สืบค้นงานวิจัย
การเลี้ยงปลาเสือพ่นน้ำในกระชังด้วยอัตราความหนาแนนต่างกัน
นิภา กาลศรี - กรมประมง
ชื่อเรื่อง: การเลี้ยงปลาเสือพ่นน้ำในกระชังด้วยอัตราความหนาแนนต่างกัน
ชื่อเรื่อง (EN): Cage Culture of Archer Fish (Toxotes chatareus Hamilton, 1822) at Different Stocking Densities
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: นิภา กาลศรี
ผู้ร่วมงาน / ผู้ร่วมวิจัย:
  1. อัครเดช นาคประดิษฐ์
  2. วรัณยู ขุนเจริญ
  3. รัตน์กาญจน์ ฤดีเจริญสกุล
คำสำคัญ:
  1. ปลาเสือพ่นน้ำ
  2. การเลี้ยง
  3. กระชัง
  4. ความหนาแน่น
คำสำคัญ (EN):
  1. Archer fish
  2. Culture
  3. Cage
  4. Density
บทคัดย่อ: การเลี้ยงปลาเสือพ่นน้ำในกระชังด้วยอัตราความหนาแน่นต่างกัน 3 ระดับ คือ 100, 200 และ 300 ตัวต่อตารางเมตร ในกระชังขนาด 1x2x1.2 เมตร กระชังส่วนที่จมน้ำ 1 เมตร วางกระชังในบ่อขนาด 10 ไร่ ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดกําแพงเพชร ลูกปลาเสือพ่นน้ำมีความยาวเริ่มต้นเฉลี่ย 3.41±0.43, 3.36±0.48 และ 3.46±0.47 เซนติเมตร และน้ำหนักเริ่มต้นเฉลี่ย 0.73±0.28, 0.74±0.28 และ 0.72±0.42 กรัม ตามลําดับ ให้ปลาทดลองกินอาหารเม็ดสําเร็จรูปชนิดเม็ดลอยน้ำระดับโปรตีนไม่ต่ำกว่า 38 เปอร์เซ็นต์ โดยให้กินจนอิ่มวันละ 2 ครั้ง เวลา 09.00 น. และ 17.00 น. ทดลองเลี้ยงระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2553 ถึง เดือนมกราคม 2554 เป็นระยะเวลา 3 เดือน ผลการทดลองพบว่า ลูกปลาเสือพ่นน้ำที่เลี้ยงด้วยอัตราความหนาแน่นต่างกัน 3 ระดับ มีความ ยาวสุดท้ายเฉลี่ยเท่ากับ 6.15±0.82, 6.04±0.86 และ 5.65±0.78 เซนติเมตร น้ำหนักสุดท้ายเฉลี่ยเท่ากับ 5.16±2.38, 4.91±2.09 และ 4.13±1.67 กรัม ความยาวเพิ่มเฉลี่ยต่อวันเท่ากับ 0.030±0.010, 0.029±0.011 และ 0.024±0.009 เซนติเมตรต่อวัน และน้ำหนักเพิ่มเฉลี่ยต่อวันเท่ากับ 0.049±0.026, 0.046±0.023 และ 0.037±0.017 กรัมต่อวัน และอัตราการเจริญเติบโตจําเพาะเฉลี่ยเท่ากับ 2.16±0.59, 2.08±0.63 และ 2.03±0.66 เปอร์เซ็นต์ต่อวัน ตามลําดับ เมื่อวิเคราะห์ผลทางสถิติพบว่า ความยาวสุดท้ายเฉลี่ย น้ำหนักสุดท้าย เฉลี่ย ความยาวเพิ่มเฉลี่ยต่อวัน น้ำหนักเพิ่มเฉลี่ยต่อวัน และอัตราการเจริญเติบโตจําเพาะเฉลี่ยของปลา เสือพ่นน้ำที่เลี้ยงด้วยอัตราความหนาแน่น 100 และ 200 ตัวต่อตารางเมตร พบว่าไม่แตกต่างกันทางสถิติ (p>0.05) แตแตกต่างอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (p<0.05) กับปลาเสือพ่นน้ำที่เลี้ยงด้วยอัตราความหนาแน่น 300 ตัวต่อตารางเมตร สําหรับอัตราการรอดตายเฉลี่ยเท่ากับ 83.67±5.48, 75.00±2.18 และ 60.33±12.24 เปอร์เซ็นต์ ตามลําดับ เมื่อวิเคราะห์ผลทางสถิติพบว่า อัตราการรอดตายเฉลี่ยของปลาเสือพ่นน้ำที่เลี้ยงด้วย อัตราความหนาแน่น 100 ตัวต่อตารางเมตร แตกต่างอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (p<0.05) กับปลาเสือพ่นน้ำที่ เลี้ยงด้วยอัตราความหนาแน่น 300 ตัวต่อตารางเมตร ส่วนปลาเสือพ่นน้ำที่เลี้ยงด้วยอัตราความหนาแน่น 200 ตัวต่อตารางเมตร มีอัตราการรอดตายเฉลี่ยไม่แตกต่างกันทางสถิติ (p>0.05) กับปลาเสือพ่นน้ำที่เลี้ยงด้วย อัตราความหนาแน่น 100 และ 300 ตัวต่อตารางเมตร ผลการวิเคราะห์จุดคุ้มทุนในการเลี้ยงปลาเสือพ่นน้ำด้วย อัตราความหนาแน่นต่างกัน 3 ระดับ พบว่ามีค่าเท่ากับ 29.91, 20.71 และ 23.26 บาทต่อตัว ตามลําดับ จาก ผลการทดลองครั้งนี้เมื่อพิจารณาจากอัตราการเจริญเติบโต อัตราการรอดตาย และต้นทุนการผลิต สรุปได้ว่า การเลี้ยงปลาเสือพ่นน้ำในกระชังด้วยอัตราความหนาแน่น 200 ตัวต่อตารางเมตร มีความเหมาะสมมากที่สุด
บทคัดย่อ (EN): Cage culture of Archer fish (Toxotes chatareus Hamilton, 1822) with three stocking densities at 100, 200 and 300 individual/m^2 were studied at Kamphengphet Inland Fisheries Research and Development Center. Fish had initial sizes of 3.41±0.43, 3.36±0.48 and 3.46±0.47 cm and 0.73±0.28, 0.74±0.28 and 0.72±0.42 g, respectively. Fish were stocked in nine of 1x2x1.2 m cages. Fish were fed with 38 % protein commercial floating pellet at apparent satiation twice daily at 9.00 AM and 5.00 PM during November 2010 to January 2011 for 3 months. The results showed that the average final body length were 6.15±0.82, 6.04±0.86 and 5.65±0.78 cm, the average final body weights were 5.16±2.38, 4.91±2.09 and 4.13±1.67 g, the average daily length gain were 0.030±0.010, 0.029±0.011 and 0.024±0.009 cm/day, the average daily weight gain were 0.049±0.026, 0.046±0.023 and 0.037±0.017 g/day, the average specific growth rate were 2.16±0.59, 2.08±0.63 and 2.03±0.66 %/day, respectively. While the survival rate were 83.67±5.48, 75.00±2.18 and 60.33±12.24 %, respectively. The growth parameters of fish at 100 and 200 individual/m^2 had significantly higher (p<0.05) than 300 individual/m^2 . Whereas the fish of 100 and 200 individual/m^2 had no significant differences (p>0.05) among the treatments. For the survival rate of 100 individual/m^2 had significantly higher (p<0.05) than 300 individual/m^2 , While fish of 200 individual/m^2 had no significant differences (p>0.05) from 100 and 300 individual/m^2. Economically, the break-even prices were 29.91, 20.71 and 23.26 baht/fish, respectively. In conclusion, cage culture of Archer fish at 200 individual/m^2 is suitable for culture when growth and production cost are considered.
วิธีการจ้างทำงานวิจัย: ได้รับทุนวิจัย
ปีเริ่มต้นงานวิจัย: 2552-10-01
ปีสิ้นสุดงานวิจัย: 2554-09-30
เอกสารแนบ: https://elibonline.fisheries.go.th/elib/cgi-bin/opacexe.exe?op=dsp&wa=B31D1B4&bid=3083&qst=%4059709%2C%4059740%2C%5E%2C%4059863%2C%5E%2C%4060843%2C%5E%2C%4068059%2C%5E%2C%4059781%2C%5E&lang=0&db=Main&pat=%A1%D2%C3%E0%C5%D5%E9%C2%A7%BB%C5%D2%E0%CA%D7%CD%BE%E8%B9%B9%E9%D3&cat=gen&skin=s&lpp=20&catop=&scid=zzz
ลิขสิทธิ์: แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย (CC BY-NC-ND 3.0 TH)
เผยแพร่โดย: กรมประมง
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

นิภา กาลศรี. "การเลี้ยงปลาเสือพ่นน้ำในกระชังด้วยอัตราความหนาแนนต่างกันCage Culture of Archer Fish (Toxotes chatareus Hamilton, 1822) at Different Stocking Densities". กรมประมง. 2554

นิภา กาลศรี. "การเลี้ยงปลาเสือพ่นน้ำในกระชังด้วยอัตราความหนาแนนต่างกันCage Culture of Archer Fish (Toxotes chatareus Hamilton, 1822) at Different Stocking Densities". กรมประมง. 2554. Print.



TARR Wordcloud:
การเลี้ยงปลาเสือพ่นน้ำในกระชังด้วยอัตราความหนาแนนต่างกัน
นิภา กาลศรี
กรมประมง
30 กันยายน 2554
เอกสารแนบ 1
เอกสารแนบ 2
กรมประมง
ผลของการเลี้ยงปลาในกระชังต่อสังคมของแพลงก์ตอนและการเปลี่ยนแปลงคุณภาพน้ำในรอบวัน โครงการวิจัยและพัฒนาการเลี้ยงไส้เดือนดิน : กรณีศึกษา กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาเศรษฐกิจในกระชัง อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม ความถี่ที่เหมาะสมในการให้อาหารของการเลี้ยงปลาตะกรับ (Scatophagus argus Linnaeus, 1766) ในกระชังที่แขวนในบ่อดิน แนวทางการเพิ่มผลผลิตการเลี้ยงปลาบึกในบ่อดินและในกระชัง เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่เกษตรกร ความสัมพันธ์ของแพลงก์ตอนกับคุณภาพน้ำในแหล่งน้ำบริเวณกระชังเลี้ยงปลาทับทิมในแม่น้ำน่าน จังหวัดพิษณุโลก การศึกษาระบบอาหารเลี้ยงกุ้งก้ามกรามในกระชัง การเลี้ยงปลากะรังจุดฟ้า Plectropomus leopardus (Lacepede, 1802) ขนาด 200 กรัม ในกระชังด้วยความหนาแน่นต่างกัน 2 ระดับ การศึกษาระบบการเลี้ยงที่เหมาะสมสำหรับการเลี้ยงกุ้งก้ามกรามในกระชัง การใช้มันสำปะหลังผสมในอาหารสำหรับเลี้ยงปลาแรดในกระชัง คุณภาพน้ำและตะกอนดินบางประการของแหล่งเลี้ยงปลาในกระชังคลองโคกเคียน จังหวัดนราธิวาส

แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย (CC BY-NC-ND 3.0 TH)
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair