สืบค้นงานวิจัย
ความหลากหลายภายในสปีชีส์ของมะระขี้นก Momordica charantia Linn. โดยการวิเคราะห์ด้วยอาร์เอพีดี
Kittipong Pala-or - จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ชื่อเรื่อง: ความหลากหลายภายในสปีชีส์ของมะระขี้นก Momordica charantia Linn. โดยการวิเคราะห์ด้วยอาร์เอพีดี
ชื่อเรื่อง (EN): Intraspecific variation of bitter gourd Momordica charantia Linn. by RAPD analysis
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Kittipong Pala-or
บทคัดย่อ: ความหลากหลายทางพันธุกรรมและความสัมพันธ์ภายในสปีชีส์ของมะระขี้นกในประเทศไทยจำนวน 22 สายพันธุ์ซึ่งรวบรวมไว้ที่ศูนย์วิจัยพืชสวนจังหวัดพิจิตร นำมาวิเคราะห์ด้วยเทคนิคอาร์เอพีดีพบว่ามี 6 ไพรเมอร์คือ X-12, X-16, X-18, X-24, X-26 และ X-27 ที่สามารถใช้สร้างเครื่องหมายโมเลกุลแบบอาร์เอพีดีโดยให้รูปแบบคงเดิมเมื่อทำซ้ำ แถบอาร์เอพีดีที่รวบรวมได้มีทั้งสิ้น 109 แถบ ประกอบด้วย แถบดีเอ็นเอที่ไม่มีความหลายหลายจำนวน 54 แถบ (49.5%) และแถบดีเอ็นเอที่มีความหลากหลายจำนวน 55 แถบ (50.5%) เมื่อประมาณค่าความแตกต่างทางพันธุกรรม และสร้างแผนภูมิความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมโดยใช้วิธี neighbor-joining พบว่าสายพันธุ์มะระขี้นกประกอบด้วย 2 กลุ่มย่อยซึ่งสอดคล้องกับการจัดกลุ่มโดยใช้ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของผล อย่างไรก็ตามไม่พบว่าการแบ่งกลุ่มสายพันธุ์มะระขี้นกมีความเกี่ยวข้องหรือสอดคล้องกับการกระจายพันธุ์ทางภูมิศาสตร์ของแต่ละสายพันธุ์แต่อย่างใด การตรวจหาบริเวณที่มีการแสดงออกของยีน MAP30 ในบริเวณเนื้อเยื่อปลายยอด ใบดอกตูม ดอกเพศผู้ ดอกเพศเมีย เนื้อผลดิบ เมล็ดจากผลดิบ เนื้อผลสุก และเมล็ดจากผลสุก พบการแสดงออกของยีน MAP30 ในเนื้อเยื่อปลายยอด ใบ และเมล็ดจากผลดิบ และจากการเปรียบเทียบขนาดของยีน MAP30 ที่เพิ่มปริมาณด้วยวิธีพีซีอาร์โดยใช้จีโนมิกดีเอ็นเอเป็นแม่แบบเทียบกับการเพิ่มปริมาณยีน MAP 30 โดยใช้อาร์เอ็นเอนำรหัสเป็นแม่แบบ พบว่ายีน MAP30 ที่ได้จากการเพิ่มปริมาณในทั้งสองวิธีมีขนาดเท่ากัน การโคลนยีน MAP30 เข้าสู่พลาสมิด pUC18 เพื่อให้สามารถเกิดการแสดงออกได้ใน Echerichia coli ไม่พบโคลนใดที่มีชิ้นยีน MAP30 อยู่เลย ทั้งนี้สาเหตุอาจมาจากไพรเมอร์ที่ใช้สำหรับการเพิ่มปริมาณยีน MAP30 ด้วยวิธีพีซีอาร์ถูกออกแบบมาผิดพลาดทำให้เอนไซม์ตัดจำเพาะไม่สามารถตัดส่วนปลายของชิ้นยีนได้ ชิ้นยีนดังกล่าวจึงไม่สามารถเชื่อมต่อกับพลาสมิดได้
บทคัดย่อ (EN): Ramdomly amplified polymorphic DNA (RAPD) analysis was used to determine the levels of genetic diversity and to estimate genetic relationship among 22 accessions of Momordica charantis Linn. (Mara-Khee nok) from Pichitr Horticultural Research Center, Thailand. Six of 47 sceened decanucleotide primers (X-12, S-16, X-18, X-24, X-26 and X-27) gave reproducible RAPD patterns. One hundred and nine reproducible RAPD bands were generated across the investigated species of these, 54 bands (49.5%) were monomorphic band and 55 bands (50.5%) were polymorphic band. Genetic variations of 22 accessions of M. charatia were analyzed by neighbor-joining program and the dendrogram divided Mara-Khee nok into 2 groups that were correlated diameter size of the fruits. However, the relationship between the division of Mara-Khee nok and their geological distribution was not indicated. The expression of MAP30 gene was investigated in apical shoot, leaf, flower bud, male flower, female flower, young fruit tissue, seed of young fruit, rie fruit tissue and seed of ripe fruit. The MAP30 gene expression of apical shoot, leaf and seed of young fruit were found. The amplification of MAP30 gene from genemic DNA template and mRNA template gave PCR product of equal size. Cloning of MAP30 gene into plasmid pUC18 for expression in Escherichia coli was not successful. The MAP30 gene fragment was not ligated to plasmid pUC18. It might be caused from wrong designing at the 5'-end restriction site of specific primer for amplification of MAP30 gene before cloning.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://thailis-db.car.chula.ac.th/CU_DC/november2004/Thesis/Kittipong.pdf
เผยแพร่โดย: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
คำสำคัญ (EN): Thailand
เจ้าของลิขสิทธิ์: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
รายละเอียด: ความหลากหลายทางพันธุกรรมและความสัมพันธ์ภายในสปีชีส์ของมะระขี้นกในประเทศไทยจำนวน 22 สายพันธุ์ซึ่งรวบรวมไว้ที่ศูนย์วิจัยพืชสวนจังหวัดพิจิตร นำมาวิเคราะห์ด้วยเทคนิคอาร์เอพีดีพบว่ามี 6 ไพรเมอร์คือ X-12, X-16, X-18, X-24, X-26 และ X-27 ที่สามารถใช้สร้างเครื่องหมายโมเลกุลแบบอาร์เอพีดีโดยให้รูปแบบคงเดิมเมื่อทำซ้ำ แถบอาร์เอพีดีที่รวบรวมได้มีทั้งสิ้น 109 แถบ ประกอบด้วย แถบดีเอ็นเอที่ไม่มีความหลายหลายจำนวน 54 แถบ (49.5%) และแถบดีเอ็นเอที่มีความหลากหลายจำนวน 55 แถบ (50.5%) เมื่อประมาณค่าความแตกต่างทางพันธุกรรม และสร้างแผนภูมิความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมโดยใช้วิธี neighbor-joining พบว่าสายพันธุ์มะระขี้นกประกอบด้วย 2 กลุ่มย่อยซึ่งสอดคล้องกับการจัดกลุ่มโดยใช้ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของผล อย่างไรก็ตามไม่พบว่าการแบ่งกลุ่มสายพันธุ์มะระขี้นกมีความเกี่ยวข้องหรือสอดคล้องกับการกระจายพันธุ์ทางภูมิศาสตร์ของแต่ละสายพันธุ์แต่อย่างใด การตรวจหาบริเวณที่มีการแสดงออกของยีน MAP30 ในบริเวณเนื้อเยื่อปลายยอด ใบดอกตูม ดอกเพศผู้ ดอกเพศเมีย เนื้อผลดิบ เมล็ดจากผลดิบ เนื้อผลสุก และเมล็ดจากผลสุก พบการแสดงออกของยีน MAP30 ในเนื้อเยื่อปลายยอด ใบ และเมล็ดจากผลดิบ และจากการเปรียบเทียบขนาดของยีน MAP30 ที่เพิ่มปริมาณด้วยวิธีพีซีอาร์โดยใช้จีโนมิกดีเอ็นเอเป็นแม่แบบเทียบกับการเพิ่มปริมาณยีน MAP 30 โดยใช้อาร์เอ็นเอนำรหัสเป็นแม่แบบ พบว่ายีน MAP30 ที่ได้จากการเพิ่มปริมาณในทั้งสองวิธีมีขนาดเท่ากัน การโคลนยีน MAP30 เข้าสู่พลาสมิด pUC18 เพื่อให้สามารถเกิดการแสดงออกได้ใน Echerichia coli ไม่พบโคลนใดที่มีชิ้นยีน MAP30 อยู่เลย ทั้งนี้สาเหตุอาจมาจากไพรเมอร์ที่ใช้สำหรับการเพิ่มปริมาณยีน MAP30 ด้วยวิธีพีซีอาร์ถูกออกแบบมาผิดพลาดทำให้เอนไซม์ตัดจำเพาะไม่สามารถตัดส่วนปลายของชิ้นยีนได้ ชิ้นยีนดังกล่าวจึงไม่สามารถเชื่อมต่อกับพลาสมิดได้
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ความหลากหลายภายในสปีชีส์ของมะระขี้นก Momordica charantia Linn. โดยการวิเคราะห์ด้วยอาร์เอพีดี
Kittipong Pala-or
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
2544
การเปรียบเทียบผลผลิต คุณค่าทางโภชนาการและองค์ประกอบทางเคมีบางชนิดของมะระขี้นก Momordica Charantia Linn. ที่ปลูกโดยไม่ใช้ดิน การถ่ายทอดเครื่องหมายอาร์เอพีดีในปลาดุกด้าน (Clarias batrachus Linnaeus) การตรวจหาการแสดงออกที่ต่างกันของยีนในใบประดับของบัวชั้นโดยเทคนิคดีดีอาร์ที-พีซีอาร์ การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมของกล้วยไม้สกุล ฮาเบนาเรีย และเพคเทลิส โดยเทคนิคอาร์เอพีดี การตรวจหาการแสดงออกที่ต่างกันของยีนในกลีบเลี้ยงและกลีบดอกเอื้องดินใบหมากโดยเทคนิคดีดีอาร์ที - พีซีอาร์ การตรวจสอบดีเอ็นเอเมทิลเลชันในการออกดอกของผักกาดขาวปลี (Brassica campestris subsp. pekinensis)ที่ชักนำโดยปัจจัยต่างๆ ด้วยเทคนิคเอชเอที-อาร์เอพีดี ผลของแคดเมียมต่อโปรตีนจีเอพีดีเอชและการแสดงออกของยีนนีโมในส่วนที่มีความสัมพันธ์กับยีนของเอ็นไซม์จี-6-พีดีในเซลล์เฮปจี2 การทำนายหาอาร์เอนเอไม่แปลรหัสและเป้าหมายของอาร์เอนเอเหล่านั้นในจีโนมของ Spirulina platensis ความสามารถในการผสมข้ามระหว่างกล้วยไม้หวายกลิ่นหอมกับกล้วยไม้หวายพันธุ์การค้า และการจำแนกลูกผสมโดยเทคนิคอาร์เอพีดี ผลของสภาวะการให้ความร้อนต่อปริมาณสารประกอบฟีโนลิกทั้งหมดและสมบัติการกำจัดอนุมูลอิสระของมะระขี้นก
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก