สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาและวิเคราะห์สถานการณ์การระบาดของศัตรูฝ้ายและผลการส่งเสริมการป้องกันและกำจัดศัตรูฝ้ายโดยวิธีผสมผสาน ปี 2538 ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ณรงค์ จันทรประภา - กรมส่งเสริมการเกษตร
ชื่อเรื่อง: การศึกษาและวิเคราะห์สถานการณ์การระบาดของศัตรูฝ้ายและผลการส่งเสริมการป้องกันและกำจัดศัตรูฝ้ายโดยวิธีผสมผสาน ปี 2538 ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ณรงค์ จันทรประภา
บทคัดย่อ: เป็นที่ทราบกันดีว่า ฝ้ายมีศัตรูหลายชนิดที่เข้าทำลายตั้งแต่ระยะกล้าจนถึงระยะสมอแตกเป็นปุยฝ้าย เกษตรกรจำเป็นต้องใช้สารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูฝ้ายเหล่านั้นและมักจะใช้จนเกินความจำเป็น จำนวนครั้งที่ใช้สูงถึง 15-18 ครั้งต่อฤดูปลูก และต้องสิ้นค่าใช้จ่ายค่าสารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูฝ้ายและค่าแรงงานฉีดพ่น อย่างน้อย 40 % ของค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการปลูกฝ้ายการใช้สารเคมีดังกล่าวเป็นอันตรายต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม ตลอดจนก่อให้เกิดแมลงสร้างความต้านทานต่อสารเคมี รวมทั้งก่อให้เกิดระบาดของศัตรูชนิดอื่นตามมา การศึกษาและวิเคราะห์สถานการณ์การระบาดของศัตรูฝ้ายและผลการส่งเสริมการป้องกันและกำจัดศัตรูฝ้ายโดยวิธีผสมผสาน ปี 2538 ในภาคระวันออกเฉียงเหนือครั้งนี้ ดำเนินการในจังหวัดเลย, ชัยภูมิ, นครราชสีมา, หนองบัวลำภู, อุดรธานี และจังหวัดอุบลราชธานี ระหว่างเดือนกรกฏาคมถึงเดือนพฤศจิกายน โดยในแต่ละจังหวัดจะมีแปลงสำรวจติดตามสถานการณ์ศัตรูฝ้ายซึ่งทำการเก็บข้อมูลเป็นประจำทุกสัปดาห์ จนถึงระยะเก็บเกี่ยว ผลการศึกษา พบว่าในระยะกล้ามีโรคโคนเน่า (DAMPING OFF; DPO) ประปรายไม่มีความสำคัญและเมื่ออายุ 2-3 สัปดาห์ พบหนอนสะไปนี่ (SPINY BOLLWORM ; SBW) ประปรายและเป็นเพียง Minor pest เช่นเดียวกับแมลงหวี่ขาว (TOBACCO WHITE FLY; TWF)ซึ่งระบาดประปรายในช่วงสมอฝ้ายแตกเป็นปุย (สัปดาห์ที่ 12-14) สำหรับเพลี้ยอ่อน (COTTON APHID ; APH) และเพลี้ยจักจั่น (COTTON LEAF HOPPER ; CLH) นั้นเริ่มระบาดตั้งแต่ 5 สัปดาห์และระบาดสูงมากเมื่ออายุ 11 สัปดาห์ เกินค่าระดับเศรษฐกิจทั้งคู่ และจัดว่าเป็นศัตรูฝ้ายที่สำคัญ (Major pests) เช่นเดียวกับหนอนเจาะสมอฝ้าย (COTTON BOLLWORM ; CBW) ซึ่งระบาดสูงสุดเมื่ออายุ 7 สัปดาห์ สูงเกินค่าระดับเศรษฐกิจเช่นเดียวกัน ในการใช้สารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูฝ้ายนั้น เกษตรกรที่ปฏบัติตามคำแนะนำ IPM คือ มีการสำรวจตรวจนับและใช้ระดับเศรษฐกิจในการตัดสินใจว่าจะฉีดพ่นสารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืชนั้น เฉลี่ยแล้วเกษตรกรลดการใช้สารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืช ได้อย่างน้อย 2 ครั้ง ตลอดฤดูปลูกเมื่อเทียบกับเกษตรกรที่ปฏิบัติตามปกติคือต้องใช้จ่ายค่าสารเคมีและค่าแรงงานระหว่าง 11 ถึง 14 ครั้ง (แต่ถ้ปฏิบัติตามคำแนะนำโดยวิธี IPM เสียค่าใช้จ่ายเพียง 9 ถึง 12 ครั้งเท่านั้น) และเมื่อเปรียบเทียบรายได้สุทธิโดยการวิเคราะห์ Partial Budget Analysis โดยใช้ค่า Margianl Benefit Cost Rateo (MBCR) เป็นตัวชี้วัดผลสัมฤทธิ์ของการส่งเสริมการป้องกันและกำจัดศัตรูฝ้ายโดยวิธีผสมผสานแล้ว พบว่า กลุ่มเกษตรกรที่ปลูกฝ้ายและปฏิบัติตามคำแนะนำ IPM 4 จังหวัด คือ นครราชสีมา,หนองบัวลำภู, อุบลราชธานีและเลย มีค่า MBCR สูงตั้งแต่ 2 ขึ้นไป ซึ่งหมายถึงการป้องกันและกำจัดโดยวิธีผสมผสานได้ผลตอบแทนคุ้นค่า(คือ ลงทุน 1 บาทได้ผลตอบแทน เป็น 2 บาท)และเมื่อคำนวนค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูฝ้ายรวมทั้งค่าแรงฉีดพ่นเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายอื่นๆ ก็พบว่าต่ำกว่า 40% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการปลูกฝ้ายแสดงว่าการส่งเสริมการป้องกันและกำจัดศัตรูฝ้าย ใน 4 จังหวัด ดังกล่าว (ในปี 2538) ประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ ข้อเสนอแนะ(1) ควรมีการฝึกอบรมและสัมมนาเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบภาคสนามเป็นระยะๆ เมื่อสิ้นสุดโครงการเพื่อพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ ทักษะ ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้เพราะมีการสับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบบ่อยๆ (2) การถ่ายทอดความรู้ฝึกอบรม และการตรวจเยี่ยม(T&V) ยังมีความจำเป็นต้องปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นให้เกษตรกรมีส่วนร่วมมากที่สุด และ (3) ระบบงานส่งเสริมการป้องกันและกำจัดศัตรูฝ้าย โดยมีการสำรวจตรวจนับ ติดตามสถานการณ์การระบาดและมีการใช้ระดับเศรษฐกิจช่วยในการตัดสินใจสมควรใช้สารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืชหรือไม่นั้น เหมาะสมดีแล้วสมควรขยายผลการดำเนินงานในลักษณะนี้ทุกหมู่บ้าน ในรูปของหมู่บ้าน IPM ซึ่งเป็นลักษณะงานส่งเสริมในรูป Area approach ตอบสนองนโยบายของกรมส่งเสริมการเกษตรได้เป็นอย่างดี
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมส่งเสริมการเกษตร
คำสำคัญ: ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
หมวดหมู่:
หมวดหมู่ AGRIS:
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาและวิเคราะห์สถานการณ์การระบาดของศัตรูฝ้ายและผลการส่งเสริมการป้องกันและกำจัดศัตรูฝ้ายโดยวิธีผสมผสาน ปี 2538 ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
กรมส่งเสริมการเกษตร
2538
สถานการณ์โรคและแมลงศัตรูของยางพาราในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและการจัดการ เรณูวิทยาของพรรณไม้วงศ์ฝ้าย (Malvaceae) ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย การดำเนินงานกลุ่มส่งเสริมอาชีพการเกษตรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ศึกษาสภาพการผลิต การตลาด และการป้องกันกำจัดศัตรูมะม่วงแก้วในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เทคโนโลยีการปลูกพริกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แนวคิดและแนวทางการส่งเสริมการบริหารศัตรูข้าวโดยวิธีผสมผสาน การเลี้ยงผึ้งพันธุ์ของเกษตรกรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เทคโนโลยีการป้องกันและกำจัดศัตรูพืชผักโดยวิธีผสมผสานในการผลิตผักปลอดภัยจากสารพิษของเกษตรกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง โครงการวิจัยการศึกษาผลกระทบของสารป้องกันกำจัดศัตรูพืชต่อศัตรูธรรมชาติและแมลงที่มีประโยชน์ การยอมรับมาตรฐานฟาร์มผึ้งของเกษตรกรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก