สืบค้นงานวิจัย
การวิเคราะห์ความคุ้มทุนทางเศรษฐกิจและการประเมินการใช้มาตรฐานคุณภาพของอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน
ผศ.ดร.เบญจมาภรณ์ พิมพา - มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ชื่อเรื่อง: การวิเคราะห์ความคุ้มทุนทางเศรษฐกิจและการประเมินการใช้มาตรฐานคุณภาพของอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน
ชื่อเรื่อง (EN): An Economic analysis and assessment of standard implementation
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ผศ.ดร.เบญจมาภรณ์ พิมพา
บทคัดย่อ:           สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. ได้สนับสนุนทุนวิจัยโครงการ “การวิเคราะห์ความคุ้มทุนทางเศรษฐกิจและการประเมินการใช้มาตรฐานคุณภาพของอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน" แก่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจและการประเมินการใช้มาตรฐานคุณภาพของอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน โดยมุ่งเน้นการศึกษามาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับปาล์มน้ำมันจำนวน 4 มาตรฐาน คือ มาตรฐานของภาครัฐ ประกอบด้วย 1) มาตรฐานสินค้าเกษตร: ทะลายปาล์มน้ำมัน 2) มาตรฐานสินค้าเกษตร: การปฏิบัติที่ดีสำหรับลานเทปาล์มน้ำมัน และ 3) มาตรฐานสินค้าเกษตร: การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับปาล์มน้ำมัน และมาตรฐานสากลที่ใช้ในการค้าระหว่างประเทศ 1 มาตรฐาน คือ 4) มาตรฐานการผลิตปาล์มน้ำมันอย่างยั่งยืน (RSPO)            การใช้มาตรฐานคุณภาพของอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน ในแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกันไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ สภาพสังคม วัฒนธรรมและทัศนคติในแต่ละพื้นที่ นอกจากนี้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมแต่ละฝ่าย มีระดับการรับรู้ ความคิดเห็นหรือมุมมองต่อมาตรฐานที่แตกต่างกันไป ดังนั้น ในการประเมินการนำมาตรฐานปาล์มน้ำมันไปใช้จึงต้องมีการนำบริบทของพื้นที่ วัฒนธรรม แนวคิด หรือทัศนคติ ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียแต่ละฝ่ายเข้ามาพิจารณาเพื่อเป็นแนวทางในการให้ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการนำมาตรฐานปาล์มน้ำมันไปใช้ในอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันที่มีประสิทธิภาพ และเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของงานวิจัย จึงได้มีการศึกษาสำรวจผู้ที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานทั้ง 4 คือ เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน ผู้ประกอบการลานเท และโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบ ในแหล่งปลูกปาล์มน้ำมันที่สำคัญในแต่ละภาค โดยภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดกระบี่ จังหวัดชุมพร จังหวัดสุราษฎร์ธานี  ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จังหวัดสกลนคร จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดนครพนม จังหวัดอุดรธานี จังหวัดอำนาจเจริญ และจังหวัดหนองคาย ภาคกลาง ได้แก่ จังหวัดปทุมธานี ภาคตะวันตก ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี ภาคตะวันออก ได้แก่ จังหวัดชลบุรี และภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดเชียงรายและจังหวัดตาก           ผลการศึกษาการรับรู้และนำมาตรฐานไปปฏิบัติโดยเกษตรกร ลานเท และโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบพบว่า เกษตรกรส่วนใหญ่มีการรับรู้ข้อกำหนดในมาตรฐานสินค้าเกษตรทะลายปาล์มน้ำมันและได้มีการนำไปปฏิบัติในบางข้อกำหนดสาเหตุที่ไม่ได้นำไปปฏิบัติทั้งหมด เนื่องจากในทางปฏิบัติบางข้อกำหนดของมาตรฐาน อาทิเช่น การวิเคราะห์คุณภาพทั่วไปของทะลายปาล์ม ไม่สามารถดำเนินการได้เองบางข้อกำหนด เกษตรกรไม่ทราบข้อมูลแน่ชัดในการนำไปปฏิบัติ อาทิเช่น ข้อมูลที่เกี่ยวกับเปอร์เซ็นต์น้ำมัน การชักตัวอย่างเพื่อนำไปวิเคราะห์หาสัดส่วนของน้ำมันต่อทะลาย เป็นต้น           สำหรับการรับรู้และนำไปปฏิบัติตามหลักการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับปาล์มน้ำมัน เกษตรกรส่วนใหญ่มีการรับรู้ข้อกำหนดต่างๆ ตามมาตรฐานนี้และได้นำไปปฏิบัติ เนื่องจากการดำเนินการตามมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี เกษตรกรเห็นประโยชน์ที่ได้รับ อาทิเช่น การดูแลจัดการสวนปาล์มน้ำมัน ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายลดลง ผลปาล์มน้ำมันมีคุณภาพดีขึ้น ความปลอดภัยในการทำงานดีขึ้น เป็นต้น           เกษตรกรรับรู้ข้อกำหนดและมาตรฐานที่เกี่ยวกับมาตรฐานลานเททะลายปาล์มน้ำมัน โดยปัจจุบันเกษตรกรมีความเห็นว่า ลานเทมีการปฏิบัติตามมาตรฐานในหลายประเด็น อาทิเช่น การจัดสถานที่ดี อุปกรณ์ในการทำงานมีพร้อมและอยู่ในสภาพดี มีสวัสดิการต่างๆ เพิ่มมากขึ้น เช่น ที่พัก น้ำดื่ม ห้องน้ำ เป็นต้น รวมทั้งลานเทยังให้คำแนะนำและให้ความรู้แก่เกษตรกรและผู้รับจ้างตัดผลปาล์มน้ำมันเกี่ยวกับคุณภาพของผลปาล์มน้ำมัน ส่วนคุณภาพของทะลายปาล์มน้ำมันที่เข้าสู่โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบ พบว่า ยังไม่มีการแยกชั้นคุณภาพในการรับซื้อตามมาตรฐานสินค้าเกษตรทะลายปาล์มน้ำมัน จากการสุ่มตัวอย่างผลปาล์มน้ำมันจากลานเท พบว่า ลานเทจังหวัดชลบุรีผลปาล์มน้ำมันมีคุณภาพด้านอัตราน้ำมันสูงสุดสูง คือ มีอัตราน้ำมันต่อผลปาล์มร้อยละ 26.40 ทั้งนี้ เนื่องจาก เกษตรกรส่วนใหญ่ในภาคนี้ จ้างแรงงานเก็บเกี่ยวผลปาล์มน้ำมันเป็นรายวัน  (ขณะที่ภาคอื่นจ้างแบบเหมาจ่ายตามน้ำหนักคือ บาทต่อตัน) ส่งผลให้มีการเลือกเก็บเกี่ยวเฉพาะผลปาล์มน้ำมันสุกเท่านั้น รวมทั้งลานเทในพื้นที่นี้มีการรับซื้อผลปาล์มน้ำมันตามคุณภาพของผลปาล์มน้ำมัน ในขณะที่จังหวัดต่างๆ  ในภาคอื่น รับซื้อแบบคละ           ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปอร์เซ็นต์น้ำมันของทะลายปาล์มมีค่าเท่ากับร้อยละ 19.71 % ซึ่งเป็นค่าที่ต่ำที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับจังหวัดอื่นๆ ทั้งนี้เนื่องจาก ภาคนี้ปริมาณฝนน้อยกว่าภาคอื่น และเกษตรกรใส่ปุ๋ยตามความสะดวกและใช้ปุ๋ยคอก           ภาคกลาง จากการสุ่มเก็บตัวอย่างผลปาล์มน้ำมันจากจังหวัดปทุมธานี พบว่า เปอร์เซ็นต์น้ำมันของทะลายปาล์มน้ำมัน มีค่าร้อยละ 23.30% ซึ่งใกล้เคียงกับคุณภาพผลปาล์มน้ำมันทางภาคใต้ ทั้งนี้ เนื่องจากพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันเป็นพื้นที่ที่เคยปลูกส้มมาก่อน มีแหล่งน้ำอุดมสมบูรณ์ เกษตรกรมีความคุ้นชินกับการดูแลรักษาผลไม้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใส่ปุ๋ย การใช้ยาฆ่าแมลง เกษตรกรในพื้นที่นี้มีการใส่ปุ๋ยถึง 4 ครั้งต่อปี บางรายแบ่งใส่ปุ๋ยทุกเดือน           ภาคใต้ จากการสุ่มตัวอย่างผลปาล์มน้ำมัน เพื่อทราบคุณภาพด้านอัตราน้ำมันจากผลปาล์มน้ำมันในจังหวัดกระบี่ จังหวัดชุมพร และจังหวัดสุราษฎร์ธานี พบว่า มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 23.25%, ร้อยละ 21.35% และร้อยละ 21.78% ตามลำดับ ซึ่งมีค่าต่ำกว่าอัตราน้ำมันจากผลปาล์มน้ำมัน จังหวัดชลบุรี และปทุมธานี เนื่องจาก ทะลายปาล์มน้ำมันที่นำมาจำหน่ายส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นผลปาล์มน้ำมันในระยะดิบ มีน้ำมันต่อทะลายน้อย นอกจากนี้ยังพบว่า น้ำมันปาล์มดิบมีค่ากรดไขมันอิสระ ประมาณร้อยละ 2.39-5.73 (กรณีตัวอย่างจากโรงงานสกัดน้ำมันแบบแยกสกัด) และค่ากรดไขมันอิสระประมาณร้อยละ 6.2-11.56 (กรณีโรงงานสกัดแบบสกัดรวมเมล็ดใน)              การวิเคราะห์ประโยชน์ที่ได้รับจากการปลูกปาล์มน้ำมันอย่างยั่งยืน (RSPO) กรณีศึกษาเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี พบว่า ทำให้เกษตรกรมีความรู้ความเข้าใจการจัดการสวนปาล์มน้ำมันดีขึ้น มีการใช้ปุ๋ยและใช้สารเคมีลดลง มีความปลอดภัยในการเพาะปลูกปาล์มน้ำมันมากขึ้น สุขภาพจิตดีขึ้น สิ่งแวดล้อมในชุมชนดีขึ้น และสุขภาพร่างกายดีขึ้น เกษตรกรสามารถเพิ่มผลผลิตปาล์มน้ำมัน จากเดิม 2.0 ตันต่อไร่ต่อปี เป็น 2.5 ตันต่อไร่ต่อปี ต้นทุนการผลิตปาล์มน้ำมันเฉลี่ยต่อไร่ต่อปี เท่ากับ 5,712.04 บาท สามารถขายผลปาล์มน้ำมันได้ราคาสูงขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 4.20 บาท (ราคาเฉลี่ยของผลปาล์มน้ำมันทั่วไปกิโลกรัมละ 4.14 บาท ณ ไร่นา) ส่งผลให้เกษตรกรมีกำไรไร่ละ 4,871.96 บาทต่อปี หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนร้อยละ 85.29           จากการวิเคราะห์ต้นทุนและผลตอบแทนในการปฏิบัติตามมาตรฐานการผลิตน้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืน กรณีศึกษาเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี พบว่า อัตราผลตอบแทนต่อเงินลงทุนเท่ากับ 85.29 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเป็นผลตอบแทนที่น่าลงทุน นอกจากนี้เกษตรกรมีความรู้ในการทำสวนปาล์มเพิ่มมากขึ้น สุขภาพจิตดีขึ้น สิ่งแวดล้อมในชุมชนดีขึ้น มีความปลอดภัยในการทำงานเพิ่มขึ้น และสุขภาพร่างกายดีขึ้น
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
คำสำคัญ: น้ำมันปาล์มดิบ คุณภาพน้ำมันปาล์มดิบ มาตรฐาน ทะลายปาล์มน้ำมัน
คำสำคัญ (EN): oil palm fresh fruit bunch
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การวิเคราะห์ความคุ้มทุนทางเศรษฐกิจและการประเมินการใช้มาตรฐานคุณภาพของอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
4 กันยายน 2557
การวิเคราะห์ความคุ้มทุนทางเศรษฐกิจและการประเมินการใช้มาตรฐานคุณภาพของอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน การทดสอบและสาธิตเทคโนโลยีการจัดการสวนปาล์มน้ำมันในเขตพื้นที่ภาคใต้ตอนบน ปีที่3 การทดสอบและสาธิตเทคโนโลยีการจัดการสวนปาล์มน้ำมันในเขตพื้นที่ภาคใต้ตอนบน ปีที่3 อุตสาหกรรมอาหารไทย ปลอดภัยเชื่อถือได้ การผลิตถ่านกัมมันต์จากกะลาปาล์ม การวิจัยเชิงนโยบายเพื่อการประหยัดพลังงานและคาร์บอนไดออกไซด์ สำหรับประเทศไทยและภาคอุตสาหกรรม โครงการศึกษาสถานภาพการใช้เทคโนโลยีแก็สซิฟิเคชันสำหรับ ผลิตความร้อนและไฟฟ้าในระดับอุตสาหกรรม ชุมชน หรือ วิสาหกิจขนาดกลางและ ขนาดเล็กของประเทศไทย การวิเคราะห์ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจของการปลูกปาล์มน้ำมันในพื้นที่ดินเปรี้ยวจัด การศึกษาระบบโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม ในการปรับตัวรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน การใช้ประโยชน์จากของเหลือในอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันเป็นอาหารแพะ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก