สืบค้นงานวิจัย
ผลกระทบจากการขาดแคลนแรงงานภาคการเกษตรที่มีผลต่อความมั่นคงทางด้านอาหารในจังหวัดเชียงใหม่
สายสกุล ฟองมูล - มหาวิทยาลัยแม่โจ้
ชื่อเรื่อง: ผลกระทบจากการขาดแคลนแรงงานภาคการเกษตรที่มีผลต่อความมั่นคงทางด้านอาหารในจังหวัดเชียงใหม่
ชื่อเรื่อง (EN): Effects of shortage of agricultural labor force on food security in Chiang Mai Province
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สายสกุล ฟองมูล
บทคัดย่อ: การศึกษาวิจัยเรื่อง “ผลกระทบจากการขาดแคลนแรงงานภาคการเกษตรที่มีผลต่อความมั่นคงทางด้านอาหารในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่” มีวัตถุประสงค์ในการศึกษา 3 ประการ ได้แก่ 1) เพื่อศึกษาสถานการณ์แรงงานภาคการเกษตรต่อความมั่นคงทางด้านอาหารในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ 2) เพื่อศึกษาผลกระทบจากการขาดแคลนแรงงานภาคการเกษตรต่อความมั่นคงทางด้านอาหารในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และ 3) เพื่อหาแนวทางและข้อเสนอแนะในการเสริมสร้างความมั่นคงทางด้านอาหารในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยทำการศึกษาในเขตพื้นที่ 5 อำเภอได้แก่ อำเภอแม่แจ่ม อำเภอจอมทอง อำเภอฝาง อำเภอเชียงดาว และอำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลประกอบไปด้วย การจัดหาข้อมูลสถิติประชากรแรงงานภาคการเกษตร การทำแบบสอบถาม การสัมภาษณ์เชิงลึก และการสังเกตการณ์ในขณะที่ทำกิจกรรมร่วมกัน ในด้านของการวิเคราะห์ข้อมูลใช้การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณจะทำการวิเคราะห์โดยอาศัยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้วิเคราะห์ทางสถิติ การบรรยายเชิงพรรณนาร่วมกับการเปรียบเทียบอัตราร้อยละ และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ จะทำการวิเคราะห์เนื้อหาในแต่ละประเด็นที่เกี่ยวข้อง ผลการศึกษาสถานการณ์แรงงานภาคการเกษตรต่อความมั่นคงทางด้านอาหารในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ พบว่า ปัจจุบันปัญหาขาดแคลนแรงงานภาคเกษตรในจังหวัดเชียงใหม่มีแนวโน้มวิกฤติมากขึ้น ทำให้ครัวเรือนเกษตรต้องใช้แรงงานผู้สูงอายุมากขึ้น ประกอบกับแรงงานภาคการเกษตรวัยหนุ่มสาวมีการเคลื่อนย้ายเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม จากการศึกษาพบว่า สมาชิกในครัวเรือนเกษตรที่มีอายุมากกว่า 65 ปี มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แรงงานภาคเกษตรมีสัดส่วนลดลง แสดงให้เห็นว่า ประชากรภาคเกษตรมีแนวโน้มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุมากขึ้นซึ่งประชากรกลุ่มนี้จะต้องเป็นกลุ่มที่ภาครัฐต้องให้การดูแลอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพราะนอกจากจะเป็นผู้ผลิตอาหารแล้ว ยังคงเป็นกลุ่มคนที่มีฐานะความเป็นอยู่ด้อยกว่ากลุ่มคนอื่นๆในสังคม ผลจากการเพิ่มขึ้นของประชากรสูงอายุทำให้สัดส่วนผู้สูงอายุที่ยังอยู่ในกำลังแรงงานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากประชากรวัยแรงงานในอนาคตจะมีแนวโน้มลดลงและเกิดปัญหาการขาดแคลนแรงงาน จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้สูงอายุที่ยังมีศักยภาพเข้ามาทำงานทดแทนผู้ที่อยู่ในวัยแรงงาน ดังนั้น ประชากรสูงอายุเหล่านี้นับวันจะมีความสำคัญเพิ่มมากขึ้น และส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของไทยอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพแรงงาน อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ เสถียรภาพด้านการคลังของภาครัฐ และที่สำคัญ ความมั่นคงทางอาหารของไทยในอนาคต จากการศึกษาข้อมูลการปรับตัวของแรงงานภาคการเกษตรต่อผลกระทบจากการขาดแคลนแรงงานภาคการเกษตรต่อความมั่นคงทางด้านอาหาร พบว่า ในการจ้างแรงงานภาคการเกษตรนั้นสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ 1) แรงงานในพื้นที่ อายุระหว่าง 35 – 60 ปี มีทั้งที่เป็นเจ้าของที่ดินการเกษตร และผู้ที่เช่าพื้นที่เพื่อทำการเกษตร 2) แรงงานนอกพื้นที่ หรือแรงงานต่างด้าว ส่วนใหญ่มีเชื้อชาติไทใหญ่ ปกาเกอญอ มีอายุเฉลี่ยตั้งแต่ 18 – 50 ปี โดยแรงงานต่างด้าวสามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่มีบัตรประจำตัวสีชมพู (บัตรอนุญาตให้เข้าอยู่และทำงานในพื้นที่ประเทศไทย) กลุ่มนี้เป็นแรงงานหลักในพื้นที่ บางรายเข้ามาเป็นเป็นครอบครัว มีที่พักถาวร โดยเช่าห้องพักบริเวณใกล้ที่ทำงาน หรืออาศัยอยู่กับนายจ้าง และกลุ่มที่ไม่มีบัตรประจำตัว หรือหลักฐานการเข้ามาทำงานในประเทศ กลุ่มนี้ไม่มีที่อยู่อาศัยถาวร จะเข้ามารับจ้างในพื้นที่ชั่วคราวโดยอาศัยพักชั่วคราวอยู่กับญาติพี่น้องที่เข้าทำงานในประเทศ หรืออาศัยชั่วคราวในที่ที่นายจ้างจัดหาให้ ดังนั้นแนวทางในการเสริมสร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร คือ ส่วนใหญ่มีการทำการ เกษตรแบบพึ่งพาธรรมชาติ และมีปัจจัยเสริมคืออยู่ใกล้แหล่งน้ำ จึงทำการเพาะปลูกได้ดี แต่ทั้งนี้ แรงงานช่วยทำการเกษตร ยังคงต้องจ้างแรงงานจากภายนอกซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าว และแนวทางการปรับตัวของเกษตรกรต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ได้แก่ 1) การเช่าพื้นที่เพาะปลูกเพื่อทำการผลิตพืชรายได้เพิ่มขึ้น เกษตรกรที่สามารถเข้าถึงการเช่าที่ดิน ได้เพิ่มพื้นที่ปลูกพืชรายได้พร้อมทั้งปรับเปลี่ยนการผลิตพืชหลัก 2) การผสมผสานพืชไร่-ปศุสัตว์ เป็นระบบที่เกษตรกรได้ร่วมกันแสวงหาทางเลือกใหม่ในการสร้างรายได้ ซึ่งเป็นระบบการผลิตที่เกษตรกรมีความรู้และทักษะเป็นอย่างดี และพึ่งพิงกับปัจจัยภายนอกและเทคโนโลยีน้อยที่สุด มีความเสี่ยงน้อยและมีโอกาสสำเร็จสูง และเน้นการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด
บทคัดย่อ (EN): This study entitled, “Effects of shortage of agricultural labor force on food security in Chiang Mai Province,” had the following objectives: 1) to study the situation of agricultural labor force toward food security in Chiang Mai province, 2) to study the effects of shortage of agricultural labor toward food security in Chiang Mai province, and 3) to seek the guidelines and recommendations in strengthening the food security in Chiang Mai province. Five districts in Chiang Mai studied were as follows: 1) Maechaem, 2) Chomthong, 3) Fang, 4) Chiangdao, and 5) MaeAi. From the sample population of agricultural labor force statistical data collection were done by using a questionnaire, conducting in-depth interview and observing the participation of the agricultural laborers in the activities together. Data were analyzed quantitatively using a computer program SPSS/PC. Descriptive statistics and comparison of percentages and data were analyzed qualitatively by content analysis of each issue concerned. Results of the study on the situation of the agricultural labor toward food security in Chiang Mai province showed that it had the tendency of increasing foreign laborers mostly from Myanmar. The farmers necessitated hiring laborers during the planting and harvesting seasons and the problem of shortage of agricultural laborers had the tendency to be more critical or serious in the future. Families doing farming needed to hire more elderly laborers as well. Young agricultural labor moving to the industrial sector and proportionately members in the agricultural families aged 65 years and above had the tendency to increase continuously. Proportion of decreasing agricultural labor showed that the agricultural labor had the increasing tendency to be elderly people who were supposed to be taken care closely and continually by the government. Although aside from being food producer the elderly group was still inferior to other groups in the society. The effect of increasing elderly people made the proportion of elderly people still had the tendency to increase as well. In the future the group of working age has the tendency to decrease and cause problem of shortage of labor causing the elderly people acquiring the potential as substituting the working age people. Therefore, these elderly people as days go by will be more relevant and affect inevitably the economy and society of the country and the introduction of the elderly people to the society in Thailand can affect the labor efficiency, rate of economic growth, financial stability of the government, and significantly the food security of Thailand in the future. On the adjustment of agricultural labor toward the effect due to shortage of agricultural labor and on food security showed that hiring agricultural laborers were divided into two main types. These are as follows, 1) local labor aged 35 to 60 years old who were farm land owners and land lessees, and 2) offsite workers or foreign laborers where the condition of the area along the Thai border to Myanmar allowed the flow of many foreign laborers mostly the races of Tai Yai and Pakakeuyo aged 18-50 years old. These foreign laborers were be divided into two groups as follows: 1) group with pink identification card (card allowing to live and work in Thailand) who were the main laborers in the area and some came as families with permanent accommodations by renting rooms near to the place of work or stay with the employers, and 2) group without identification card or proof who came to work in Thailand. These laborers did not have permanent accommodations, hired on a temporary basis and were relatives of those with pink ID cards. After finishing the work they went go back to Myanmar or stayed temporarily with their relatives with pink ID cards or the employer’s accommodations. Thus, the way in strengthening food security in majority is doing farming dependent on nature and additional factors as close proximity to water source for planting. But laborers helping the farming still depend on hiring foreign laborers. Also, the ways of adjusting of farmers to changes are as follows: 1) renting areas for planting crops are increasing along with change of main crops planted, 2) integrated farming or crops and livestock farming which is an alternative farming to increase farmer’s income or a system of farming by farmers with knowledge and good skills that depend slightly on external factors and technology, with less risk and high chance of success, as well as emphasizing on using limited resources in the farm. Keywords: Agricultural labor force, Food security
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยแม่โจ้
คำสำคัญ: เชียงใหม่
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ผลกระทบจากการขาดแคลนแรงงานภาคการเกษตรที่มีผลต่อความมั่นคงทางด้านอาหารในจังหวัดเชียงใหม่
มหาวิทยาลัยแม่โจ้
29 กันยายน 2559
การบริหารจัดการแรงงานภาคการเกษตรตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงในชุมชน จังหวัดเชียงใหม่ การวิจัยและพัฒนาการผลิตข้าวที่สูงเพื่อความมั่นคงด้านอาหาร การสร้างความมั่นคงด้านอาหาร และการจัดการพื้นที่ทางการเกษตรอย่างสมดุลยั่งยืน การติดตามประเมินผลโครงการเกษตรประณีตเพื่อความมั่นคงด้านอาหาร ในเขตปฏิรูปที่ดินจังหวัดน่าน ภายใต้โครงการเทเลฟู้ด อาหารบำรุงสมอง โครงการวิจัยเพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหารและเพิ่มรายได้ในครัวเรือนในพื้นที่ขยายผลโครงการหลวงแม่สอง โครงการวิจัยเพื่อพัฒนาความมั่นคงด้านอาหารและระบบนิเวศในพื้นที่ขยายผลโครงการหลวงขุนตื่นน้อย อนาคตของอาหารโลกอยู่ในมือของคุณ การผลิต Inulin และ Oligofructose จากกล้วยเพื่อใช้เป็นสารเสริมอาหาร กระบวนการจัดตั้งกลุ่มเกษตรอินทรีย์ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของเกษตรกรในอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่  และการบูรณาการสร้างและพัฒนาระบบตลาดเกษตรอินทรีย์
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก