สืบค้นงานวิจัย
เทคโนโลยีการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ร่วมกับปุ๋ยเคมีสำหรับการผลิตมันสำปะหลังหลังการทำนาในพื้นที่นาดอน
ศิวพร ศีลเตโช - กรมพัฒนาที่ดิน
ชื่อเรื่อง: เทคโนโลยีการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ร่วมกับปุ๋ยเคมีสำหรับการผลิตมันสำปะหลังหลังการทำนาในพื้นที่นาดอน
ชื่อเรื่อง (EN): Technology of Applying Organic Fertilizer and chemical Fertilizer on Cassava Production after rice Harvesting in Upland Paddy Field
บทคัดย่อ: การศึกษาเรื่องเทคโนโลยีการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ร่วมกับปุ๋ยเคมีสำหรับการผลิตมันสำปะหลังหลังการทำนาในพื้นที่นาดอน ดำเนินการทดลองในพื้นที่แปลงของเกษตรกร บ้านกุดเชือก ตำบลบ้านลาน อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น โดยเริ่มดำเนินการในเดือนตุลาคม 2558 ถึงเดือนมิถุนายน 2559 วางแผนการทดลองแบบ Factorial in RCBD จำนวน 3 ซ้ำ ประกอบด้วย 2 ปัจจัย ได้แก่ ปัจจัย A คือ การชำ/ไม่ชำท่อนมันสำปะหลัง มี 3 ปัจจัยย่อย ได้แก่ a1: การไม่ชำท่อนมันสำปะหลัง a2: การชำท่อนมันสำปะหลังพร้อมวันปลูก a3: การชำท่อนมันสำปะหลังล่วงหน้า 1 เดือน ปัจจัย B คือ วิธีการจัดการปุ๋ย มี 4 ปัจจัยย่อย ได้แก่ b1: ใส่ปุ๋ยเคมีอัตรา 16-8-16 B2: ใส่ปุ๋ยเคมีตามค่าวิเคราะห์ดิน b3: ใส่ปุ๋ยเคมีตามค่าวิเคราะห์ดินร่วมกับปุ๋ยหมักมูลไก่ผสมแกลบ อัตรา 500 กก./ไร่ b4: ใส่ปุ๋ยเคมีตามค่าวิเคราะห์ดินร่วมกับปุ๋ยหมักมูลไก่ผสมแกลบ อัตรา 1,000 กก./ไร่ การทดลองในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อหาเทคโนโลยีที่เหมาะสมในการปลูกมันสำปะหลังหลังการทำนา และเพื่อศึกษาวิธีการจัดการดิน ปุ๋ย และอินทรียวัตถุที่เหมาะสมในการเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลัง ที่ปลูกหลังการทำนาในพื้นที่นาดอน ผลการทดลอง พบว่า การชำท่อนมันสำปะหลังและไม่ชำท่อนมันสำปะหลัง ทำให้การเจริญเติบโตและผลผลิตของมันสำปะหลัง ไม่แตกต่างกันทางสถิติ ดังนั้น การปลูกมันสำปะหลังโดยวิธีปกติ คือไม่ชำท่อนมันสำปะหลัง จะเป็นการปฏิบัติที่สะดวก ลดค่าใช้จ่ายเรื่องแรงงาน ลดต้นทุนการผลิต หากเมื่อพิจารณาในด้านวิธีการจัดการปุ๋ย พบว่า การใช้ปุ๋ยเคมีตามค่าวิเคราะห์ดินร่วมกับการใส่ปุ๋ยหมักมูลไก่ผสมแกลบ อัตรา 500 กก./ไร่ ส่งผลให้ผลผลิตของมันสำปะหลังสูงที่สุด และวิธีการใส่ปุ๋ยเคมีตามค่าวิเคราะห์ดิน ให้ผลผลิตของมันสำปะหลังต่ำที่สุด อย่างไรก็ตาม ทุกตำรับการทดลองไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า ในการปลูกมันสำปะหลังหลังฤดูการทำนา ควรปลูกด้วยวิธีปกติ คือไม่จำเป็นต้องชำท่อนมันสำปะหลังล่วงหน้า และควรมีการใส่ปุ๋ยเคมีร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์ด้วย เพื่อช่วยในการปรับปรุงบำรุงดินและเพิ่มอินทรียวัตถุให้กับดิน ซึ่งจะส่งผลให้ได้ผลผลิตมันสำปะหลังสูงขึ้น
บทคัดย่อ (EN): The study on Technology of applying organic fertilizer and chemical fertilizer on cassava production after rice harvesting in upland paddy field was conducted in the farmer’s field at Ban Kudchuak, Banlan sub-district, Banphai district, Khon Kaen province. The experiment was started in October 2015 until June 2016. The factorial in randomized complete block design with 3 replications was used in this experiment. The experiment consisted of 2 factors i.e. Factor A is root cutting/ non root cutting which consisted of 3 treatments i.e. a1) non root cutting, a2) root cutting at planting date, a3) root cutting before planting date 1 month and translocate. Factor B is fertilizer management which consisted of 4 treatments i.e. b1) applying chemical fertilizer at the rate 16-8-16, b2) applying chemical fertilizer at the rate of soil analysis, b3) applying chemical fertilizer at the rate of soil analysis + chicken manure at the rate 500 kg/rai and b4) applying chemical fertilizer at the rate of soil analysis + chicken manure at the rate 1,000 kg/rai. The objectives of this experiment were i) to investigate the optimal technology for cassava production after rice, and ii) to investigate the soil/fertilizer/organic matter management on cassava production after rice. The results shown that a root cutting and non root cutting were not significantly difference in growth and cassava yield. We would like to suggest that non root cutting was the best method to cassava planting due to it was easier and reduce the cost. Anyway, if we considered the fertilizer management we found that applying chemical fertilizer at the rate of soil analysis + chicken manure at the rate 500 kg/rai gave the highest cassava’s yield. Applying chemical fertilizer at the rate of soil analysis gave the lowest cassava’s yield. However, every treatments were not significantly difference on cassava’s yield.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมพัฒนาที่ดิน
คำสำคัญ: ดินทรายปนร่วน
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
เทคโนโลยีการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ร่วมกับปุ๋ยเคมีสำหรับการผลิตมันสำปะหลังหลังการทำนาในพื้นที่นาดอน
กรมพัฒนาที่ดิน
30 กันยายน 2559
การสร้างต้นแบบการใช้ปุ๋ยอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด และมีความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติรวมทั้งความพึงพอใจของเกษตรกรในการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทดลองในพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดที่มีความเหมาะสมชั้น3 (S การสร้างต้นแบบการใช้ปุ๋ยอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด และมีความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติรวมทั้งความพึงพอใจของเกษตรกรในการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทดลองในพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดที่มีความเหมาะสมชั้น 3 ( การสร้างต้นแบบการใช้ปุ๋ยอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด และมีความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติรวมทั้งความพึงพอใจของเกษตรกรในการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทดลองในพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดที่มีความเหมาะสมชั้น 2 ( การสร้างต้นแบบการใช้ปุ๋ยอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด และมีความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติรวมทั้งความพึงพอใจของเกษตรกรในการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทดลองในพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดที่มีความเหมาะสมชั้น1 (S ผลของการใช้ปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพร่วมกับปุ๋ยเคมี ต่อผลผลิตมันสำปะหลังพันธุ์ระยอง 9 ในชุดดินมาบบอน จังหวัดระยอง ปัจจัยที่มีผลในการตัดสินใจของเกษตรกรที่มีต่อการใช้ปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยเคมี การจัดการธาตุอาหารเฉพาะพื้นที่เพื่อการผลิตมันสำปะหลังอย่างมีประสิทธิภาพ การศึกษาผลของการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ร่วมกับปุ๋ยเคมีต่อการเจริญเติบโตของยางพารา (ช่วงอายุก่อนเปิดกรีด) การไถทำลายชั้นดานร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์ที่มีผลต่อการเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังอย่างยั่งยืน ปัจจัยที่มีผลในการตัดสินใจของเกษตรกรที่มีต่อการใช้ปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยเคมี
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก