สืบค้นงานวิจัย
การเปรียบเทียบการตรวจเชื้อเอชไอวีดื้อยาต้านไวรัสในตัวอย่างพลาสมาและกระดาษซับเลือด
ดนตร์ ช่างสม - กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
ชื่อเรื่อง: การเปรียบเทียบการตรวจเชื้อเอชไอวีดื้อยาต้านไวรัสในตัวอย่างพลาสมาและกระดาษซับเลือด
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ดนตร์ ช่างสม
คำสำคัญ: การตรวจเชื้อเอชไอวีดื้อยาต้านไวรัส กระดาษซับเลือด
บทคัดย่อ: การตรวจเชื้อเอชไอวีดื้อยาต้านไวรัสด้วยวิธีจีโนทัยป์จากตัวอย่างพลาสมาเป็นวิธีมาตรฐานตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก ต่อมามีการนำกระดาษซับเลือด (DBS) มาประยุกต์ใช้ในการเก็บตัวอย่าง ด้วยตัวอย่าง DBS มีความสะดวกในการขนส่งมากกว่าและจัดเป็นตัวอย่างที่ไม่ติดเชื้อ ช่วยนำตัวอย่างจากพื้นที่ห่างไกลภายในประเทศและจากประเทศกำลังพัฒนาอื่นในภูมิภาคนี้ ส่งมาตรวจยังประเทศไทยนั้นทำได้สะดวกมากขึ้นและมีค่าใช้จ่ายในการขนส่งถูกลง วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้เพื่อเปรียบเทียบผลการตรวจเชื้อเอชไอวีดื้อยาต้านไวรัสในตัวอย่างพลาสมาและ DBS ผลการศึกษา คณะผู้วิจัยได้พัฒนาวิธีการตรวจเชื้อเอชไอวีดื้อยาด้วยวิธี จีโนทัยป์บนกระดาษซับเลือด มีความไว (sensitivity) เท่ากับ 2.5 copies มีความเที่ยง (precision) 99.8% ความจำเพาะ 100% และ reproducibility 99.8% ตัวอย่างที่นำมาศึกษาเป็นตัวอย่างพลาสมาและ DBS จำนวนทั้งหมด 62 คู่ตัวอย่าง ตัวอย่างแบ่งเป็น 2 กลุ่มได้แก่ กลุ่มผู้ป่วยก่อนรับยา (PDR) จำนวน 22 ราย และกลุ่มผู้ป่วยที่รับยาแล้วสงสัยมีการดื้อยา (ADR) จำนวน 40 ราย โดยในกลุ่ม PDR มีปริมาณไวรัสในกระแสเลือด มีค่ามัธยฐานที่ 153,500 copies/ml (range 248 ถึง 2,690,000) และกลุ่ม ADR ที่ 36,600 copies/ml (range 139 ถึง 1,000,000) ผลทดสอบเชื้อดื้อยาในตัวอย่างพลาสมาให้ผลบวกทั้งหมด (100%) ขณะที่ตัวอย่าง DBS นั้นให้ผลบวกกับการทดสอบ 58 ตัวอย่าง (93.5 %) โดยพบว่า 50% ของตัวอย่างที่ให้ผลลบมีปริมาณไวรัส < 2,000 copies/ml ผลการเปรียบเทียบตัวอย่างทั้งสองชนิดให้ความสอดคล้องในระดับนิวคลีโอไทด์โดยเฉลี่ย 98 % และเมื่อเปรียบเทียบผลการตรวจเชื้อดื้อยาจากตัวอย่างทั้งสองชนิด ในกลุ่ม PDR นั้นไม่พบการดื้อยา ส่วนในกลุ่ม ADR พบตำแหน่งของการดื้อต่อยา Nevirapine มากที่สุด รองลงมาคือการดื้อต่อยา Lamivudine ความแม่นยำในการตรวจการดื้อยาในกลุ่ม NRTIs เปรียบเทียบ DBS กับพลาสมาอยู่ที่ 79% สรุปและวิจารณ์ผล วิธีที่พัฒนาขึ้นนี้สามารถนำมาใช้ตรวจเชื้อเอชไอวีดื้อยาบนตัวอย่าง DBS ได้ด้วยมีผลความไว ความเที่ยง ความ จำเพาะสูง และให้ผลสอดคล้องในระดับนิวคลีโอไทด์สูงกับตัวอย่างพลาสมา
ปีเริ่มต้นงานวิจัย: 2562
ปีสิ้นสุดงานวิจัย: 2562
เอกสารแนบ: http://nih.dmsc.moph.go.th/research/showimgdetil.php?id=693
ลิขสิทธิ์: แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกัน 3.0 ประเทศไทย (CC BY-NC-SA 3.0 TH)
เผยแพร่โดย: 1 สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ 2 โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า 3 สถาบันบำราศนราดูร
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การเปรียบเทียบการตรวจเชื้อเอชไอวีดื้อยาต้านไวรัสในตัวอย่างพลาสมาและกระดาษซับเลือด
1 สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ 2 โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า 3 สถาบันบำราศนราดูร
2562
เอกสารแนบ 1
ผลงานนำเสนอประชุมวิชาการกระทรวงสาธารณสุข ปีงบประมาณ 2559 เรื่อง การประเมินการตรวจการติดเชื้อ HIV-1 ด้วยวิธี Real time PCR จากตัวอย่างเลือดและกระดาษซับเลือด การตรวจเชื้อไวรัส BHV-1 ด้วยเทคนิค Nested PCR ผลงานนำเสนอประชุมวิชาการกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ครั้งที่ 23 เรื่อง การศึกษาความคงตัวของฮอร์โมนกระตุ้นต่อมไทรอยด์ (TSH) ในตัวอย่างกระดาษซับเลือด พัฒนาชุดตรวจสอบไวรัสอย่างง่ายและเทคนิคการผลิตกล้วยไม้ปลอดไวรัส พัฒนาชุดตรวจสอบไวรัสอย่างง่ายและเทคนิคการผลิตกล้วยไม้ปลอดไวรัส การตรวจหาเชื้อแบคทีเรียในจีนัส Enterococcus ที่ดื้อต่อยา vancomycin ในสุกร ผลงานนำเสนอประชุมวิชาการกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ครั้งที่ 25 เรื่อง การพัฒนาตัวอย่างควบคุมคุณภาพเชื้อเอชไอวีแบบแห้งสำหรับตรวจหาปริมาณเชื้อเอชไอวีในกระแสเลือด การพัฒนาต้นแบบตัวอย่างเชื้อเอชไอวี-1 ในสภาพแห้งบนหลอด สำหรับสอบเทียบการตรวจหาปริมาณ เชื้อเอชไอวีในกระแสเลือด การพัฒนาตัวอย่างควบคุมคุณภาพเชื้อเอชไอวีแบบแห้งสำหรับตรวจหาปริมาณเชื้อเอชไอวีในกระแสเลือด Development of dried tube specimens as quality control samples for HIV viral load testing การพัฒนาวิธีตรวจหาเชื้อ Mycobacterium avium subsp. paratuberculosis ในสัตว์เคี้ยวเอื้อง ด้วยเทคนิคอณูชีวโมเลกุล

แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกัน 3.0 ประเทศไทย (CC BY-NC-SA 3.0 TH)
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก