สืบค้นงานวิจัย
วิทยาต่อมไร้ท่อเชิงอนุรักษ์นกกระเรียนในนิเวศกรงเลี้ยง
ทรงกลด ภู่ทอง - มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ชื่อเรื่อง: วิทยาต่อมไร้ท่อเชิงอนุรักษ์นกกระเรียนในนิเวศกรงเลี้ยง
ชื่อเรื่อง (EN): Conservative Endocrinology of Sarus Crane (Grus antigone sharpii) in Captive Ecology.
บทคัดย่อ: การศึกษาวิจัยข้อมูลพื้นฐานด้านพฤติกรรมและวิทยาต่อมไร้ท่อรอบปีของนกกระเรียนไทยจำเป็นอย่างยิ่งต่อการเพาะเลี้ยงนกกระเรียนไทยในกรงเลี้ยงก่อนปล่อยสู่ธรรมชาติเพื่อการอนุรักษ์ซึ่งมีการศึกษาวิจัยกันน้อยมากในประเทศไทย การวิจัยครั้งนี้จึงมุ่งเน้นศึกษาพฤติกรรมต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพฤติกรรมการสืบพันธุ์ และตรวจหาระดับเทสทอสเทอโรนและเอสตราไดออลรอบปีของนกกระเรียนไทยเพศผู้และเพศเมียในสภาพกรงเลี้ยงของสถานีเพาะเลี้ยงนกน้ำบางพระ จังหวัดชลบุรี จากนกกระเรียนไทยเพศผู้ 5 ตัว อายุ 3 ปี และเพศเมีย 5 ตัวอายุ 3 ปีซึ่งถูกเลี้ยงในสภาพกรงเลี้ยงที่ติดกันเพื่อการจับคู่ผสมพันธุ์ เริ่มทำการวิจัยตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2550 ถึง เดือนกันยายน พ.ศ. 2551 โดยการเฝ้าสังเกตพฤติกรรมทั่วไปและพฤติกรรมเกี้ยวพาราสีในช่วงเวลา 6:00-18:00 น. 3-5 ครั้งต่อสัปดาห์ในแต่ละเดือน และเก็บตัวอย่างมูลสดแทนการเจาะเลือดเพื่อหลีกเลี่ยงสภาวะเครียดอันส่งผลกระทบต่อการสืบพันธุ์เพื่อวิเคราะห์ฮอร์โมนเพศรอบปี จากการวิจัยพบว่าค่ามัธยฐานของระดับฮอร์โมนเทสทอสเทอโรนของนกกระเรียนไทยเพศผู้และเพศเมียสูงเดือนสิงหาคม ส่วนเอสตราไดออลของนกกระเรียนไทยเพศผู้ และของเพศเมียสูงเดือนกรกฎาคม ส่วนพฤติกรรมเกี้ยวพาราสีพบเห็นเด่นชัดเดือนกรกฎาคม คาดว่าฤดูกาลผสมพันธุ์ของนกกระเรียนไทยในกรงเลี้ยงประมาณเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมของรอบปี นกกระเรียนไทยในกรงเลี้ยงแสดงพฤติกรรมเกี้ยวพาราสีไม่บ่อยครั้งเหมือนกับพฤติกรรมกิจวัตรส่วนตัวทั่วๆ ไปได้แก่ กินอาหาร หากินจิกงับค้นหาอาหาร กินน้ำ ไซ้ขน ยืดปีกยืดตัว เกาหัวเกาคอ สะบัดขน กระพือปีก กระโดด ระวังภัย และร้องเตือนภัยซึ่งพบเห็นเป็นปกติของรอบปี การศึกษาวิจัยครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่านกกระเรียนมีแนวโน้มสูญพันธุ์ได้ง่าย จึงควรตระหนักอย่างยิ่งต่อการอนุรักษ์นกกระเรียนไทยในกรงเลี้ยงซึ่งสูญพันธุ์ไปแล้วจากป่าธรรมชาติของประเทศไทยการศึกษาวิจัยข้อมูลพื้นฐานด้านพฤติกรรมและวิทยาต่อมไร้ท่อรอบปีของนกกระเรียนไทยจำเป็นอย่างยิ่งต่อการเพาะเลี้ยงนกกระเรียนไทยในกรงเลี้ยงก่อนปล่อยสู่ธรรมชาติเพื่อการอนุรักษ์ซึ่งมีการศึกษาวิจัยกันน้อยมากในประเทศไทย การวิจัยครั้งนี้จึงมุ่งเน้นศึกษาพฤติกรรมต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพฤติกรรมการสืบพันธุ์ และตรวจหาระดับเทสทอสเทอโรนและเอสตราไดออลรอบปีของนกกระเรียนไทยเพศผู้และเพศเมียในสภาพกรงเลี้ยงของสถานีเพาะเลี้ยงนกน้ำบางพระ จังหวัดชลบุรี จากนกกระเรียนไทยเพศผู้ 5 ตัว อายุ 3 ปี และเพศเมีย 5 ตัวอายุ 3 ปีซึ่งถูกเลี้ยงในสภาพกรงเลี้ยงที่ติดกันเพื่อการจับคู่ผสมพันธุ์ เริ่มทำการวิจัยตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2550 ถึง เดือนกันยายน พ.ศ. 2551 โดยการเฝ้าสังเกตพฤติกรรมทั่วไปและพฤติกรรมเกี้ยวพาราสีในช่วงเวลา 6:00-18:00 น. 3-5 ครั้งต่อสัปดาห์ในแต่ละเดือน และเก็บตัวอย่างมูลสดแทนการเจาะเลือดเพื่อหลีกเลี่ยงสภาวะเครียดอันส่งผลกระทบต่อการสืบพันธุ์เพื่อวิเคราะห์ฮอร์โมนเพศรอบปี จากการวิจัยพบว่าค่ามัธยฐานของระดับฮอร์โมนเทสทอสเทอโรนของนกกระเรียนไทยเพศผู้และเพศเมียสูงเดือนสิงหาคม ส่วนเอสตราไดออลของนกกระเรียนไทยเพศผู้ และของเพศเมียสูงเดือนกรกฎาคม ส่วนพฤติกรรมเกี้ยวพาราสีพบเห็นเด่นชัดเดือนกรกฎาคม คาดว่าฤดูกาลผสมพันธุ์ของนกกระเรียนไทยในกรงเลี้ยงประมาณเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมของรอบปี นกกระเรียนไทยในกรงเลี้ยงแสดงพฤติกรรมเกี้ยวพาราสีไม่บ่อยครั้งเหมือนกับพฤติกรรมกิจวัตรส่วนตัวทั่วๆ ไปได้แก่ กินอาหาร หากินจิกงับค้นหาอาหาร กินน้ำ ไซ้ขน ยืดปีกยืดตัว เกาหัวเกาคอ สะบัดขน กระพือปีก กระโดด ระวังภัย และร้องเตือนภัยซึ่งพบเห็นเป็นปกติของรอบปี การศึกษาวิจัยครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่านกกระเรียนมีแนวโน้มสูญพันธุ์ได้ง่าย จึงควรตระหนักอย่างยิ่งต่อการอนุรักษ์นกกระเรียนไทยในกรงเลี้ยงซึ่งสูญพันธุ์ไปแล้วจากป่าธรรมชาติของประเทศไทย
บทคัดย่อ (EN): Monitoring annual behaviors, especially reproductive behavior in concomitant with annual reproductive endocrinology is essential tools to propagation Sarus Crane raised in captivity prior to release into their natural habitats. This research, therefore, focused on annual behavioral observation and sex hormones, testosterone and estradiol, determination in both 5 males aged 3 year old and 5 females aged 3 year old commencing from October 2007 to September 2008. Monthly behaviors were observed during 0600 h - 1800 h, 3-5 days a week and faeces were monthly collected instead of blood puncture to avoid invasive method. It was found that both male and female testosterone levels were peaked in August while as both male and female estradiol levels were surged in July of the year. Both male and females annually expressed egocentric behavior including feeding, browsing, drinking, preening, resting, jumping, and alarm calls. Courtship among eastern Sarus Crane of both genders was obviously displayed only in July not like egocentric behaviors which was commonly found around a year. This study suggests that courtship display expressed not often of a year and sex hormones drives such behavior was peaked at that times. It could be concluded that seasonal reproduction of eastern Sarus Crane occurred around July and August of the year. From observation in this study, it reflects that ,consequently, Thai Sarus Crane tend to be easily extinct in the future should any conservative program not be continuously performed. Monitoring annual behaviors, especially reproductive behavior in concomitant with annual reproductive endocrinology is essential tools to propagation Sarus Crane raised in captivity prior to release into their natural habitats. This research, therefore, focused on annual behavioral observation and sex hormones, testosterone and estradiol, determination in both 5 males aged 3 year old and 5 females aged 3 year old commencing from October 2007 to September 2008. Monthly behaviors were observed during 0600 h - 1800 h, 3-5 days a week and faeces were monthly collected instead of blood puncture to avoid invasive method. It was found that both male and female testosterone levels were peaked in August while as both male and female estradiol levels were surged in July of the year. Both male and females annually expressed egocentric behavior including feeding, browsing, drinking, preening, resting, jumping, and alarm calls. Courtship among eastern Sarus Crane of both genders was obviously displayed only in July not like egocentric behaviors which was commonly found around a year. This study suggests that courtship display expressed not often of a year and sex hormones drives such behavior was peaked at that times. It could be concluded that seasonal reproduction of eastern Sarus Crane occurred around July and August of the year. From observation in this study, it reflects that ,consequently, Thai Sarus Crane tend to be easily extinct in the future should any conservative program not be continuously performed.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
คำสำคัญ: เทสท
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
วิทยาต่อมไร้ท่อเชิงอนุรักษ์นกกระเรียนในนิเวศกรงเลี้ยง
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
30 กันยายน 2551
การพัฒนาการเพาะเลี้ยงม้าน้ำเพื่อการอนุรักษ์ การเพิ่มศักยภาพการผลิตปลาดุกลำพันเพื่อการอนุรักษ์และการเพาะเลี้ยง เชิงพาณิชย์ การเพาะเลี้ยงกล้วยไม้ป่าเพื่อการอนุรักษ์พันธุกรรมอย่างยั่งยืน การพัฒนาเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงกุ้งทะเลสวยงาม (กุ้งการ์ตูน, Hymenocera picta) เพื่อการอนุรักษ์และการผลิตเชิงพาณิชย์ รอบปีของฮอร์โมนเพศและพฤติกรรมการสืบพันธุ์ของนกตะกรุมในกรงเลี้ยงเพื่อการอนุรักษ์ การเชื่อมโยงความหลากหลายของแหล่งทรัพยากรท้องถิ่นตามเส้นทางอาเซียน นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว: กรณีการอนุรักษ์ป่าชุมชนและการจัดการการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ โครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงกล้วยไม้ป่าเพื่อการอนุรักษ์ที่ยั่งยืน การศึกษาขนาดตัว ค่าเม็ดเลือดแดงอัดแน่น และลักษณะรูปร่างเม็ดเลือด ของกระจงควาย (Tragulus napu) ที่ทำ การเพาะเลี้ยงในสภาพกรงเลี้ยง การสำรวจและอนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม่ป่าในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชฯ การสำรวจและอนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้ป่าในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชฯ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก