สืบค้นงานวิจัย
ผลของวิธีการให้อาหารแบบขั้นบันไดในระยะวงรอบการเป็นสัดต่อการพัฒนาฟอลลิเคิลและคุณภาพของโอโอไซต์ของแม่แพะพื้นเมืองไทย
จารึก ณัฏฐากรกุล - ไม่ระบุหน่วยงาน
ชื่อเรื่อง: ผลของวิธีการให้อาหารแบบขั้นบันไดในระยะวงรอบการเป็นสัดต่อการพัฒนาฟอลลิเคิลและคุณภาพของโอโอไซต์ของแม่แพะพื้นเมืองไทย
ชื่อเรื่อง (EN): Effect of stair-step feeding regimen during estrous cycle on follicular development and oocyte quality of Thai-native does
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: จารึก ณัฏฐากรกุล
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Jaruk Nutthakornkul
บทคัดย่อ: เพื่อศึกษาผลของวิธีการให้อาหารแบบขั้นบันไดในระยะวงรอบการเป็นสัดต่อการพัฒนาการของฟอลลิเคิล และคุณภาพของโอโอไซต์ ใช้แพะพื้นเมืองเพศเมียน้ำหนักเฉลี่ย 170.6 กก. อายุ 8 เดือน จำนวน 16 ตัว เป็นแพะ ที่มีวงรอบการเป็นสัดมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 วงรอบ และใช้แพะเพศผู้ที่ผ่าตัดท่อนำน้ำเชื้อเพื่อตรวจสอบการเป็นสัดของแพะ เพศเมียทุกวัน แพะเพศเมียแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มควบคุม (Control) ให้อาหารตามความต้องการโภชนะของแพะในระยะ วัยเจริญพันธุ์ หรือคิดเป็น 100% โดยให้หญ้ารูซี่แห้ง 500 กรัม/ตัว/วัน ร่วมกับอาหารข้นที่มีโปรตีน 16% เสริมในระดับ 1% ของน้ำหนักตัว รวมอาหารที่ให้กิน 670 กรัม/ตัว/วัน มีพลังงานใช้ประโยชน์ (metabolizable energy, ME) เท่ากับ 1.48 เมกะแคลอรีต่อกิโลกรัม และโปรตีนที่ได้รับ 55 กรัม/ตัว/วัน ตลอดระยะเวลา 42 วัน กลุ่มที่ 2 ให้อาหารแบบขั้นบันได (Stair-step feeding) ประกอบด้วย 2 ระยะคือ ระยะแรก(วันที่ 1-21) ให้อาหารแพะแบบจำกัด โดยได้รับอาหารเพียง 70% ของกลุ่มควบคุม ระยะที่สอง (วันที่ 22-42 ให้อาหารเพิ่มขึ้นเป็น 130% ของปริมาณที่ให้จากกลุ่มควบคุม จากนั้นแพะ ทุกกลุ่มถูกผ่าตัดเปิดช่องท้องครั้งแรกในวันที่ 41 เพื่อศึกษาพัฒนาการของฟอลลิเคิล และครั้งที่สอง (หลังจากแพะ แสดงอาการเป็นสัด 3 วัน) เพื่อเจาะดูดฟอลลิเคิลขนาด 2 มม. และเก็บโอโอไซต์ไปประเมินคุณภาพ จากผลการทดลอง พบว่า ปริมาณการกินได้ อัตราการเจริญเติบโต และอัตราการเปลี่ยนอาหารของแพะทั้งสองกลุ่มไม่มีความแตกต่างกัน (P>0.05) ส่วนค่าทางชีวเคมีพบว่า ค่าเฉลี่ยกลูโคส ที่ 4 ชั่วโมงหลังการกินอาหารของกลุ่มที่ให้อาหารแบบขั้นบันได ในวงรอบการเป็นสัดครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นระยะที่มีการเพิ่มการให้อาหารที่ 4 ชั่วโมงมีระดับที่สูงกว่ากลุ่มควบคุม (P<0.05) ระดับ ของกรดไขมันอิสระในซีรั่ม (NEFA) ของแพะที่ให้อาหารแบบขั้นบันได ในระยะวงรอบการเป็นสัดครั้งที่ 1 เมื่อมีการจำกัด อาหารมีค่าไม่แตกต่างจากแพะกลุ่มควบคุม แต่ในวงรอบการเป็นสัดครั้งที่ 2 เมื่อให้อาหารเพิ่มขึ้นเป็น 130% พบว่า กรดไขมันอิสระในซีรั่มของแพะกลุ่มที่ให้อาหารแบบขั้นบันได มีระดับลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม (P<0.05) ระดับ ของฮอร์โมนอินซูลินในแพะกลุ่มที่ให้อาหารแบบขั้นบันได มีระดับที่สูงกว่ากลุ่มควบคุม (P<0.05) ในส่วนของฟอลลิเคิล ทั้งหมดที่นับได้ในกลุ่ม ที่ให้อาหารแบบขั้นบันได มีจำนวนมากกว่ากลุ่มควบคุม (P<0.05) จากการเจาะดูดฟอลลิเคิล และเก็บโอโอไซต์มาประเมินคุณภาพ พบว่าจำนวนของโอโอไซที่มีคุณภาพดีที่ได้จากฟอลลิเคิลขนาดที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1-3, 4-6 และ 27 มม. ในกลุ่มที่ให้อาหารแบบขั้นบันได มีจำนวนมากกว่ากลุ่มควบคุม อย่างมีนัยสำคัญยิ่งทางสถิติ (P <0.01) นอกจากนั้นแล้วค่ดัชนีในการแบ่งเซลล์ (% PCNA Iabeling index) ในเนื้อเยื่อชั้นกรานูโลซาและชั้นทีกาของ รังไข่ในแพะที่ให้อาหารแบบขั้นบันไดสูงกว่าในแพะกลุ่มควบคุม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P<0.05) ดังนั้นการให้อาหาร แบบขั้นบันไดในระยะวงรอบการเป็นส์ดส่งผลดีต่อการพัฒนาการฟอลลิเคิลของแพะพื้นเมืองไทย
บทคัดย่อ (EN): The objective of this study was to determine the effect of stair-step feeding regimen during estrous cycle on follicular development and oocytes quality. Sixteen Thai-native non pregnant goats were used with the average age and body weight of 8 months and 17±0.6 kg, respectively. The does exhibited at least 2 normal estrous cycle and were housed in 1 m2 steel cages. Heat detection was daily recorded using a vasectomized buck. The does were randomly assigned into two groups: Control and Stair-step feeding group. In the control group, does were fed 100% of nutrients requirement for growth in puberty periods. Does consumed Ruzi grass hay, DM = 500 g/head/d and concentrate supplemented at 1% of body weight. Total feed intake was 670 g/head/d, (ME = 1.48 Mcal/kg/d, TP = 55 g/head/d during day 1-42). In the Stair-step feeding group, treatment was divided in two phases: feed restriction and realimentation. In the first phase, does were fed roughage and concentrate 70% of the average consumption of control group during day 1-21 (1st estrous cycle). In the second phase, goats were offered 130% of the average consumption of control group during at day 22-42 (2nd estrous cycle). Does were scheduled to determine follicular growth and number, as well as oocyte quality by surgical laparotomy. The results showed that average total feed intake, average daily gain and feed conversion ratio were not statistically different between stair-step and control group (P>0.05). Serum glucose concentrations at 4 h was during realiment phase were greater than control group (P<0.05). Numbers of total follicles in stair-step group were greater than control group (P<0.05). Moreover, Oocyte quality of the treatment group was better (P<0.01) than that of control group in follicular size of 1-3, 4-6 and ≥7 mm. Proliferation cell nuclear antigen (PCNA) was used to establish cell labeling techniques for investigating cell proliferation. In this study was observe differences among regions of the granulosa and theca cell layer. Difference of follicular size (1-3, 4-6, ≥7 mm) between treatment and control group were compared. The results found that the labeling index in granulosa and theca layer of all follicular size 1-3, 4-6 and ≥7 mm were statistically different between stair-step feeding and control group (P<0.05). These results indicate that stair-step feeding regimen affects fertility improvement in Thai-native does.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
จำนวนหน้า: 10
เอกสารแนบ: https://ag2.kku.ac.th/kaj/PDF.cfm?filename=05-Chainarong1.pdf&id=419&keeptrack=61
คำสำคัญ: แพะพื้นเมืองไทย
คำสำคัญ (EN): Thai-native goats
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ผลของวิธีการให้อาหารแบบขั้นบันไดในระยะวงรอบการเป็นสัดต่อการพัฒนาฟอลลิเคิลและคุณภาพของโอโอไซต์ของแม่แพะพื้นเมืองไทย
ไม่ระบุผู้เผยแพร่
2554
ผลของการปั่นเหวี่ยงผ่านชั้นต่างระดับของสารละลายเพอร์คอลล์ต่อคุณภาพน้ำเชื้อแพะแช่แข็งหลังละลาย อาหารสำคัญเช่นใดกับมนุษยชาติ ผลของการห่อผลที่มีต่อคุณภาพของมะม่วงพันธุ์มหาชนก ความสัมพันธ์ระหว่างกิจกรรมการแบ่งเซลล์ ความเข้มข้นของโปรตีนรวมและปริมาณ IGFBP-4 ในของเหลวภายในฟอลลิเคิลโคในวันที่ 5 ของคลื่นฟอลลิเคิลแรก ผลของระดับกากเนื้อในเมล็ดปาล์มน้ำมันในสูตรอาหารข้นต่อนิเวศวิทยาในกระเพาะรูเมนและสมดุลไนโตรเจนในแพะที่ได้รับหญ้าพลิแคททูลั่มแห้งเป็นอาหารหลัก ศักยภาพในการเลี้ยงแพะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผลของการทดแทนข้าวโพดด้วยกลีเซอรีนดิบในอาหารผสมเสร็จต่อปริมาณการกินได้ การย่อยได้ของโภชนะ กระบวนการหมักในกระเพาะรูเมน และเมแทบอไลท์ในกระแสเลือดของแพะ คุณภาพของเมล็ดพันธุ์ยางพาราและอายุการเก็บรักษาที่ระยะการพัฒนาผลต่างกัน ระยะเวลาการห่อผลต่อสีและคุณภาพบางประการของผลส้มโอ ผลการใช้ยาถ่ายพยาธิเลวามิโซล ไอเวอเมกติน และอัลเบนดาโซลในการกำจัดพยาธิภายในทางเดินอาหารของแพะ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก