สืบค้นงานวิจัย
ผลของการใช้ปุ๋ยชีวภาพและการไม่ไถพรวนร่วมกับพืชคลุมดินเพื่อการผลิตข้าวโพดหวานพันธุ์ไฮบริกซ์ 3 บนชุดดินที่ 4 จังหวัดพิจิตร
ธิปไตย ไตรโภค - กรมพัฒนาที่ดิน
ชื่อเรื่อง: ผลของการใช้ปุ๋ยชีวภาพและการไม่ไถพรวนร่วมกับพืชคลุมดินเพื่อการผลิตข้าวโพดหวานพันธุ์ไฮบริกซ์ 3 บนชุดดินที่ 4 จังหวัดพิจิตร
ชื่อเรื่อง (EN): Effect of Bio-fertilizers and No-tillage Systems with Cover Crop for Sweet Corn (Hybrix 3) Production on Soil series no.4 Pichit Province
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ธิปไตย ไตรโภค
บทคัดย่อ: ผลของการใช้ปุ๋ยชีวภาพและการไม่ไถพรวนร่วมกับพืชคลุมดินเพื่อการผลิตข้าวโพดหวานพันธุ์ ไฮบริกซ์ 3 มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการใช้ปุ๋ยชีวภาพและการไม่ไถพรวนแปลงร่วมกับการปลูกพืช คลุมดิน ศึกษา การเปลี่ยนแปลงสมบัติของดิน ทงเคมี ของดินก่อนปลูกและหลังเก็บเ กี่ยว และศึกษา คุณภาพผลผลิตในแต่ละตำรับทดลอง ทำการทดลองในกลุ่มชุดดินที่ แปลงเกษตรกรบ้าน หนองน้ำเขียว หมู่ที่ 5 ตำบลรังนก อำเภอสามงำม จังหวัดพิจิตร ระหว่างเดือนตุลาคม 2552 ถึงเดือนกันยายน 2554 โดยวางแผนการทดลองแบบ Split Plot in Randomized Complete Block Design จำนวน 3 ซ้ำ Main plot ประกอบด้วย 2 ปัจจัยหลัก คือ วิธีการที่ 1 การไถพรวนแปลงตามปกติ และวิธีการที่ 2 การไม่ ไถพรวนแปลงร่วมกับการปลูกพืชคลุมดิน Sub plot ประกอบด้วย 5 ปัจจัยรอง คือ ตำรับที่ 1 ไม่ใส่ปุ๋ย ชีวภาพ ตำรับที่ 2 ใส่ปุ๋ยชีวภาพ (พด.12) อัตรา 100 กิโลกรัมต่อไร่ ตำรับที่ 3 ใส่ปุ้ยชีวภาพ (พด.12) อัตรา 200 กิโลกรัมต่อไร่ ตำรับที่ 4 ใส่ปุ๋ยชีวภาพ (พด.12) อัตรา 300 กิโลกรัมต่อไร่ ตำรับที่ 5 ใส่ปุ๋ย ชีวภาพ (พด.12) อัตรา 400 กิโลกรัมต่อไร่ ผลการศึกษาพบว่า ผลผลิตข้าวโพดหวาน ไม่พบพบอิทธิพลร่วม ระหว่าง Main plot คือ วิธีการ ไถพรวนแปลง กับ Sub plot คือ ตำรับการใส่ปุ๋ยชีวภาพ โดยวิธีการไม่ไถพรวนแปลงร่วมกับการปลูกพืช คลุมดินจะให้ผลผลิตสูงกว่าการไถพรวนแปลงตามปกติ โดยตำรับการใส่ปุ๋ยชีวภาพที่ 4 จะให้น้ำหนัก ผลผลิตข้าวโพดหวานเฉลี่ยสูงที่สุด 1257.83 กิโลกรัมต่อไร่ และตำรับก ารใส่ปุ๋ยชีวภาพที่ 2 จะให้น้ำหนัก ผลผลิตข้าวโพดหวานต่ำที่สุด 126.67 กิโลกรัมต่อไร่ ส่วนความหวานของข้าวโพดหวานนั้นวิธีการไม่ไถ พรวนแปลงร่วมกับการปลูกพืชคลุมดินจะให้ความค่าเฉลี่ยความหวานสูงกว่าการไถพรวนแปลงตามปกติ โดยตำรับการใส่ปุยชีวภาพที่ 1 จะให้ค่าเฉลี่ยคว ามหวานมากที่สุด 14 องศาบริกซ์ และตำรับการใส่ปุ๋ย ชีวภาพที่ 3 จะให้ค่าเฉลี่ยความหวานน้อยที่สุด 13.34 องศาบริกซ์ ส่วนการเปลี่ยนแปลงสมบัติทางเคมี ของ ดินนั้นตำรับการใส่ปุยชีวภาพที่ 1 ค่าเฉลี่ยค่ำความเป็นกรดเป็นด่างของดินสูงที่สุดคือ 5.25 และค่าเฉลี่ย ปริมาณธาตุโพแทสเซียมที่แลกเปลี่ยนได้ ของดินสูงที่สุดคือ 37.3 ส่วนตำรับการใส่ปุ๋ยชีวภาพที่ 4 ค่าเฉลี่ย อินทรียวัตถุของดินสูงที่สุดคือ 3.75 และค่าเฉลี่ยปริมาณธาตุฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ ของดินสูงที่สุดคือ 3.7 นอกจากนี้ตำรับการใส่ปุยชีวภาพที่ 2 ค่าเฉลี่ยค่าความเป็นกรดเป็น ด่างของดินต่ำที่สุดคือ 4.45 ตำรับ การใส่ปุยชีวภาพที่ 1 และ 3 ค่าเฉลี่ยอินทรียวัตถุของดินต่ำที่สุดคือ 3.05 ตำรับการใส่ปุ๋ยชีวภาพที่ 4 และ ตำรับการใส่ปุยชีวภาพที่ 5 ค่าเฉลี่ยปริมาณธาตุฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ ของดินต่ำที่สุดคือ 2.35 ตำรับ การใส่ปุยชีวภาพที่ 1 และตำรับการใส่ปุยชีวภาพที่ 2 ค่เฉลี่ยปริมาณธาตุโพแทสเซียมที่แลกเปลี่ยนได้ ของดินต่ำที่สุดคือ 26.0
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมพัฒนาที่ดิน
คำสำคัญ: จังหวัดพิจิตร
คำสำคัญ (EN): Pichit Province
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ผลของการใช้ปุ๋ยชีวภาพและการไม่ไถพรวนร่วมกับพืชคลุมดินเพื่อการผลิตข้าวโพดหวานพันธุ์ไฮบริกซ์ 3 บนชุดดินที่ 4 จังหวัดพิจิตร
กรมพัฒนาที่ดิน
30 กันยายน 2554
สภาพการผลิตและการตลาดข้าวขาวดอกมะลิ 105 ในจังหวัดพิจิตร รายงานผลการศึกษาสภาพการผลิตกระเจี๊ยบเขียวเพื่อส่งออก จังหวัดพิจิตร การผลิต การตลาด และความต้องการใช้ดาหลาในพื้นที่ภาคใต้ สภาพการผลิตข้าวโพดหวานของเกษตรกรตำบลห้วยแอ่ง อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม สภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรในอำเภอประจักษ์ศิลปาคม จังหวัดอุดรธานี ผลของการใช้ปุ๋ยชีวภาพร่วมกับปุ๋ยเคมีที่มีผลต่อผลผลิตของกะหล่ำปลี การใช้ปุ๋ยอินทรีย์จากกากตะกอนบ่อน้ำทิ้งร่วมกับปุ๋ยชีวภาพ พด.12 ในการผลิตมันสำปะหลัง การผลิตและการใช้ประโยชน์จากบอระเพ็ด ผลของการใช้ปุ๋ยหมักชีวภาพต่อการผลิตข้าวโพดฝักอ่อนอินทรีย์ในชุดดิน กำแพงเพชร การเพิ่มผลผลิตและคุณภาพข้าวโพดหวานโดยวิธีเขตกรรม
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก