้าไดแ้ก่การเพิ่มมูลค่าผลผลิต ทะลายสดปาล์มน้ำมันปาล์มการเพิ่มมูลค่าน้ำมันปาล์ม การเพิ่มมูลค่าเนื้อไม้และวัสดุพลอยได้การสร้าง ความสัมพนัธ์การร่วมมือระหว่างองค์กรการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ การตอบสนองที่รวดเร็ว การลดต้นทุนและการสร้างความแตกต่าง The purposes of this research were to study the trade competition potential and to design the strategy for advantageous trade competition of Thai oil palm industry. The population used in this research was the oil palm planting entrepreneur, the administrators of extracted business and the administrators of oil palm producer. The sample used was 716 people selected by Multi-Stage Random Sampling. The research instrument was the 5 rating scale questionnaires and doing the in-depth interview from the 6 administrators. The quantitative data was analyzed by mean and percentage and the interviewed data was in a descriptive report. The finding indicated that the trade competition potential of the oil palm planter regarding to the competitive environment showed that the competition was mostly caused by the buyer negotiation (mean=4.04). On the relation of oil palm industry it was revealed that the things that the oil palm planter could do most was the demand (mean= 3.97). Besides, the study of the strength, the weakness, the opportunity and the obstacles showed that the weakness of palm planters was the high cost of the young palm trees (mean= 4.21). With regards to the potential of the trade competition of the oil palm extracted business in term of the competitive environment it was found that the competition was mostly caused by the new investors (mean=3.25). With regards to the oil palm industry relation and the oil palm extract business it was found that the thing that they could do most was the strategy of organization structure and competition (mean= 4.02). Besides, the study of the strength, the weakness, the opportunity and the obstacles showed that the strength was that the officer had knowledge and expertised on oil palm extract (mean=4.11). With regards to the potential of the trade competition of the oil palm business in term of the competitive environment it was found that the competition was mostly caused by the negotiation of the raw material input (mean=3.68). With regards to the oil palm industry relation it was found that the thing that they could do most was the demand (mean=4.10) Besides, the study of the strength, the weakness, the opportunity and the obstacles showed that the most strength was that the officer had knowledge and expertised (mean=4.40). With regards to the strategy determined for creating the trade advantageous it was to increase the value of the fresh palm bush, oil palm, wood and the other materials and to create the relationship between organizations, using information technology, quick response, reducing cost and to create the differences.
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

นันทรัตน์ นามบุรี. "การวิเคราะห์ศักยภาพของอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มในประเทศไทย เพื่อสร้างกลยุทธ์การแข่งขันทางการค้าThe potential of palm oil industry in Thailand toward trade completion strategy". มหาวิทยาลัยแม่โจ้. 2554

นันทรัตน์ นามบุรี. "การวิเคราะห์ศักยภาพของอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มในประเทศไทย เพื่อสร้างกลยุทธ์การแข่งขันทางการค้าThe potential of palm oil industry in Thailand toward trade completion strategy". มหาวิทยาลัยแม่โจ้. 2554. Print.



TARR Wordcloud:
การวิเคราะห์ศักยภาพของอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มในประเทศไทย เพื่อสร้างกลยุทธ์การแข่งขันทางการค้า
นันทรัตน์ นามบุรี
มหาวิทยาลัยแม่โจ้
2554
การวิเคราะห์ที่ตั้งอุตสาหกรรมยางพาราในภาคตะวันออกของประเทศไทย การวิเคราะห์หาปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์อิสระในน้ำแม่น้ำเลย การแยกและคัดเลือกเชื้อจุลินทรีย์ย่อยสลายน้ำมัน : รายงานผลการวิจัย มหาวิทยาลัยแม่โจ้ รายงานการวิจัย การวิเคราะห์ปริมาณโลหะหนักในน้ำบริโภคบรรจุขวดที่ผลิตและจำหน่ายในจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยใช้เครื่องมือ การพัฒนาการเลี้ยงกบในประเทศไทย 2531 : รายงานวิจัย การศึกษาชีววิทยาของกบเลี้ยงและการพัฒนาการเลี้ยงกบในประเทศไทย : รายงานการวิจัย การ ศึกษาความหลากหลายของชนิดปลาในเขตลุ่มน้ำสาละวินในเขตพื้นที่ประเทศไทย : รายงานผลการวิจัย มหาวิทยาลัยแม่โจ้ / การศึกษาเปรียบเทียบสภาพและแนวโน้มการวิจัยทางการศึกษาในประเทศไทย และญี่ปุ่น เปรียบเทียบลักษณะประจำพันธุ์ปาล์มน้ำมัน 12 พันธุ์ ในพื้นที่ดินทรายชายฝั่งทะเล ณ มหาวิทยาลัยแม่โจ้-ชุมพร รายงานผลการวิจัยเรื่อง การศึกษาคุณสมบัติทางเคมีและสัณฐานวิทยาของตัวอย่างไลเคนวงศ์ฟิสเซียซิอิ ที่รวบรวมได้จากแหล่งต่างๆในประเทศไทย
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair