สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาสมบัติของน้ำมันเมล็ดมะละกอเพื่อพัฒนาเป็นน้ำมันบริโภค
Piyawadee Sammarphet - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: การศึกษาสมบัติของน้ำมันเมล็ดมะละกอเพื่อพัฒนาเป็นน้ำมันบริโภค
ชื่อเรื่อง (EN): Investigation of the papaya seed oil properties for development into edible oil
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Piyawadee Sammarphet
บทคัดย่อ: น้ำมันพืชเป็นน้ำมันที่มีคุณค่าทางโภชนาการเหมาะแก่การบริโภค พบว่าในเมล็ดมะละกอเป็น อีกแหล่งวัตถุดิบหนึ่งที่มีน้ำมันเป็นองค์ประกอบสูง ดังนั้นในการวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา สมบัติของน้ำมันเมล็ดมะละกอเพื่อการพัฒนาเป็นน้ำมันสำหรับบริโภค โดยศึกษาจากตัวอย่างเมล็ด มะละกอสายพันธุ์ต่างๆ จำนวน 5 สายพันธุ์ทั้งสุกและดิบ ได้แก่ พันธุ์แขกดำ, แขกนวล, แก้มแหม่ม, ฮาวาย และ ฮอลแลนด์ จากการศึกษาพบว่าปริมาณไขมันทั้งหมดในตัวอย่างเมล็ดมะละกอทั้ง 5 สายพันธุ์ มีค่าอยู่ ในช่วงร้อยละ 25.14 และ 34.65 และพบปริมาณกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวเป็นส่วนประกอบ หลักมีค่าอยู่ในช่วงร้อยละ 75.04 และ 77.88 โดยกรดไขมันที่พบมาก คือ กรดโอเลอิก ปริมาณ สารประกอบฟีนอลิกในรูปของกรดแกลลิคมีค่าอยู่ในช่วง 259.33 และ 342.11 mg/kg จาก การศึกษาคุณสมบัติทางเคมีกายภาพ ได้แก่ ค่าสปอนิฟิเคชันพบว่ามีค่าอยู่ในช่วง 180.22 และ 189.43 mg KOH/g, ค่าของสารที่ซาพอนิไฟด์ไม่ได้อยู่ในช่วงร้อยละ 0.53 และ 0.86, ค่าไอโอดีน อยู่ในช่วง 72.47 และ 74.87 g/100g, ค่าความเป็นกรดอยู่ในช่วง 0.51 และ 2.24 mg KOH/g ค่าเปอร์ออกไซด์อยู่ในช่วง 0.02 และ 0.08 meq/kg และค่าเบนซิลไอโซไธโอไซยาเนท มีค่าอยู่ ในช่วง 3,515.71 และ 8,860.00 ppm จากการวิจัยนี้พบว่าน้ำมันที่สกัดได้จากเมล็ดมะละกอ มีปริมาณกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (กรดโอเลอิก) เป็นองค์ประกอบในปริมาณมาก อีกทั้งยังมีสารประกอบฟีนอลิกซึ่งเป็นสารต้าน อนุมูลอิสระ ดังนั้นน้ำมันที่สกัดได้จากเมล็ดมะละกอจึงมีแนวโน้มที่จะผลิตเป็นน้ำมันพืชเพื่อการ บริโภคได้ แต่อย่างไรก็ตามยังคงต้องศึกษาถึงวิธีการขจัดสารเบนซิลไอโซไธโอไซยาเนทที่อยู่ใน น้ำมันเมล็ดมะละกอต่อไป
บทคัดย่อ (EN): The nutritional quality of vegetable oil is suitable for consumption. The papaya seed (Carica papaya L.) is also a source of lipids. The objective of this research was to study the properties of papaya seed oils for development into edible oil. This study was carried out on various seed oils from 5 varieties (unripe and ripe) of papaya seeds (Kaeg-dum, Kaeg-naun, Kam-mam, Hawaii and Holland). This study found that total lipids of papaya seeds were 25.14 and 34.65%. Fatty acid compositions of various papaya seed oils were relatively monounsaturated (approximately 75.04 and 77.88%), with oleic acid (C18:1) being the dominant fatty acid. Total phenolic contents of papaya seed oils calculated as gallic acid equivalents (GAE) ranged between 259.33 and 342.11 mg/kg. Physicochemical properties of papaya seed oils were: saponification values 180.22 and 189.43 mg KOH/g, unsaponification values 0.53 and 0.86%, iodine values 72.47 and 74.87 g/100g, acid values 0.51 and 2.24 mg KOH/g and peroxide values 0.02 and 0.08 meq/Kg. Benzyl isothiocyanate in papaya seeds ranged between 3,515.71 and 8,860.00 ppm. This research showed that papaya seed is an excellent source of lipids, especially monounsaturated fatty acid (oleic acid). It contains phenolic compounds that have antioxidant activity. These compounds are beneficial for health. Thus, papaya seed oil can be developed into edible oil. However, the removal of benzyl isothiocyanate in papaya seed oil should be the subject of further study.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=4484&obj_id=4775
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Seeds
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: น้ำมันพืชเป็นน้ำมันที่มีคุณค่าทางโภชนาการเหมาะแก่การบริโภค พบว่าในเมล็ดมะละกอเป็น อีกแหล่งวัตถุดิบหนึ่งที่มีน้ำมันเป็นองค์ประกอบสูง ดังนั้นในการวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา สมบัติของน้ำมันเมล็ดมะละกอเพื่อการพัฒนาเป็นน้ำมันสำหรับบริโภค โดยศึกษาจากตัวอย่างเมล็ด มะละกอสายพันธุ์ต่างๆ จำนวน 5 สายพันธุ์ทั้งสุกและดิบ ได้แก่ พันธุ์แขกดำ, แขกนวล, แก้มแหม่ม, ฮาวาย และ ฮอลแลนด์ จากการศึกษาพบว่าปริมาณไขมันทั้งหมดในตัวอย่างเมล็ดมะละกอทั้ง 5 สายพันธุ์ มีค่าอยู่ ในช่วงร้อยละ 25.14 และ 34.65 และพบปริมาณกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวเป็นส่วนประกอบ หลักมีค่าอยู่ในช่วงร้อยละ 75.04 และ 77.88 โดยกรดไขมันที่พบมาก คือ กรดโอเลอิก ปริมาณ สารประกอบฟีนอลิกในรูปของกรดแกลลิคมีค่าอยู่ในช่วง 259.33 และ 342.11 mg/kg จาก การศึกษาคุณสมบัติทางเคมีกายภาพ ได้แก่ ค่าสปอนิฟิเคชันพบว่ามีค่าอยู่ในช่วง 180.22 และ 189.43 mg KOH/g, ค่าของสารที่ซาพอนิไฟด์ไม่ได้อยู่ในช่วงร้อยละ 0.53 และ 0.86, ค่าไอโอดีน อยู่ในช่วง 72.47 และ 74.87 g/100g, ค่าความเป็นกรดอยู่ในช่วง 0.51 และ 2.24 mg KOH/g ค่าเปอร์ออกไซด์อยู่ในช่วง 0.02 และ 0.08 meq/kg และค่าเบนซิลไอโซไธโอไซยาเนท มีค่าอยู่ ในช่วง 3,515.71 และ 8,860.00 ppm จากการวิจัยนี้พบว่าน้ำมันที่สกัดได้จากเมล็ดมะละกอ มีปริมาณกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (กรดโอเลอิก) เป็นองค์ประกอบในปริมาณมาก อีกทั้งยังมีสารประกอบฟีนอลิกซึ่งเป็นสารต้าน อนุมูลอิสระ ดังนั้นน้ำมันที่สกัดได้จากเมล็ดมะละกอจึงมีแนวโน้มที่จะผลิตเป็นน้ำมันพืชเพื่อการ บริโภคได้ แต่อย่างไรก็ตามยังคงต้องศึกษาถึงวิธีการขจัดสารเบนซิลไอโซไธโอไซยาเนทที่อยู่ใน น้ำมันเมล็ดมะละกอต่อไป
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาสมบัติของน้ำมันเมล็ดมะละกอเพื่อพัฒนาเป็นน้ำมันบริโภค
Piyawadee Sammarphet
มหาวิทยาลัยมหิดล
2551
ศึกษาการผลิตน้ำมันปาล์ม : กรณีศึกษา บริษัท ปาล์มน้ำมันธรรมชาติ จำกัด การสกัดและศึกษาคุณสมบัติของน้ำมันจากเมล็ดจาก หางนกยูง, กระบก และ หูกวาง เ นโยบายในการแก้ไขปัญหาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มของประเทศจากเขตการค้าเสรีอาเซียนของภาครัฐ ศักยภาพของน้ำมันเมล็ดมะเคาะในการเป็นเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องยนต์แบบจุดระเบิดด้วยการอัด พฤติกรรมการบริโภคน้ำมันจากพืชของครัวเรือนในเขตอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ การผลิตน้ำมันอย่างเหมาะสมที่สุดจากชั้นน้ำมันขนาดเล็กระหว่างชั้นแก็สและชั้นน้ำใต้ดิน การศึกษาการปรับปรุงสมบัติการทนน้ำมันและทนความร้อนของยางธรรมชาติโดยการผสมกับยางอะคริลิก ความยืดหยุ่นของอุปสงค์ของการใช้น้ำมันสำเร็จรูปใน ประเทศไทย การศึกษาเปรียบเทียบคุณสมบัติของน้ำมันมะนาวที่ได้จากการหมักด้วยน้ำหมักชีวภาพ การบำบัดดินที่ปนเปื้อนน้ำมันเตาโดยใช้พืช
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก