สืบค้นงานวิจัย
การประเมินอินทรีย์คาร์บอนจากกระบวนการชะล้างพังทะลายของดินและการพัดพาตะกอน บริเวณลุ่มน้ำแม่ถาง อำเภอร้องกวาง จังหว
Haruthai Tippayachan - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: การประเมินอินทรีย์คาร์บอนจากกระบวนการชะล้างพังทะลายของดินและการพัดพาตะกอน บริเวณลุ่มน้ำแม่ถาง อำเภอร้องกวาง จังหว
ชื่อเรื่อง (EN): The determination of cabon loss by soil erosion and sediment transport processes in Mea Thang watershed, Rong Kwang district, Phrae province
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Haruthai Tippayachan
บทคัดย่อ: ดินเป็นแหล่งเก็บกักและสะสมคาร์บอนที่สำคัญ สามารถกักเก็บคาร์บอนที่อยู่ในดินไว้ในรูปของ อินทรีย์คาร์บอน แต่เมื่อเกิดการชะล้างพังทลายของดินมีผลในการเปลี่ยนแปลงปริมาณอินทรีย์คาร์บอนที่กักเก็บ ในดิน เนื่องจากสูญเสียไปพร้อมกับหน้าดินที่ถูกชะล้างออกไปจากพื้นที่ ในการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ในการ ประเมินการสูญเสียอินทรีย์คาร์บอนในดินจากกระบวนการชะล้างพังทลายของดินและการพัดพาตะกอนของลุ่ม น้ำแม่ถาง (ลุ่มน้ำห้วยหมาไน ลุ่มน้ำห้วยหมี ลุ่มน้ำห้วยบงและลุ่มน้ำห้วยตอง) บริเวณจังหวัดแพร่ ในช่วงฤดูฝน ตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงเดือนตุลาคม พ.ศ. 2548 โดยใช้สมการสูญเสียดินสากล (USLE) อัตราส่วนการพัดพา ตะกอน (SDR) และอัตราส่วนการพัดคาร์บอน (CDR) จากการศึกษาพบว่า ลุ่มน้ำทั้ง 4 ลุ่มน้ำย่อย ได้แก่ มีปริมาณอินทรีย์คาร์บอนในดินเท่ากับร้อยละ 2.23 2.21 และ 1.50 ของปริมาณดิน หรือคิดเป็น 0.07 0.08 0.08 และ 0.05 ตัน/เฮกแตร์/เดือน ตามลำดับ มีอัตราการ สูญเสียดิน 12.99 16.36 11.52 และ 50.28 ตัน/เฮกแตร์/เดือน ตามลำดับ มีอัตราส่วนการพัดพาตะกอน มีค่าเท่ากับ ร้อยละ 10.40 1.11 2.16 และ 0.97 ของดินที่สูญเสียไป ตามลำดับ มีอัตราส่วนการพัดพาอินทรีย์คาร์บอน เท่ากับ ร้อยละ 2.52 1.08 3.09 และ 1.09 ของการพัดตะกอนทั้งหมด ตามลำดับและสามารถประเมินปริมาณอินทรีย์ คาร์บอนที่เกิดการสูญเสียจากกระบวนการชะล้างพังทลายของดินและการพัดพาตะกอนได้เท่ากับ 1.06 0.08 0.90 และ 0.59 ตัน/เฮกแตร์/เดือน ตามลำดับ และผลการศึกษาครั้งนี้เป็นการประยุกต์ใช้สมการสูญเสียดินสากล และ อัตราส่วนการพัดอินทรีย์คาร์บอน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการประเมินการสูญเสียอินทรีย์คาร์บอนจาก กระบวนการชะล้างพังทลายของดินและการพัดพาตะกอนในภาพรวมเฉพาะแต่ละลุ่มน้ำได้ นอกจากนี้สามารถใช้ ปริมาณอินทรีย์คาร์บอนที่สูญเสียไปให้กลับคืนสู่พื้นที่ด้วยจากการจัดการพื้นที่โดยใช้วิธีอนุรักษ์ดินและน้ำเพื่อ ป้องกันการสูญเสียดิน และสามารถใช้ประเมินผลกระทบที่เกิดจากการสูญเสียคาร์บอนที่เก็บกักไว้ในดินต่อไปได้
บทคัดย่อ (EN): Soil is a significant source and sink of carbon. Soil can store carbon in the form of organic carbon. This natural carbon storage is stable and longer than in other sources, but after soil erosion, the soil organic carbon (SOC) is reduced because SOC is loss with eroded soil. The objective of this study was to determinate the carbon loss by soil erosion and sediment transport processes of Mae Tang watershed (Huay Ma Nai, Huay Mee, Huay Bong, and Huay Tong watershed) in Phrae Province during the rainy season from June to October 2005 by using Universal Soil Loss Equation (USLE), Sediment Delivery Ratio (SDR) and Carbon Delivery Ratio (CDR). The results of this study in four sub-watersheds were that, the SOC was about 2.06, 2.23, 2.21 and 1.50 in percentage, respectively or 0.07, 0.08, 0.08 and 0.05 tC/ha/month. The soil loss rates in four watersheds were 12.99, 16.99, 11.52 and 50.28 ton/ha/month, respectively. The SDR of four subwatersheds were 10.40, 1.11, 2.16 and 0.97 in percentage of eroded soil, respectively. The CDR of four sub-watersheds were 2.52, 1.08, 3.09 and 1.09 in percentage of total sediment delivered, respectively. The assessment of carbon loss from soil erosion and sediment delivery was 1.06, 0.08, 0.90 and 0.59 tC/ha/month, respectively. This study resulted from application of USLE and CDR to assess the carbon loss in the overall of each watershed. The carbon loss can be recovered by land management and soil and water conservation practices. Therefore, these processes can also be used to assess the impact from soil carbon loss.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=3038&obj_id=5199
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Phrae
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: ดินเป็นแหล่งเก็บกักและสะสมคาร์บอนที่สำคัญ สามารถกักเก็บคาร์บอนที่อยู่ในดินไว้ในรูปของ อินทรีย์คาร์บอน แต่เมื่อเกิดการชะล้างพังทลายของดินมีผลในการเปลี่ยนแปลงปริมาณอินทรีย์คาร์บอนที่กักเก็บ ในดิน เนื่องจากสูญเสียไปพร้อมกับหน้าดินที่ถูกชะล้างออกไปจากพื้นที่ ในการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ในการ ประเมินการสูญเสียอินทรีย์คาร์บอนในดินจากกระบวนการชะล้างพังทลายของดินและการพัดพาตะกอนของลุ่ม น้ำแม่ถาง (ลุ่มน้ำห้วยหมาไน ลุ่มน้ำห้วยหมี ลุ่มน้ำห้วยบงและลุ่มน้ำห้วยตอง) บริเวณจังหวัดแพร่ ในช่วงฤดูฝน ตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงเดือนตุลาคม พ.ศ. 2548 โดยใช้สมการสูญเสียดินสากล (USLE) อัตราส่วนการพัดพา ตะกอน (SDR) และอัตราส่วนการพัดคาร์บอน (CDR) จากการศึกษาพบว่า ลุ่มน้ำทั้ง 4 ลุ่มน้ำย่อย ได้แก่ มีปริมาณอินทรีย์คาร์บอนในดินเท่ากับร้อยละ 2.23 2.21 และ 1.50 ของปริมาณดิน หรือคิดเป็น 0.07 0.08 0.08 และ 0.05 ตัน/เฮกแตร์/เดือน ตามลำดับ มีอัตราการ สูญเสียดิน 12.99 16.36 11.52 และ 50.28 ตัน/เฮกแตร์/เดือน ตามลำดับ มีอัตราส่วนการพัดพาตะกอน มีค่าเท่ากับ ร้อยละ 10.40 1.11 2.16 และ 0.97 ของดินที่สูญเสียไป ตามลำดับ มีอัตราส่วนการพัดพาอินทรีย์คาร์บอน เท่ากับ ร้อยละ 2.52 1.08 3.09 และ 1.09 ของการพัดตะกอนทั้งหมด ตามลำดับและสามารถประเมินปริมาณอินทรีย์ คาร์บอนที่เกิดการสูญเสียจากกระบวนการชะล้างพังทลายของดินและการพัดพาตะกอนได้เท่ากับ 1.06 0.08 0.90 และ 0.59 ตัน/เฮกแตร์/เดือน ตามลำดับ และผลการศึกษาครั้งนี้เป็นการประยุกต์ใช้สมการสูญเสียดินสากล และ อัตราส่วนการพัดอินทรีย์คาร์บอน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการประเมินการสูญเสียอินทรีย์คาร์บอนจาก กระบวนการชะล้างพังทลายของดินและการพัดพาตะกอนในภาพรวมเฉพาะแต่ละลุ่มน้ำได้ นอกจากนี้สามารถใช้ ปริมาณอินทรีย์คาร์บอนที่สูญเสียไปให้กลับคืนสู่พื้นที่ด้วยจากการจัดการพื้นที่โดยใช้วิธีอนุรักษ์ดินและน้ำเพื่อ ป้องกันการสูญเสียดิน และสามารถใช้ประเมินผลกระทบที่เกิดจากการสูญเสียคาร์บอนที่เก็บกักไว้ในดินต่อไปได้
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การประเมินอินทรีย์คาร์บอนจากกระบวนการชะล้างพังทะลายของดินและการพัดพาตะกอน บริเวณลุ่มน้ำแม่ถาง อำเภอร้องกวาง จังหว
Haruthai Tippayachan
มหาวิทยาลัยมหิดล
2549
การประเมินมลพิษของแหล่งน้ำและดินตะกอนบริเวณปากอ่าวในเขตบางขุนเทียน การประยุกต์ mixture model ในการทำแผนที่ปริมาณของสารอินทรีย์ในดินตะกอนในบริเวณอ่าวไทย : ข้อมูลสำรวจ SEAFD การศึกษาการปรับปรุงดินเค็มที่พบในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน โดยวิธีการใช้น้ำชะล้างเกลือออกจากดิน การประเมินแนวทางการประยุกต์ใช้พลังงานหมุนเวียนที่เหมาะสมระดับชุมชนในพื้นที่ลุ่มน้ำ : กรณีศึกษาลุ่มน้ำแม่กลาง การเปลี่ยนแปลงตามเวลาของ Biogenic Silicate ในดินตะกอนบริเวณบางปะกงเอสทูรี การประเมินระดับความอ่อนไหวต่อการเกิดดินถล่ม บริเวณเทือกเขาคิชฌกูฎ จังหวัดจันทบุรี การใช้วิธี dehydrogenase assay ในการทดสอบความเป็นอันตรายของตะกอนดินในลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีภูมิสารสนเทศเพื่อประเมินตะกอนแขวนลอยบริเวณปากแม่น้ำบางปะกง ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์และแบบจำลองทางอุทกวิทยา เพื่อประเมินพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมบริเวณลุ่มน้ำแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ผลกระทบของโลหะหนักในดินตะกอนบริเวณคลองสาขาแม่น้ำแม่กลองต่อหอยเชอรี่
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก