สืบค้นงานวิจัย
การจัดการกลุ่มชุดดินที่ 45 ด้วยผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชีวภาพของกรมพัฒนาที่ดินเพื่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของยางพาราช่วงเปิดกรีด
ณัฐวุฒิ จุลสงค์ - กรมพัฒนาที่ดิน
ชื่อเรื่อง: การจัดการกลุ่มชุดดินที่ 45 ด้วยผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชีวภาพของกรมพัฒนาที่ดินเพื่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของยางพาราช่วงเปิดกรีด
ชื่อเรื่อง (EN): Soil series 45 management by biotechnologyproductsofLand Development Department on Growth ofPara RubberTapping
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ณัฐวุฒิ จุลสงค์
บทคัดย่อ: การจัดการกลุ่มชุดดินที่ 45 ด้วยผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชีวภาพของกรมพัฒนาที่ดินเพื่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของยางพาราช่วงเปิดกรีด โดยดำเนินการทดลองในแปลงเกษตรกร พื้นที่หมู่ที่ 4 ตำบลช้างกลาง อำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช ระหว่างปี 2552-2554 พบว่า การเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติทางเคมีของดินหลังการทดลอง พบว่า ที่ระดับความลึกของดิน 0-15 และ 15-30 เซนติเมตร พบว่า ค่าความเป็นกรดเป็นด่างของดินทุกวิธีการจัดการดินหลังการทดลองมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นและสูงมากกว่าดินก่อนการทดลอง ซึ่งวิธีการจัดการดินโดยใส่ปุ๋ยเคมีอัตราครึ่งหนึ่งตามค่าวิเคราะห์ดินร่วมกับการใส่ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง จะมีผลทำให้ค่าความเป็นกรดเป็นด่างของดินเพิ่มสูงขึ้นมากที่สุดเท่ากับ 5.10 และ 4.59 ตามลำดับ จัดอยู่ในระดับกรดจัด สำหรับปริมาณอินทรียวัตถุของดินหลังการทดลองระดับความลึกของดิน 0-15 และ 15-30 เซนติเมตร พบว่า วิธีการจัดการดินที่มีการใส่ปุ๋ยอินทรีย์จะมีค่าปริมาณอินทรียวัตถุเพิ่มสูงขึ้นรวมทั้งมีค่าสูงมากกว่าดินก่อนการทดลองและดินที่มีการใส่ปุ๋ยเคมีเพียงอย่างเดียว ซึ่งวิธีการจัดการดินโดยใส่ปุ๋ยเคมีอัตราครึ่งหนึ่งตามค่าวิเคราะห์ดินร่วมกับการใส่ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงจะมีปริมาณอินทรียวัตถุของดินหลังการทดลองมากที่สุด เท่ากับ 2.64 และ 1.95 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ ส่วนปริมาณฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมของดินหลังการจัดการดินทุกวิธีการมีค่าเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าดินก่อนการทดลอง ซึ่งวิธีการจัดการดินแบบเกษตรกร จะมีค่าเพิ่มสูงขึ้นมากที่สุดเท่ากับ 13.17 และ 7.68 , 60.3 และ 45.5 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม จัดอยู่ในระดับปานกลางและต่ำ , ปานกลางและปานกลาง ตามลำดับ นอกจากนี้ค่าเฉลี่ยเส้นรอบวงลำต้น ค่าเฉลี่ยเปอร์เซ็นต์เนื้อยางแห้ง ค่าเฉลี่ยน้ำหนักน้ำยางสดของยางพาราที่มีการจัดการดินแบบวิธีเกษตรกรจะมีค่าเฉลี่ยมากที่สุดเท่ากับ 60.1 เซนติเมตร 28.0 เปอร์เซ็นต์ และ 390.4 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี ซึ่งมีค่าใกล้เคียงกับวิธีการจัดการดินโดยใส่ปุ๋ยเคมีอัตราครึ่งหนึ่งตามค่าวิเคราะห์ดินร่วมกับการใส่ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมพัฒนาที่ดิน
คำสำคัญ: สำหรับผลิตเชื้อจุลินทรีย์ควบคุมเชื้อสาเหตุโรครากและโคนเน่าของพืช
คำสำคัญ (EN): SuperLdd.3
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การจัดการกลุ่มชุดดินที่ 45 ด้วยผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชีวภาพของกรมพัฒนาที่ดินเพื่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของยางพาราช่วงเปิดกรีด
กรมพัฒนาที่ดิน
30 กันยายน 2554
การจัดการกลุ่มชุดดินที่ 45 ด้วยผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชีวภาพของกรมพัฒนาที่ดินเพื่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของยางพาราในพื้นที่ภาคใต้ตอนบนของประเทศไทย ผลของจุลินทรีย์ พด.11 สำหรับปอเทือง ร่วมกับผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชีวภาพของกรมพัฒนาที่ดินต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของข้าวพันธุ์ กข 21 ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เปรียบเทียบการใช้ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชีวภาพของกรมพัฒนาที่ดินชนิดต่างๆเพื่อ เพิ่มผลผลิตอ้อยอย่างยั่งยืน การเจริญเติบโตและผลผลิตของข้าวโพดข้าวเหนียวในดินจังหวัดพัทลุง ผลของการใช้เทคโนโลยีชีวภาพร่วมกับปุ๋ยเคมีต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตยางพาราในกลุ่มชุดดินที่ 39 การจัดการดินโดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงร่วมกับปุ๋ยเคมีต่อการเจริญเติบโตและคุณภาพน้ำยางพาราในพื้นที่เขตพัฒนาที่ดินจังหวัดอุตรดิตถ์ การศึกษาเปรียบเทียบการเจริญเติบโตและผลผลิตมะขาม 19 พันธุ์ อายุ 4 ปี ในสถานีวิจัยปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา การทดสอบสาธิตการใช้ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชีวภาพของกรมพัฒนาที่ดินในการปรับปรุงบำรุงดินเพื่อเพิ่มผลผลิตสบู่ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในกลุ่มชุดดินที่ 48 การจัดการดินและปุ๋ยเพื่อเพิ่มผลผลิตและผลตอบแทนทางเศรษฐกิจของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่เขตพัฒนาที่ดิน จังหวัดอุตรดิตถ์ (กลุ่มชุดดินที่ 35) การศึกษาผลของไคตินต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของงาดำ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก