สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาการผลิตไหมของเกษตรกรในจังหวัดมหาสารคาม: กรณีศึกษาโรงสาวไหมชุมชนบ้านโนนงาม
สุวิทย์ เศษโถ - กรมส่งเสริมการเกษตร
ชื่อเรื่อง: การศึกษาการผลิตไหมของเกษตรกรในจังหวัดมหาสารคาม: กรณีศึกษาโรงสาวไหมชุมชนบ้านโนนงาม
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สุวิทย์ เศษโถ
บทคัดย่อ: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษา 1) สภาพพื้นฐานทางด้านสังคมและเศรษฐกิจบางประการของเกษตรกร 2) สภาพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมของเกษตรกร 3) สภาพการดำเนินงานของโรงสาวไหมชุมชนและ 4) ปัญหาและอุปสรรคและข้อเสนอแนะในการดำเนินงานของโรงสาวไหมชุมชน กลุ่มตัวอย่างคือเกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมเพื่อจำหน่ายแก่โรงสาวไหมชุมชน จำนวน 150 ราย เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสัมภาษณ์ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าต่ำสุด ค่าสูงสุดและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษา พบว่า เกษตรกรที่สัมภาษณ์ร้อยละ 96 เป็นหญิง อายุเฉลี่ย 48.8 ปี จบการศึกษาภาคบังคับ มีจำนวนสมาชิกในครัวเรือนเฉลี่ย 4.56 คน ใช้แรงงานทางการเกษตรเฉลี่ย 2.77 คน ทั้งหมดเป็นสมาชิกกลุ่มผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมของหมู่บ้านและร้อยละ 93.3 เป็นสมาชิกของกองทุนต่างๆ ในหมู่บ้าน มีอาชีพหลักคือการทำนา มีพื้นที่ถือครองทางการเกษตรเฉลี่ย 21.88 ไร่ มีรายได้จากภาคการเกษตรเฉลี่ย 37,176 บาท มีรายได้นอกภาคการเกษตรเฉลี่ย 27,817.33 บาท มีรายจ่ายเฉลี่ย 36,030.67 บาทร้อยละ 97.3 มีหนี้สิน โดยส่วนใหญ่เป็นหนี้ ธ.ก.ส. และกองทุนต่างๆในหมู่บ้านมีประสบการณ์ในการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมเฉลี่ย 16.11 ปี มีพื้นที่ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมเฉลี่ย 2.7 ไร่ ร้อยละ 89.4 มีห้องเลี้ยงไหมจำนวน 1 ห้องร้อยละ 68 มีห้องเลี้ยงไหมเอกเทศแบบถาวร ปลูกหม่อนพันธุ์ส่งเสริมร้อยละ 53.4 มีการใส่ปุ่ยแปลงหม่อนปีละครั้ง โดยส่วนใหญ่ใส่ปุ๋ยเคมีเพียงอย่างเดียว ซึ่งจะไใส่ปุ๋ยเคมีในอัตราเฉลี่ย 3.73 กิโลกรัมต่อไร่ ร้อยละ 96 มีการตัดแต่งกิ่งหม่อน ซึ่งส่วนใหญ่คือร้อยละ 92 มีปริมาณผลผลิตใบหม่อนเพียงพอต่อการเลี้ยงไหมร้อยละ 57.3 เลี้ยงไหมพันธุ์ส่งเสริมเพียงอย่างเดียวและร้อยละ 41.4 เลี้ยงทั้งไหมพันธู์ส่งเสริมและไหมพันธุ์พื้นเมืองควบคู่กันไป ร้อยละ 50.7 มีการอบห้องเลี้ยงไหมก่อนและหลังการเลี้ยงไหม และใชสารโรยตัวไหมทุกรุ่น ใช้แรงงานในการเลี้ยงไหม 1-2 คน ร้อยละ 68 มีสมาชิกในครัวเรือนเคยผ่านการฝึกอบรมเรื่องการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม หลักสูตร 30 วัน มีการเลี้ยงไหมเฉลี่ย 5.96 รุ่นต่อปี ร้อยละ 85.3 เลี้ยงไหมรุ่นละ 1 แผ่น เสียค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงไหมต่อแผ่นเฉลี่ย 196.43 บาท ผลผลิตรังไหมเฉลี่ย 15.81 กิโลกรัมต่อแผ่น ร้อยละ 53.3 ขายรังไหมทั้งหมดมีรายได้จากการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมเฉลี่ย 7,672 บาท ส่วนใหญ่ได้รับความรู้เรื่องการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมจากเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร และร้อยละ 65.3 ได้รับการเยี่ยมหรือพบปะเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรปีละ 1-3 ครั้ง การดำเนินงานของกลุ่มโรงสาวไหมชุมชน พบว่าเกษตรกรร้อยละ 78.7 เป็นสมาชิกกลุ่มมาแล้ว 4 ปี มีหุ้นอยู่กับโรงสาวไหมชุมชนเฉลี่ย 2.48 หุ้น ร้อยละ 96 ได้รับทราบราคารับซื้อรังไหมแต่ละรุ่น ร้อยละ 80 ตอบว่ามีการคัดคุณภาพรังไหมทุกครั้งที่ขายรังไหม ร้อยละ 88 ได้รับเงินสดจากการขายรังไหมทุกรุ่น มีรายได้จากการขายรังไหมเฉลี่ย 6,372 บาท ร้อยละ 60 เคยเข้าร่วมประชุมกลุ่มโรงสาวไหมชุมชน 3 ครั้งต่อปีเกษตรกรทุกคนเคยใช้บริการปัจจัยการผลิตที่กลุ่มโรงสาวไหมชุมชนจัดหามาบริการ มีบริษัทผู้รับซื้อเป็นผู้กำหนดราคาเส้นไหม และร้อยละ 97.3 ตอบว่าการดำเนินงานของโรงสาวไหมชุมชนทำให้คุณภาพชีวิตของครอบครัวเกษตรกรเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ปัญหาอุปสรรคที่เกษตรกรพบมากที่สุดคือต้นหม่อนเป็นโรคโคนเน่า ไหมเป็นโรคเต้อ จำหน่ายผลผลิตได้ในราคาต่ำและไม่มีรังไหมป้อนโรงงานอย่างสม่ำเสมอ โดยเกษตรกรมีข้อเสนอแนะคือต้องการให้ราชการศึกษาแนวทางแก้ไขปัญหาต้นหม่อนเป็นโรคโคนเน่า ปรับปรุงพันธุ์ไหมให้เลี้ยงง่ายผลผลิตสูง แก้ไขปัญหาไหมลักลอบและหาตลาดรองรับผลผลิตเส้นไหมที่โรงงานสาวไหมชุมชนผลิตได้ และผู้ศึกษามีข้อเสนอแนะดังนี้ 1) รัฐควรจัดหาพันธุ์หม่อนที่ต้านทานโรคโคนเน่าสนับสนุนแก่เกษตรกร 2) ศึกษาเทคโนโลยีที่เหมาะสมในการเลี้ยงไหมพันธุ์ไทยลูกผสม 3) ควรมีการฝึกอบรมทบทวนเรื่องการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมแก่เกษตรกร 4) ควรมีการจัดสัมมนาผู้เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางพัฒนาอาชีพการเลี้ยงไหม และ 5) ควรมีการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาความรู้แก่เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมส่งเสริมการเกษตร
คำสำคัญ: ชุมชนบ้านโนนงาม
เจ้าของลิขสิทธิ์: กรมส่งเสริมการเกษตร
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

สุวิทย์ เศษโถ. "การศึกษาการผลิตไหมของเกษตรกรในจังหวัดมหาสารคาม: กรณีศึกษาโรงสาวไหมชุมชนบ้านโนนงาม". กรมส่งเสริมการเกษตร. 2546

สุวิทย์ เศษโถ. "การศึกษาการผลิตไหมของเกษตรกรในจังหวัดมหาสารคาม: กรณีศึกษาโรงสาวไหมชุมชนบ้านโนนงาม". กรมส่งเสริมการเกษตร. 2546. Print.



TARR Wordcloud:
การศึกษาการผลิตไหมของเกษตรกรในจังหวัดมหาสารคาม: กรณีศึกษาโรงสาวไหมชุมชนบ้านโนนงาม
สุวิทย์ เศษโถ
กรมส่งเสริมการเกษตร
2546
การติดตามตรวจสอบสารกลุ่มโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอนในอากาศริมถนนโดยใช้ใบไม้ในเขตจังหวัดนนทบุรี การศึกษากลุ่มเกษตรกรต้นแบบการผลิตไหมไทยระบบเครือข่ายโรงสาวไหมชุมชน การศึกษาคุณภาพผลผลิตเส้นไหมโรงสาวไหมชุมชน การพัฒนา เทคโนโลยีสะอาดและการใช้ประโยชน์เศษเหลือจากการผลิตไหม ในการผลิตโปรตีนไหม และผลิตภัณฑ์ สู่อุตสาหกรรมชุมชน สถานภาพการผลิตและตลาดไหม ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สภาพการผลิตผักชีฝรั่งของเกษตรกร : กรณีศึกษาอำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม สภาพการเลี้ยงไหมของเกษตรกร : กรณีศึกษาบ้านหลุ่งประดู่ ตำบลหลุ่งประดู่ อำเภอห้วยแถลง จังหวัดนครราชสีมา การผลิต Inulin และ Oligofructose จากกล้วยเพื่อใช้เป็นสารเสริมอาหาร การศึกษารูปแบบการผลิตและการบริหารจัดการโรงสาวไหมชุมชน สภาพการผลิตข้าวหอมมะลิของเกษตรกรตำบลเม็กดำ อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair