สืบค้นงานวิจัย
การเตรียมความพร้อมของประชากรผู้สูงอายุต่อการเปลี่ยนแปลงแรงงานภาคการเกษตรในจังหวัดเชียงใหม่
สายสกุล ฟองมูล - มหาวิทยาลัยแม่โจ้
ชื่อเรื่อง: การเตรียมความพร้อมของประชากรผู้สูงอายุต่อการเปลี่ยนแปลงแรงงานภาคการเกษตรในจังหวัดเชียงใหม่
ชื่อเรื่อง (EN): Preparation of the Elderly Population for Changing of Agricultural Labor Force in Chiang Mai province
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สายสกุล ฟองมูล
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Saisakul Fongmul
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: การศึกษาวิจัยเรื่อง “การเตรียมความพร้อมของประชากรผู้สูงอายุต่อการเปลี่ยนแปลงแรงงานภาคการเกษตรในจังหวัดเชียงใหม่” มีวัตถุประสงค์ในการศึกษา 1) เพื่อศึกษาสถานการณ์ของประชากรผู้สูงอายุในภาคการเกษตรในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ 2) เพื่อศึกษาการเตรียมความพร้อมของแรงงานผู้สูงอายุในภาคการเกษตรในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และ 3) เพื่อหาแนวทางในการพัฒนาและเสริมสร้างการเตรียมความพร้อมของแรงงานผู้สูงอายุในภาคการเกษตรในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยวิธีการเก็บรวบรวมจากข้อมูลประกอบไปด้วย การจัดหาข้อมูลสถิติประชากรแรงงานภาคการเกษตรในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เครื่องมือที่ใช้คือแบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์เชิงลึก และการจัดการสนทนากลุ่ม ในด้านการวิเคราะห์ข้อมูลใช้การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณจะทำการวิเคราะห์โดยอาศัยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้วิเคราะห์ทางสถิติ และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพจะทำการวิเคราะห์เนื้อหาในแต่ละประเด็นที่ทำการศึกษาตามประเด็นที่เกี่ยวข้อง ผลการศึกษาพบว่า เกษตรกรส่วนใหญ่เป็นเพศชาย มีอายุในช่วง 60-65 ปี เป็นหัวหน้าครัวเรือน มีจำนวนสมาชิกในครัวเรือน 1-2 คน มีรายได้ภาคการเกษตรต่อปีน้อยกว่า 100,000 บาท ส่วนมากมีปัญหาด้านสุขภาพ มีระยะเวลาในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมอยู่ระหว่าง 11-20 ปี มีขนาดของพื้นที่ผลิตพืช 3-4 ไร่ มีแรงงานในครัวเรือน 2 คน ส่วนใหญ่ไม่มีการใช้แรงงานนอกครัวเรือน มีค่าใช้จ่ายครัวเรือนไม่รวมทุนทางการเกษตรอยู่ระหว่าง 50,001 – 100,000 บาทและไม่มีหนี้สินในครัวเรือน อย่างไรก็ตามเกษตรกรส่วนมากยังไม่เคยมีการฝึกอบรมเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมของประชากรผู้สูงอายุต่อการเปลี่ยนแปลงแรงงานภาคการเกษตร และไม่เคยได้รับความรู้จากเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมของประชากรผู้สูงอายุต่อการเปลี่ยนแปลงแรงงานภาคการเกษตร ในขณะเดียวกันเกษตรกรส่วนใหญ่ได้รับผลจากการเตรียมความพร้อมในทำอาชีพเกษตรต่อความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุ คือ ทำให้มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สามารถทำเกษตรต่อไปได้ในอนาคต อีกทั้งยังได้รับสวัสดิการสังคม แต่เกษตรกรยังไม่มีการรวมกลุ่มเพื่อประกันรายได้สินค้าเกษตร และไม่แน่ใจในการเข้าร่วมการเตรียมความพร้อมของแรงงานผู้สูงอายุในภาคการเกษตรในจังหวัดเชียงใหม่ ผลการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยพื้นฐานกับการเตรียมความพร้อมของประชากรผู้สูงอายุต่อการเปลี่ยนแปลงแรงงานภาคการเกษตร พบว่า เพศ ตำแหน่งในครัวเรือน ปัญหาสุขภาพ สวัสดิการมีความสัมพันธ์กับการเตรียมความพร้อมของประชากรผู้สูงอายุต่อการเปลี่ยนแปลงแรงงานภาคการเกษตรอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ การเตรียมความพร้อมของแรงงานผู้สูงอายุในภาคการเกษตรพบว่าในด้านการพัฒนาศักยภาพตนเองของเกษตรกรนั้นเกษตรกรผู้สูงอายุมีการเข้าไปศึกษาดูงานจากศูนย์ฝึกอบรมการทำเกษตรกรรม และมีการประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการดำรงชีวิต การได้มาซึ่งองค์ความรู้ทางด้านการเกษตรส่วนใหญ่มาจาก การเข้าร่วมอบรม การศึกษาดูงานจากศูนย์การเรียนรู้ในหน่วยงานต่างๆ และการรับข้อมูลข่าวสารจากสื่อต่างๆ เช่น โทรทัศน์ วิทยุ เกษตรกรผู้สูงอายุส่วนใหญ่ได้รับสวัสดิการจากภาครัฐ คือเบี้ยยังชีพ บัตรทอง ในระดับชุมชนมีการเข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์ของหมู่บ้าน กลุ่มฌาปนกิจศพ กลุ่มกองทุนหมู่บ้าน กลุ่มพัฒนาอาชีพเสริมทางการเกษตรหรืออาชีพเสริมอื่นๆ การทำประกันจากปริษัทเอกชน ในส่วนภาคการเกษตรได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ซึ่งส่วนมากจะเป็นกลุ่มที่มีการให้ผลตอบแทนหรือผลประโยชน์ซึ่งเกษตรกรส่วนใหญ่เห็นว่ามีส่วนสำคัญอย่างมากที่จะช่วยสนับสนุน และช่วยเหลือในยามแก่ชรา มีการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้การทำการเกษตรตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับคนในชุมชน ในการเตรียมความพร้อมในการสืบทอดการประกอบอาชีพเกษตรกรรม เกษตรกรผู้สูงอายุได้มีการเตรียมความพร้อมโดยมีการส่งเสริมให้บุตรหลานไปศึกษาในสาขาวิชาทางด้านการเกษตร โดยหวังว่าจะนำเอาความรู้กลับมาพัฒนาครอบครัวของตนเอง แต่เกษตรกรอีกส่วนหนึ่งไม่มีการบังคับและเปิดโอกาสให้บุตรหลานของตนเองมีเสรีในการประกอบอาชีพ แต่การทำการเกษตรจะเป็นเพียงการสมัครใจและอยู่ในรูปแบบการจ้างแรงงานมาทำการเกษตรในพื้นที่ของตนเอง สืบเนื่องจากปัญหาการขาดแคลนแรงงานในการทำการเกษตรเกษตรกรได้ทดแทนแรงงานที่คาดแคลนโดยการจ้างแรงงานชนเผ่า แรงงานต่างชาติ แรงงานชาวไทยภูเขา หรือไทใหญ่เข้ามาทดแทน และมีการลดขนาดพื้นที่ทำการเกษตรกรรมลง แนวทางในการพัฒนาและเสริมสร้างการเตรียมความพร้อมของแรงงานผู้สูงอายุในภาคการเกษตรพบว่าเกษตรกรต้องการให้ภาครัฐ เอกชน สถาบันทางการศึกษาเข้ามาสนับสนุนเกษตรกรผู้สูงอายุในด้านสวัสดิการทางด้านสุขภาพ การเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ การส่งเสริมอาชีพเสริม การสร้างหลักประกันราคาหรือแหล่งตลาดรับซื้อสินค้าของเกษตรกร การส่งเสริมและให้องค์ความรู้ด้านการจัดการระบบการเพาะปลูก เทคโนโลยีการผลิต และพันธุ์พืชที่ดี ส่งเสริมและสนับสนุนให้บุตรหลานหรือเยาวชนสนใจเรียนสาขาวิชาทางด้านการเกษตรเพื่อกลับไปช่วยชุมชนของตนเอง ปลูกฝังค่านิยมด้านการเกษตรในสถาบันการศึกษาเพื่อที่จะสร้างเกษตรกรรุ่นใหม่และทดแทนเกษตรกรผู้สูงอายุและแรงงานที่กำลังขาดแคลนในอนาคตต่อไป อีกทั้งรัฐควรให้ความสำคัญของภาคเกษตรกรรมโดยการส่งเสริมให้เกษตรกรรมเป็นหนึ่งในอาชีพที่สำคัญและเป็นอาชีพที่มีเกียรติของประเทศชาติและคงความเป็นประเทศเกษตรกรรมต่อไป
บทคัดย่อ (EN): This research on “Preparation of the Elderly Population for Changing of Agricultural Labor Force in Chiang Mai Province,” had the following objectives: 1) to study the situation of the elderly population in agriculture in Chiang Mai province, 2) to study the preparedness of the elderly laborers in agriculture in Chiang Mai province, and 3) to seek guidelines in developing and strengthening the preparedness of the elderly laborers in agriculture in Chiang Mai province. Statistical data on agricultural labor in Chiang Mai were gathered. In-depth interview using a questionnaire and group discussion were done. A computer program was applied for quantitative statistical analysis of data, while for content analysis of each topic/issue/point studied following issues concerned were done for qualitative analysis of data. The study showed that majority of the respondents were males aged 60-65 years old, heads of households with 1-2 members, with annual income of less than 100,000 baht. They had health problems and with 11-20 years of agriculture/farming experience working in an area of 3-4 rais of farm. Household expenses range between 50,001-100,000 baht excluding farming capital and without debt. For agricultural laborers per household there are two laborers. Majority do not use laborers outside the household. However, majority of the elderly farmers did not have any training on preparedness on the changing agricultural laborers and on receiving knowledge from extension officers. At the same time majority of the farmers are affected from the preparedness in agriculture/farming towards/on being of the elderly are as follows: having improved living conditions making it possible to continue farming in the future both received social welfare but the farmers do not have group to insure agricultural products and not sure in joining the preparedness of the elderly laborers in agriculture in Chiang Mai. The study on the relationship between factors with preparedness of the elderly population toward changing laborers in agriculture showed that sex, position in the household, health problems, welfare were correlated with the readiness of the elderly population to change the labor force in the agricultural sector and was statistically significant. In this research it showed the farmers developed themselves by having training at the Agricultural Training Center and also applied the principles of the King’s Sufficiency Economy Philosophy in their daily lives. They acquired their knowledge in agriculture by participation in trainings, visiting the Learning Center in various agencies, and from the media such as TV and radio. Majority of the elderly received welfare benefits from the government such as subsistence allowance, gold health card. At the community level, many joined membership of the community savings group, cremation group, the village fund, agricultural professional development group and other supplementary occupations, having private insurance In the agricultural sector the farmers were able to be members of the agricultural bank for farmers and agricultural cooperative which mostly provide benefits which majority of the farmers see have great importance that can support and help in their old age The Learning Center that gave practical training on farming according to the King’s Sufficiency Economy Philosophy served as source of learning for the people in the community. In preparation for the inheritance of farming profession the elderly farmers have prepared by encouraging and supporting their children/descendants to study agriculture in the university with the hope that they would bring the knowledge in agriculture to develop their families. However, some farmers do not do so but gave freedom to their children in choosing their profession or area of study. But agriculture is only voluntary and is in the form of hiring laborers to do farming in their own area and consequently due to the shortage of labor in agriculture, the farmers have replaced the clan's labor force by employing tribal workers, foreign workers, mountain workers or Taiyai to replace the lack of laborers and even reducing the area for their farming. On the way or guideline in developing and strengthening the preparedness of the elderly farmers, the research showed that the farmers wanted the government and private sectors, educational institutions to support the elderly farmers in terms of social welfare benefits, health benefits, increased subsistence allowance, supplementary occupations extension, establishing pricing collateral, markets for agricultural products, sowing seeds management extension, agricultural production technology, and good breeds or varieties. Furthermore, the elderly farmers wanted the youth to be supported or encouraged to study agriculture in order to develop their homes/communities. Values of agriculture in the universities /educational institutions should be cultivated to produce new generation of farmers and replace the elderly farmers and lack of laborers in the future. And also the government should give importance to agriculture by making agriculture as the number one and honorable occupation of the country and keeping Thailand as an agricultural country.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยแม่โจ้
คำสำคัญ: การเตรียมความพร้อม
คำสำคัญ (EN): Preparation
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยแม่โจ้
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การเตรียมความพร้อมของประชากรผู้สูงอายุต่อการเปลี่ยนแปลงแรงงานภาคการเกษตรในจังหวัดเชียงใหม่
มหาวิทยาลัยแม่โจ้
2560
รูปแบบการพัฒนาเกษตรอินทรีย์เชิงนวัตกรรมเพื่อเสริมสร้างศักยภาพแก่ผู้พิการในจังหวัดเชียงใหม่ พลวัตการผลิตยางพาราในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กรณีศึกษา หมู่บ้านทรัพย์สมบูรณ์ ตำบลดูนสาด อำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น ความสำคัญของแรงงานในครัวเรือนและชุมชนต่อการผลิตเมล็ดพันธุ์มะเขือเทศภายใต้เกษตรพันธะสัญญาในหมู่บ้านลาดนาเพียง ตำบลสาวะถี อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุที่เตรียมจากงาไฮโดรไลเสทที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพเตรียมจากกากงา ผลของระยะและชนิดพืชอาหารต่ออายุตัวเต็มวัยของแมลงทับขาแดง สนับสนุนวิชาการพัฒนาระบบการดูแลผู้สูงอายุพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ผลของอายุและสายพันธุ์ต่ออัตราการเคลื่อนที่, อัตราการรอดชีวิต และความสมบูรณ์พันธุ์ของน้ำเชื้อแบบแช่แข็งของพ่อพันธุ์ไก่พื้นเมือง ผักสดอ่อนนุ่มสำหรับผู้สูงอายุ ระบบบันทึกและประเมินการเดินแบบสามมิติในผู้สูงอายุ การวิเคราะห์คุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุชาวล้านนา จังหวัดเชียงใหม่
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก