สืบค้นงานวิจัย
ศักยภาพของประเภทของแป้งที่ทนต่อการย่อยด้วยเอนไซม์ในการกระตุ้นการเจริญของจุลินทรีย์ที่เป็นสารเสริมชีวนะ
สุนันทา ทองทา - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
ชื่อเรื่อง: ศักยภาพของประเภทของแป้งที่ทนต่อการย่อยด้วยเอนไซม์ในการกระตุ้นการเจริญของจุลินทรีย์ที่เป็นสารเสริมชีวนะ
ชื่อเรื่อง (EN): Potentiality of types of Resistant Starch for Stimulation of Probiotics Growth
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สุนันทา ทองทา
บทคัดย่อ: ประเภทของแป้งตั้นทาน (RS) อาจมีผลต่อการกระตุ้นการเจริญของแบคที่เรียโพร ไบโอ ติกส์ และการเพิ่มปริมาณกรดแล็กติกและกรดไขมันสายสั้นซึ้งสันนิษฐานว่ามิประโยชน์ต่อสุขภาพ ของผู้บริ โภค แป้ง Rร แบ่งออกได้เป็น 5 ประเภท คือ สตาร์ชที่เอนไซม์ไม่สามารถเข้าไปได้ (RS1) เม็คสตาร์ชตั้านทานการย่อย (Rร2), สตาร์ชที่เกิดจากการรี โทรเกรเคชัน (RS3), สตาร์ชคัคแปรทาง เคมี (RS4) และการเกิดคอมเพล็กซ์ระหว่างอะมิโลส-สิพิต (Rร:) ซึ่งจัดเป็นพรี ไบโอติกส์ที่สามารถ ใช้เสริมในอาหารสำหรับผู้บริ โภค การศึกษาศักยภาพของแป้ง Rs2, Rs3 และ RS4 เปรียบเทียบ กับพรี ไบโอติกส์ทางการค้ำคือ ฟรุดโตโอลิ โกแซ็กคาไรค์ (FOs) ในการกระตุ้นการเจริญของ แบกทิเรียกรดเล็กติกที่พบเป็นปกติในลำไส้ของคนและสัตว์เลือดอุ่น จากแหล่งเก็บเชื้อพันธุ์ จุลินทริย์จำนวน 4 สายพันธุ์ (Lactobacilus acidophilus TISTR 450, Lactobacillus brevis subsp. brevis TISTR 860, Lactobacilus plantarun TISTR 543 !! ล ะ Lactobacillus fermentum TISTR 876) และแบคที่เรียประจำถิ่นที่มีประโยชน์คัดได้แยกจากอุจจาระของอาสาสมัครที่มีสุขภาพดีใน สกุล Laccobaciนus และ Strept0c0cus จำนวน 2 และ 1 สายพันธุ์ ตามลำคับ โดยใช้อาหารเลี้ยงเชื้อ ที่เติมแป้งต้านทา านชนิดใดชนิดหนึ่งหรือ FOS ปริมาณร้อยละ 1 เป็นแหล่งคาร์บอน พบว่าแบคทีเรีย จากแหล่งเก็บเชื้อพันธุ์ทั้ง 4.สายพันธุ์ มิแนวโน้มความสามารถในการใช้แป้ง Rร. ได้ค่อนข้างต่ำกว่า เมื่อเทียบกับน้ำตาลกลูโคส.ส่วนแบคทิเรียจากอาสาสมัครซึ้งจำลองการย่อยสับสเตรททุกประเภท ผ่านระบบทางเดินอาหารทั้ง 3 สายพันธุ์ ในอาหารเลี้ยงเชื้อที่เดิมสับสเตรทแต่ละประเกทมีการเจริญ ใกล้เคียงกันและมิค่าการเจริญสูงที่สุดถึง 10* โค โลนีต่อมิลลิลิตร เวลา 20 ชั่วโมง และพบว่าแป้ง RS3 เป็นสับสเตร ทที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างกรดไขมันสายสั้น โดยพบกรดบิวที่ริกปริมาณสูงที่สุด นอกจากนี้เมื่อหดลองโดยใช้เชื้อผสมจากอุจจาระของอาสาสมัครพบว่าปริมาณเชื้อที่เหมาะสมที่สุด ที่ใช้ในการบ่มคือร้อยละ 10 (ปริมาตร ปริมาณสับสเตรทที่เติมลงในอาหารเลี้ยงเชื้อที่เหมาะสมที่สุด คือ 1% (*/*) และระยะเวลาการบ่มที่เหมาะสมที่สุดคือ 24 ชั่วโมง และพบว่าแป้ง RS3 เป็น สับสเตรทที่คิที่สุดสำหรับการสร้างกรคไขมันสายสั้น โคยพบกรคอะซิติกปริมาณสูงที่สุดเท่ากับ 32.60 มิลสิโมลาร์ และพบว่า RS3 ให้ค่าพรี ไบโอติกส์ อินเดกซ์สูงที่สุด คือ 4.82 เมื่อเปรียบเทียบกับ การใช้สับสเตรทชนิดอื่นๆ จากผลการทคลองแสคงให้เห็นว่าแป้ง Rร3 แสคงความเป็นพรี ไบโอ ติกส์ที่ส่งเสริมประ โยชน์ต่อสุขภาพของมนุษย์
บทคัดย่อ (EN): The types of resistant starch (RS) may play an important role in the growth stimulation of probiotics bacteria and an increase in intestinal concentrations of lactic acid and short-chain fatty acids (SCFA) assumed to be a health benefit for the host. The RS is divided into five types: physically inaccessible starch (RS1), resistant granular starch (RS2), retrograded starch (RS3), chemically modified starch (RS4), and amylose-lipid complexes (RS5) considered as prebiotics that can be a supplement to the diet. The potential of RS2, RS3, and RS4 compared to fructo- oligosaccharides (FOS), a commercial prebiotic for growth stimulation of four species of lactic acid bacteria, normal flora on humans and animals obtained from microbial culture collection stock cultures, (Lactobacillus acidophilus TISTR 450, Lactobacillus brevis subsp. brevis TISTR 860, Lactobacillus plantarum TISTR 543, Lactobacillus fermentum TISTR 876) and the beneficial micro-flora isolated from fecal samples of healthy people in genera Lactobacillus and Streptococcus for 2 and 1 species, respectively, and were studied using a medium containing 1% of either RS or FOS, as carbon sources. The trend in RS consumption of the four bacterial species from stock cultures was lower when compared to glucose. For the three bacterial isolates collected from healthy people, all substrates were treated through the digestive model system. The growth of all isolates was similar and reached the maximum of 1010 CFU/mL at cultivation for 20 hours. RS3 was best served as the substrate for producing SCFA. The highest content of SCFA was butyric acid which was higher than propionic and acetic acids. Furthermore, the investigation of mixed culture from fecal samples suggested that the optimum inoculum was 10% (v/v), optimum carbon source was 1% (w/v) and optimum incubation time was 24 h. In addition, RS3 was the best served as the substrate for producing SCFA and the highest content of SCFA was acetic acid, 32.60 mM. RS3 also obtained the highest prebiotic index which was 4.82 compared to those of other substrates. RS3 reveals the promising beneficial effects of prebiotics on human health.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dric.nrct.go.th/Search/SearchDetail/290638
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
คำสำคัญ: โพรไบโอติกส์
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ศักยภาพของประเภทของแป้งที่ทนต่อการย่อยด้วยเอนไซม์ในการกระตุ้นการเจริญของจุลินทรีย์ที่เป็นสารเสริมชีวนะ
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
30 กันยายน 2557
จุลินทรีย์ใน ……… ชาเย็น จุลินทรีย์ในน้ำดื่มบรรจุขวด โครงการวิจัยคัดเลือกจุลินทรีย์เพิ่มความอุดมสมบูรณ์และป้องกันโรคพืชในดินเพื่อเพิ่มผลผลิตพืช การแยกจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ทางการแพทย์จากข้าวบูดเพื่อประโยชน์ในการนำกลับมาใช้ทางแพทย์แผนไทย ศึกษาสภาวะที่เหมาะสมในการเจริญของจุลินทรีย์เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์จุลินทรีย์ย่อยสลายตะกอนอินทรีย์ การพัฒนาแป้งกล้วยน้ำว้าดิบ การใช้ประโยชน์จากจุลินทรีย์ในการควบคุมทางชีวภาพ การโคลนยีนไฟเตสทนร้อนจากแอคติโนไมซีท Thermomonospora sp. RC7 เพื่อพัฒนาการผลิตเอนไซม์ไฟเตสทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณแป้งและสารโรตีในนในรากหางไหล (Derris elliptica Benth.) ที่อายุต่าง ๆ การฟอกปอด้วยจุลินทรีย์
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก