สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาคุณลักษณะของเม็ดแคลเซียม-ยาปฏิชีวนะกับการปล่อยยา
นภสร เผ่าชูศักดิ์ - มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ชื่อเรื่อง: การศึกษาคุณลักษณะของเม็ดแคลเซียม-ยาปฏิชีวนะกับการปล่อยยา
ชื่อเรื่อง (EN): Study the characteristics of calcium-antibiotic beads and drug elutio
บทคัดย่อ: เม็ดลูกปัดยาปฏิชีวนะใช้ในการนำยาให้มีความเข้มข้นสูงเพื่อใช้การรักษาการติดเชื้อเฉพาะที่ จากอุบัติการณ์ของการดื้อยาต้านจุลชีพจึงทำให้มีการศึกษาประสิทธิภาพของเม็ดลูกปัดยาปฏิชีวนะหลายชนิด การศึกษานี้ได้ศึกษาลักษณะการปลดปล่อยยาในห้องปฏิบัติการของเม็ดลูกปัดยาเซฟตาซิดิม-แคลเซียม (Cef-Ca) และเม็ดลูกปัดยาเซฟตาซิดิม-โพลิเมทิลเมทาไครเลต (Cef-P) นาน 20 วัน โดยเตรียมเม็ดลูกปัดยาจากผงยาเซฟตาซิดิมรูปสำหรับฉีด 10 กรัม และแคลเซียมซัลเฟตหรือโพลิเมททิลเมตาไคเลต (พีเอ็มเอ็มเอ) 10 กรัม การศึกษาการปลดปล่อยยาทำโดยนำเม็ดลูกปัดยาเซฟตาซิดิมแช่ลงในบัพเฟอร์ phosphate buffer saline (ค่าความเป็นกรดด่าง 7.4) และวิเคราะห์ระดับยาเซฟตาซิดิมด้วยวิธีจุลชีววิเคราะห์ อัตราการปล่อยยาเซฟตาซิดิมช่วงแรกเกิดขึ้นเร็วและพบว่าเม็ดลูกปัดแคลเซียมปล่อยยาได้มากกว่าเม็ดลูกปัดพีเอ็มเอ็มเอ เม็ดลูกปัด Cef-Ca และ Cef-P สามารถปล่อยยาได้นาน 7 และ 17 วันตามลำดับ และระดับยาที่ปลดปล่อยจากเม็ดลูกปัดมีค่าสูงกว่าความเข้มข้นต่ำสุดที่สามารถยับยั้งการเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย Pseudomonas aeruginosa (ATCC 27853), Staphylococcus aureus (ATCC 25928) และ E coli (ATCC 29522) และได้ศึกษาการปลดปล่อยยาของเม็ดลูกปัดหลายขนาดและมีการเตรียมที่แตกต่างกัน ซึ่งพบว่าปริมาณยาเซฟตาซิดิมที่ปลดปล่อยสัมพันธ์กับพื้นที่ผิวและปริมาตรของเม็ดลูกปัด และปริมาณของยาเซฟตาซิดิมที่ผสม นอกจากนี้ยังมีการศึกษาลักษณะทางโครงสร้างของ Cef-Ca และ Cef-P ด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็คตรอนแบบส่องกราดก่อนและหลังการปลดปล่อยยา ผลการศึกษาพบว่าเม็ดลูกปัดแคลเซียมมีความพรุนมากกว่าเม็ดลูกปัดพีเอ็มเอ็มเอ ภายหลังการทดสอบการปล่อยยา พบว่าเกิดการสลายของแคลเซียมซัลเฟตทำให้ความพรุนของเม็ดลูกปัดเพิ่มขึ้นและโครงสร้างเกาะตัวกันหลวม ส่วนโครงสร้างของเม็ดลูกปัดพีเอ็มเอ็มเอมีลักษณะแน่นและไม่พบการสลายตัวหลังทดสอบการปล่อยยา การปลดปล่อยยาเซฟตาซิดิมขึ้นกับความพรุนและคุณสมบัติการสลายตัวของโครงสร้างเม็ดลูกปัด จากการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าเม็ดลูกปัดยาเซฟตาซิดิม-แคลเซียมและเม็ดลูกปัดยาเซฟตาซิดิม-โพลิเมทิลเมทาไครเลต มีประสิทธิภาพในการรักษาติดเชื้อเฉพาะที่ซึ่งเม็ดลูกปัดแคลเซียมปลดปล่อยยาได้มากแต่ในระยะที่สั้นกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับเม็ดลูกปัดพีเอ็มเอ็มเอ เม็ดลูกปัดยาปฏิชีวนะใช้ในการนำยาให้มีความเข้มข้นสูงเพื่อใช้การรักษาการติดเชื้อเฉพาะที่ จากอุบัติการณ์ของการดื้อยาต้านจุลชีพจึงทำให้มีการศึกษาประสิทธิภาพของเม็ดลูกปัดยาปฏิชีวนะหลายชนิด การศึกษานี้ได้ศึกษาลักษณะการปลดปล่อยยาในห้องปฏิบัติการของเม็ดลูกปัดยาเซฟตาซิดิม-แคลเซียม (Cef-Ca) และเม็ดลูกปัดยาเซฟตาซิดิม-โพลิเมทิลเมทาไครเลต (Cef-P) นาน 20 วัน โดยเตรียมเม็ดลูกปัดยาจากผงยาเซฟตาซิดิมรูปสำหรับฉีด 10 กรัม และแคลเซียมซัลเฟตหรือโพลิเมททิลเมตาไคเลต (พีเอ็มเอ็มเอ) 10 กรัม การศึกษาการปลดปล่อยยาทำโดยนำเม็ดลูกปัดยาเซฟตาซิดิมแช่ลงในบัพเฟอร์ phosphate buffer saline (ค่าความเป็นกรดด่าง 7.4) และวิเคราะห์ระดับยาเซฟตาซิดิมด้วยวิธีจุลชีววิเคราะห์ อัตราการปล่อยยาเซฟตาซิดิมช่วงแรกเกิดขึ้นเร็วและพบว่าเม็ดลูกปัดแคลเซียมปล่อยยาได้มากกว่าเม็ดลูกปัดพีเอ็มเอ็มเอ เม็ดลูกปัด Cef-Ca และ Cef-P สามารถปล่อยยาได้นาน 7 และ 17 วันตามลำดับ และระดับยาที่ปลดปล่อยจากเม็ดลูกปัดมีค่าสูงกว่าความเข้มข้นต่ำสุดที่สามารถยับยั้งการเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย Pseudomonas aeruginosa (ATCC 27853), Staphylococcus aureus (ATCC 25928) และ E coli (ATCC 29522) และได้ศึกษาการปลดปล่อยยาของเม็ดลูกปัดหลายขนาดและมีการเตรียมที่แตกต่างกัน ซึ่งพบว่าปริมาณยาเซฟตาซิดิมที่ปลดปล่อยสัมพันธ์กับพื้นที่ผิวและปริมาตรของเม็ดลูกปัด และปริมาณของยาเซฟตาซิดิมที่ผสม นอกจากนี้ยังมีการศึกษาลักษณะทางโครงสร้างของ Cef-Ca และ Cef-P ด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็คตรอนแบบส่องกราดก่อนและหลังการปลดปล่อยยา ผลการศึกษาพบว่าเม็ดลูกปัดแคลเซียมมีความพรุนมากกว่าเม็ดลูกปัดพีเอ็มเอ็มเอ ภายหลังการทดสอบการปล่อยยา พบว่าเกิดการสลายของแคลเซียมซัลเฟตทำให้ความพรุนของเม็ดลูกปัดเพิ่มขึ้นและโครงสร้างเกาะตัวกันหลวม ส่วนโครงสร้างของเม็ดลูกปัดพีเอ็มเอ็มเอมีลักษณะแน่นและไม่พบการสลายตัวหลังทดสอบการปล่อยยา การปลดปล่อยยาเซฟตาซิดิมขึ้นกับความพรุนและคุณสมบัติการสลายตัวของโครงสร้างเม็ดลูกปัด จากการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าเม็ดลูกปัดยาเซฟตาซิดิม-แคลเซียมและเม็ดลูกปัดยาเซฟตาซิดิม-โพลิเมทิลเมทาไครเลต มีประสิทธิภาพในการรักษาติดเชื้อเฉพาะที่ซึ่งเม็ดลูกปัดแคลเซียมปลดปล่อยยาได้มากแต่ในระยะที่สั้นกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับเม็ดลูกปัดพีเอ็มเอ็มเอ
บทคัดย่อ (EN): Antibiotic beads are used to deliver high drug concentrations to the tissues for treatment of local bacterial infections. According to the emergence of antimicrobial resistance, the efficacy of various antibiotic beads has been studied to treat the bacterial infections. This study presented the elution characteristics of ceftazidime calcium sulfate (Cef-Ca) beads and ceftazidime polymethylmethacrylate (Cef-P) beads for 20 days in vitro in which beads were prepared in the laboratory by mixing 1.0 g ceftazidime injection formulation and 10.0 g matrix materials, calcium sulfate or polymethylmethacrylate (PMMA). For elution study, the beads were placed in phosphate buffer saline (pH 7.4) for elution test and daily eluted ceftazidime concentrations were determined by microbioassay. The rate of ceftazidime release was rapid at the early period and calcium sulfate beads released more amounts of ceftazidime than from PMMA beads. The Cef-Ca beads and Cef-P beads could release antibiotic for 7 and 17 days, respectively, and the levels of Cef were higher than MIC against Pseudomonas aeruginosa (ATCC 27853), Staphylococcus aureus (ATCC 25928) and E coli (ATCC 29522). Also, various sizes and formulation of Cef-Ca beads were examined for their elution profiles. The amounts of eluted ceftazidime were related with the surface areas, the volume of beads and incorporated amounts of ceftazidime. In addition, scanning electron microscopic (SEM) characteristics of Cef-Ca and Cef-P beads were observed before and after elution study. The SEM profiles showed calcium sulfate beads had more porosity than PMMA beads. After elution study, calcium sulfate was dissolved that caused an increasing of porosity and a loosen scaffold structure. The matrix structure of PMMA beads was more compact which no dissolution occurred. The amounts of eluted ceftazidime depended on the porosity and dissolution property of matrix. This study demonstrated that ceftazidime-impregnated calcium sulfate and PMMA beads are effectively used to manage the local infections which calcium sulfate beads released more antibiotic but in a shorter period of time compared with PMMA bead. Antibiotic beads are used to deliver high drug concentrations to the tissues for treatment of local bacterial infections. According to the emergence of antimicrobial resistance, the efficacy of various antibiotic beads has been studied to treat the bacterial infections. This study presented the elution characteristics of ceftazidime calcium sulfate (Cef-Ca) beads and ceftazidime polymethylmethacrylate (Cef-P) beads for 20 days in vitro in which beads were prepared in the laboratory by mixing 1.0 g ceftazidime injection formulation and 10.0 g matrix materials, calcium sulfate or polymethylmethacrylate (PMMA). For elution study, the beads were placed in phosphate buffer saline (pH 7.4) for elution test and daily eluted ceftazidime concentrations were determined by microbioassay. The rate of ceftazidime release was rapid at the early period and calcium sulfate beads released more amounts of ceftazidime than from PMMA beads. The Cef-Ca beads and Cef-P beads could release antibiotic for 7 and 17 days, respectively, and the levels of Cef were higher than MIC against Pseudomonas aeruginosa (ATCC 27853), Staphylococcus aureus (ATCC 25928) and E coli (ATCC 29522). Also, various sizes and formulation of Cef-Ca beads were examined for their elution profiles. The amounts of eluted ceftazidime were related with the surface areas, the volume of beads and incorporated amounts of ceftazidime. In addition, scanning electron microscopic (SEM) characteristics of Cef-Ca and Cef-P beads were observed before and after elution study. The SEM profiles showed calcium sulfate beads had more porosity than PMMA beads. After elution study, calcium sulfate was dissolved that caused an increasing of porosity and a loosen scaffold structure. The matrix structure of PMMA beads was more compact which no dissolution occurred. The amounts of eluted ceftazidime depended on the porosity and dissolution property of matrix. This study demonstrated that ceftazidime-impregnated calcium sulfate and PMMA beads are effectively used to manage the local infections which calcium sulfate beads released more antibiotic but in a shorter period of time compared with PMMA bead.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
คำสำคัญ: การปล่อยยา
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาคุณลักษณะของเม็ดแคลเซียม-ยาปฏิชีวนะกับการปล่อยยา
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
30 กันยายน 2554
เม็ดลูกปัดแคลเซียม-เจนต้ามิซิน : เปรียบเทียบระหว่างการบรรจุยาและการเตรียมเม็ดลูกปัดแคลเซียมซัลเฟตที่แตกต่างกัน การเฝ้าระวังการดื้อต่อยาฆ่าเชื้อและยาปฏิชีวนะของ Salmonella spp. และ Escherichia coli ในสายพันธุ์ที่แยกได้ในประเทศไทย : รายงานการวิจัย การศึกษาผลของการใช้ยาปฏิชีวนะในการรักษาโรคแท้งติดต่อในสุนัข การใช้แก่นตะวันเพื่อเป็นสารทดแทนยาปฏิชีวนะในอาหารโคนม การสำรวจเชื้อก่อโรคเต้านมอักเสบในโคนมและความไวต่อยาปฏิชีวนะ ในจังหวัดสระแก้ว การปนเปื้อนของ Escherichia coli ที่ต้านทานต่อยาปฏิชีวนะในน้ำทิ้งจากฟาร์มและการกระจายสู่สิ่งแวดล้อม ผลของการใช้สารเสริมชีวนะทดแทนยาปฏิชีวนะในสูตรอาหารสุกรหย่านม การศึกษาประสิทธิภาพสารสกัดฟ้าทะลายโจรเพื่อเป็นสารทดแทนยาปฏิชีวนะในสัตว์น้ำ การสำรวจโรคผึ้งสารตกค้างและยาปฏิชีวนะในน้ำผึ้งและผลิตภัณฑ์ผึ้งในประเทศไทย การศึกษาการปนเปื้อนของยาปฏิชีวนะในไข่ไก่เพื่อการบริโภคและอัตราการดื้อยาปฏิชีวนะของแบคทีเรียปนเปื้อนในฟาร์มไก่ไข่
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก