สืบค้นงานวิจัย
การวิจัยสเตรปโตคอคคัสซูอิส เพื่อสุขอนามัยของผู้บริโภคและสนับสนุนการส่งออกสินค้าปศุสัตว์
พรเพ็ญ พัฒนโสภณ - กรมปศุสัตว์
ชื่อเรื่อง: การวิจัยสเตรปโตคอคคัสซูอิส เพื่อสุขอนามัยของผู้บริโภคและสนับสนุนการส่งออกสินค้าปศุสัตว์
ชื่อเรื่อง (EN): A research program of Streptococcus suis for public health and promotion of livestock product exportation
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: พรเพ็ญ พัฒนโสภณ
บทคัดย่อ: เชื้อ Streptococcus suis (S. suis) โดยเฉพาะ S. suis type 2 จัดเป็นโรคติดต่อระหว่างสัตว์ และคนซึ่งมีรายงานผู้ป่วยทั่วโลก S. suis ก่อโรคที่สำคัญในสุกรแต่สามารถพบเชื้อได้ในทางเดินหายใจ ส่วนต้นและต่อมทอนซิลของสุกรปกติ การศึกษาครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์ที่จะทราบสภาวะการพบเชื้อ S. suis โดยเฉพาะ S. suis type 2 ในสุกรปกติและผู้เลี้ยง โดยทำการเก็บตัวอย่างจากฟาร์มสุกร มาตรฐานและโรงฆ่าใน 6 จังหวัดในเขตภาคตะวันออก เขตสำนักสุขศาสตร์และสุขอนามัย (สสอ.) ที่ 2 และ 5 จังหวัดในภาคตะวันตกเขต สสอ. 7 รวม 40 ฟาร์ม 10 โรงฆ่าซึ่งครอบคลุมแหล่งเลี้ยงสุกรที่ใหญ่ ที่สุดของประเทศ ทำการเพาะแยกเชื้อและวินิจฉัยเชื้อโดยวิธีทดสอบทางชีวเคมี และ polymerase chain reaction (PCR) โดยใช้ไพรเมอร์ที่จำเพาะต่อ 16S rRNA เพื่อตรวจหา S. suis และใช้ capsular genes สำหรับตรวจหา S. suis type 2 ตรวจยืนยันทางซีรัมวิทยาด้วยแอนติซีรัมที่จำเพาะต่อ S. suis type 1 และ 2 ด้วยวิธี precipitation ใน capillary tubes ร่วมกับ slide agglutination ผลการศึกษา ตัวอย่างจากสุกรทั้งหมด 1,427 ตัวอย่าง ประกอบดัวยตัวอย่าง swab จมูกจากลูกสุกร 395 ตัวอย่าง สุกรขุน 390 ตัวอย่าง แม่สุกร 405 ตัวอย่าง ต่อมทอนซิลสุกรจากโรงฆ่า 237 ตัวอย่าง พบเชื้อ S. suis ในลูกสุกรและสุกรขุนใกล้เคียงกันคือ 33.4% และ 35.6% ตามลำดับ ในขณะที่พบในสุกรในโรงฆ่า และ แม่สุกร 14.3% และ 10.1% ตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบระหว่างสองเขต พบเชื้อ S. suis ในเขตสสอ. 2 น้อยกว่า สสอ. 7 ในทุกช่วงอายุทั้งในลูกสุกร (25.1% และ 41.5%) สุกรขุน (28.9% และ 43%) และแม่ สุกร ((8.3% และ 12%) ส่วนสุกรในโรงฆ่าพบใกล้เคียงกัน (14.3% และ 14.4%) ในขณะที่ไม่พบเชื้อ S. suis ใน swab คอของผู้เลี้ยงทั้งหมด 183 ตัวอย่าง ผลการตรวจหาเชื้อ S. suis type 2 พบ 0.3%, และ 0.5% ของตัวอย่างจากลูกสุกรและสุกรขุนตามลำดับแต่ไม่พบในสุกรจากโรงฆ่าและแม่สุกร เชื้อ S. suis ไวต่อยา amoxicillin + clavulanic acid (96.8%), amoxicillin (89.7%), cephalothin (89.1%) และ ampicillin (66.5%) การศึกษานี้บ่งชี้ว่าสุกรปกติในเขต สสอ. 2 และ 7 มีอัตราการเป็นพาหะต่อ S. suis ค่อนข้าง สูงโดยเฉพาะในลูกสุกร และสุกรขุนแต่เป็นพาหะต่อ S. suis type 2 ในระดับต่ำ
บทคัดย่อ (EN): Streptococcus suis (S. suis) especially S. suis type 2 is known as zoonotic agent. Infection in human was documented as worldwide. The organism is an important pig pathogen but can be harbored in nasal cavities and tonsils of apparently healthy pigs. The aim of this study was to find out the prevalence of S. suis and S. suis type 2 in normal pigs and the pig farmers. Samples were collected from 40 registered pig farms and 10 slaughter houses located in 6 and 5 provinces in the region of the 2nd Bureau of Animal Hygiene and Sanitary (BAHS 2) and BAHS 7, respectively, which are the highest pig production industry of the country. Bacterial isolation and biochemical identification were done together with polymerase chain reaction (PCR) using primers specific to 16S rRNA, and capsular gene type 2, additionally confirmed by precipitation in capillary tubes and slide agglutination with S. suis type 1 and 2 antisera. Totally 1,427 pig samples consisting of nasal swabs from 395 piglets, 390 fattening pigs and 405 sows, and 237 tonsil samples from slaughterhouses were investigated. The results revealed that the prevalence of S. suis from piglet and fattening pig samples were 33.4% and 35.6%, respectively, while those of the slaughtered pigs and sows were 14.3% and 10.1%, respectively. In addition, lower prevalence of S. suis in BAHS 2 compare to that of BAHS 7 was noticed in piglets (25.1% versus 41.5%), fattening pigs (28.9% versus 43%) and sows (8.3% versus 12%), excepted for slaughtered pigs (14.3% versus 14.4%). While S. suis was not found in 183 throat swabs from pig farmers. S. suis type 2 was found in 0.3% and 0.5% of the nasal swabs from piglets and fattening pigs, but it was not found in slaughtered pigs and sows. The S. suis isolates were sensitive to amoxicillin + clavulanic acid (96.8%), amoxicillin (89.7%), cephalothin (89.1%) and ampicillin (66.5%). The study indicated that the prevalence of S. suis was proportionally high in apparently healthy piglets and fattening pigs in BAHS 2 and BAHS 7 but the prevalence of S. suis type 2 was relatively low.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: https://tnrr.nriis.go.th/#/services/research-report/detail/1000101
เผยแพร่โดย: กรมปศุสัตว์
คำสำคัญ: สนับสนุนการส่งออกสินค้าปศุสัตว์
คำสำคัญ (EN): livestock product exportation
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การวิจัยสเตรปโตคอคคัสซูอิส เพื่อสุขอนามัยของผู้บริโภคและสนับสนุนการส่งออกสินค้าปศุสัตว์
กรมปศุสัตว์
30 กันยายน 2552
กรมปศุสัตว์
ความต้องการฝึกอบรมของอาสาปศุสัตว์ในพื้นที่สำนักสุขศาสตร์สัตว์และสุขอนามัยที่ 8 ปี 2550 การศึกษาแนวทางการพัฒนาปศุสัตว์อินทรีย์ในประเทศไทย การตรวจหายาปฏิชีวนะตกค้างในเนื้อสุกรจากโรงฆ่าสัตว์ ในพื้นที่สำนักสุขศาสตร์สัตว์และสุขอนามัยที่ 8 แนวทางการใช้สมุนไพรในปศุสัตว์ประเทศไทย การระบาดของโรคสเตปโตคอคโคซิสในปลานิล ผลการดำเนินงานกิจกรรมส่งเสริมการเลี้ยงไก่ไข่ในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ในพื้นที่สำนักสุขศาสตร์สัตว์และสุขอนามัยที่ 8 ปัจจัยที่มีผลต่อการซื้อสินค้าเกษตรปลอดสารพิษของผู้บริโภค ผ่านทางตลาดสินค้าออนไลน์ พฤติกรรมผู้บริโภคในการซื้อสินค้าเกษตรอินทรีย์: กรณีศึกษาผู้บริโภคในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล การศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการตรวจพบโรคพิษสุนัขบ้า จากรายงานผลการตรวจโรคพิษสุนัขบ้าของห้องปฏิบัติการในพื้นที่สำนักสุขศาสตร์สัตว์และสุขอนามัยที่ 2 การสำรวจเชื้อวัลโมเนลล่าในเนื้อสุกรและเนื้อไก่จากโรงฆ่าสัตว์ ในพื้นที่สำนักสุขศาสตร์สัตว์และสุขอนามัยที่ 8
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก