สืบค้นงานวิจัย
สุขภาพจิตและคุณภาพชีวิตของผู้เสพพืชกระท่อม
Netnapit Chantawattana - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: สุขภาพจิตและคุณภาพชีวิตของผู้เสพพืชกระท่อม
ชื่อเรื่อง (EN): Mental health and quality of life in Kratom users
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Netnapit Chantawattana
บทคัดย่อ: การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงสุขภาพจิตและคุณภาพชีวิตของผู้เสพพืช กระท่อมที่เข้ารับการบำบัดรักษา ผู้เสพพืชกระท่อมที่ไม่ได้เข้ารับการบำบัดรักษาและประชากร ทั่วไปที่ไม่ได้เสพพืชกระท่อม ผลมาเปรียบเทียบกันและหาความสัมพันธ์ระหว่างสุขภาพจิต และ คุณภาพชีวิตของผู้เสพพืชกระท่อมกับปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเสพพืชกระท่อมที่แตกต่างกัน เก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 93 คนโดยใช้แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ การใช้พืชกระท่อม แบบสำรวจสุขภาพจิตสำหรับคนไทย และแบบวัดคุณภาพชีวิตสำหรับคนไทย ฉบับรูปภาพ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน One-Way ANOVA,ค่าสัมประสิทธิ์ความสัมพันธ์แบบเพียร์สันและทดสอบไคสแควร์ เมื่อเปรียบเทียบกลุ่ม ตัวอย่างทั้ง3กลุ่มพบว่ามีสุขภาพจิตแตกต่างกันในทุกด้านอย่างมีนัยสำคัญ พบว่าความถี่ ระยะเวลา และปริมาณที่เสพพืชกระท่อมมีความสัมพันธ์ทางบวกกับสุขภาพจิตอย่างมีนัยสำคัญ ระดับคุณภาพ ชีวิตของกลุ่มเสพพืชกระท่อมที่เข้ารับการบำบัดรักษาต่ำกว่าอีก 2 กลุ่ม โดยทั้ง 3 กลุ่มมีคุณภาพชีวิต แตกต่างกันอย่างมีระดับนัยสำคัญ พบว่าความถี่และระยะเวลาในการใช้พืชกระท่อม มีความสัมพันธ์ ทางลบกับคุณภาพชีวิตของกลุ่มเสพพืชกระท่อมอย่างมีนัยสำคัญ แต่ปริมาณที่เสพพืชกระท่อมไม่มี ความสัมพันธ์กับคุณภาพชีวิตทุกด้านอย่างมีนัยสำคัญ ผลการวิจัยทำให้ทราบว่าผู้เสพพืชกระท่อมมีสุขภาพจิตและคุณภาพชีวิตแตกต่างจากผู้ที่ ไม่ได้เสพพืชกระท่อม ดังนั้นจึงควรจะเผยแพร่ข้อมูลนี้ให้สังคมได้ตระหนักในโทษพิษภัยของพืช กระท่อมว่าถ้ามีการเสพพืชกระท่อมเป็นประจำ ปริมาณมากอย่างต่อเนื่องยาวนาน ก็จะเกิดการเสพติด และมีผลต่อสุขภาพจิตและคุณภาพชีวิตของผู้เสพอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
บทคัดย่อ (EN): Kratom is a plant indigenous to South - East Asia. The leaves are chewed or brewed with water for their narcotic effect. This is a descriptive research to study the mental health and quality of life of Kratom users receiving treatment, Kratom users not receiving treatment and the general non-Kratom using public. Data was collected for 93 subjects using the personal information form, information about Kratom use questionnaire, the Thai Mental Health Questionnaire (TMHQ) and the Pictorial Thai Quality of Life questionnaire (PTQL). The Data was analyzed by frequency, percentage, mean, standard deviation, one-way ANOVA, Pearson Product-Moment Correlation Coefficient and Chi-Square test. The research results on the three groups showed differences in mental health between them. Frequency, duration and quantity of Kratom use were significantly correlated to mental health. All three groups had a significantly different quality of life. Greater frequency and duration were significantly negatively correlated to quality of life, but quantity was not related to quality of life. The study showed that regular consumption in large quantities over a long period of time will result in dependency and inevitably affect the mental health and the quality of life of its users. Therefore information should be disseminated to raise social awareness concerning the harmful effect of Kratom.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=5230&obj_id=3719
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Mitragyna
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงสุขภาพจิตและคุณภาพชีวิตของผู้เสพพืช กระท่อมที่เข้ารับการบำบัดรักษา ผู้เสพพืชกระท่อมที่ไม่ได้เข้ารับการบำบัดรักษาและประชากร ทั่วไปที่ไม่ได้เสพพืชกระท่อม ผลมาเปรียบเทียบกันและหาความสัมพันธ์ระหว่างสุขภาพจิต และ คุณภาพชีวิตของผู้เสพพืชกระท่อมกับปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเสพพืชกระท่อมที่แตกต่างกัน เก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 93 คนโดยใช้แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ การใช้พืชกระท่อม แบบสำรวจสุขภาพจิตสำหรับคนไทย และแบบวัดคุณภาพชีวิตสำหรับคนไทย ฉบับรูปภาพ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน One-Way ANOVA,ค่าสัมประสิทธิ์ความสัมพันธ์แบบเพียร์สันและทดสอบไคสแควร์ เมื่อเปรียบเทียบกลุ่ม ตัวอย่างทั้ง3กลุ่มพบว่ามีสุขภาพจิตแตกต่างกันในทุกด้านอย่างมีนัยสำคัญ พบว่าความถี่ ระยะเวลา และปริมาณที่เสพพืชกระท่อมมีความสัมพันธ์ทางบวกกับสุขภาพจิตอย่างมีนัยสำคัญ ระดับคุณภาพ ชีวิตของกลุ่มเสพพืชกระท่อมที่เข้ารับการบำบัดรักษาต่ำกว่าอีก 2 กลุ่ม โดยทั้ง 3 กลุ่มมีคุณภาพชีวิต แตกต่างกันอย่างมีระดับนัยสำคัญ พบว่าความถี่และระยะเวลาในการใช้พืชกระท่อม มีความสัมพันธ์ ทางลบกับคุณภาพชีวิตของกลุ่มเสพพืชกระท่อมอย่างมีนัยสำคัญ แต่ปริมาณที่เสพพืชกระท่อมไม่มี ความสัมพันธ์กับคุณภาพชีวิตทุกด้านอย่างมีนัยสำคัญ ผลการวิจัยทำให้ทราบว่าผู้เสพพืชกระท่อมมีสุขภาพจิตและคุณภาพชีวิตแตกต่างจากผู้ที่ ไม่ได้เสพพืชกระท่อม ดังนั้นจึงควรจะเผยแพร่ข้อมูลนี้ให้สังคมได้ตระหนักในโทษพิษภัยของพืช กระท่อมว่าถ้ามีการเสพพืชกระท่อมเป็นประจำ ปริมาณมากอย่างต่อเนื่องยาวนาน ก็จะเกิดการเสพติด และมีผลต่อสุขภาพจิตและคุณภาพชีวิตของผู้เสพอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
สุขภาพจิตและคุณภาพชีวิตของผู้เสพพืชกระท่อม
Netnapit Chantawattana
มหาวิทยาลัยมหิดล
2552
คุณภาพชีวิตการทำงานของแรงงานในภาคเกษตรกรรม คุณภาพชีวิตของกลุ่มผู้ประกอบอาชีพแกะสลักไม้และกลุ่มลูกจ้างในโรงงานอุตสาหกรรม การเปรียบเทียบผลกระทบต่อสุขภาพทางกายแบบเฉียบพลันจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ระหว่างกลุ่มที่ได้รับความรู้ กับกลุ่มที่ไม่ได้รับความรู้GAP พืชของเกษตรกรผู้ปลูกคะน้า จังหวัดอุบลราชธานี การผลิตและคุณภาพของผงพืชสกัดจากใบตำลึง. ความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการใช้และการป้องกันอันตรายจากการใช้สารกำจัดศัตรูพืชกับภาวะสุขภาพของผู้รับจ้างฉีดพ่นสารกำจัดศัตรูพืชในนาข้าว จังหวัดชัยนาท จิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติของผู้ถือครองที่ดินในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย วิถีชีวิตของเกษตรกรผู้ปลูกแห้วในตำบลวังยาง อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี การศึกษาสูตรที่เหมาะสมในการปรับปรุงคุณภาพของดินสำหรับปลูกพืชไร่ พืชสวน สำหรับเกษตรกรในเขตตำบลทุ่งทราย อำเภอทรายทองวัฒนา จังหวัดกำแพงเพชร คุณภาพซาก คุณภาพเนื้อ และผลตอบแทนทางเศรษฐกิจของโคนมคัดทิ้ง การศึกษาเครื่องหมายโมเลกุลในตำแหน่ง ITS, rbcL, และ trnT-F เพื่อการตรวจพิสูจน์พืชกระท่อมในงานทางนิติวิทยาศาสตร์
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก