สืบค้นงานวิจัย
การใช้เกษตรดีที่เหมาะสม (GAP) ในการผลิตกล้วยไม้ตัดดอกสกุลหวายของเกษตรกรในจังหวัดภาคตะวันตก
ไพสิฐ เกตุสถิตย์ - กรมส่งเสริมการเกษตร
ชื่อเรื่อง: การใช้เกษตรดีที่เหมาะสม (GAP) ในการผลิตกล้วยไม้ตัดดอกสกุลหวายของเกษตรกรในจังหวัดภาคตะวันตก
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ไพสิฐ เกตุสถิตย์
บทคัดย่อ: การวิจัย เรื่อง การใช้เกษตรดีที่เหมาะสมในการผลิตกล้วยไม้ตัดดอกสกุลหวายของเกษตรกรในจังหวัดภาคตะวันตก มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาลักษณะพื้นฐานทางเศรษฐกิจ และสังคมบางประการของเกษตรกรในจังหวัดภาคตะวันตก ศึกษาการใช้เกษตรดีที่เหมาะสม (GAP) ในการผลิตกล้วยไม้ตัดดอกสกุลหวาย และข้อคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะของเกษตรกรในจังหวัดภาคตะวันตก จำนวน 4 จังหวัด 16 อำเภอ ใช้แบบสัมภาษณ์เก็บข้อมูล จากกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 117 ราย และวิเคราะห์ข้อมูลที่รวบรวมได้ด้วยค่าเฉลี่ยและร้อยละ โดยใช้โปรแกรมสถิติสำเร็จรูปเพื่อการวิจัยทางสังคมศาสตร์ (SPSS) ผลการศึกษาพบว่า เกษตรกรชาวสวนกล้วยไม้ส่วนใหญ่ จำนวน ร้อยละ 76.9 เป็นเพศชาย ร้อยละ 48.7 มีอายุระหว่าง 36-50 ปี ร้อยละ 53.8 จบการศึกษาระดับ ป.4-ป.6 ร้อยละ 78.6 มีสมาชิกในครอบครัว 1-5 คน ร้อยละ 91.5 ใช้แรงงานในครอบครัว และร้อยละ 88.0 จ้างแรงงานจากภายนอก ร้อยละ 32.5 มีประสบการณ์ในการปลูกกล้วยไม้ 6-10 ปี และร้อยละ 56.4 เป็นเกษตรกรรายย่อยที่มีพื้นที่ปลูกกล้วยไม้ตัดดอกสกุลหวาย 1-10 ไร่ ซึ่งร้อยละ 57.3 ปลูกพันธุ์บอมโจแดงเป็นหลัก ในปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2547) ร้อยละ 82.1 เกษตรกรจะมีพื้นที่ปลูกเท่าเดิม ร้อยละ 52.1 ทำสวนกล้วยไม้โดยใช้ทุนตัวเองและเงินกู้ ร้อยละ 53.8 ใช้แหล่งเงินกู้จาก ธ.ก.ส. เป็นหลัก ร้อยละ 48.7 เกษตรกรสามารถขายดอกกล้วยไม้ได้ในราคาสูงสุด 7-8 บาท ต่อช่อ และร้อยละ 77.0 ขายได้ราคาต่ำสุดอยู่ระหว่าง 0.25-0.50 บาทต่อช่อ ร้อยละ 40.3 รายได้ส่วนใหญ่ได้จากการปลูกกล้วยไม้เป็นหลัก คิดเป็น 91-100 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ของครอบครัว ร้อยละ 52.1 ได้รับความรู้เกี่ยวกับการปลูกเลี้ยงกล้วยไม้จากเพื่อนบ้านและญาติพี่น้อง ร้อยละ 59.8 มีประสบการณ์ในการฝึกอบรม ปีละ 1-3 ครั้ง ร้อยละ 47.0 เคยอบรมจากศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดสมุทรสาคร (พืชสวน) และร้อยละ 61.5 เคยได้รับการฝึกอบรมหลักสูตร GAP กล้วยไม้ ซึ่งร้อยละ 29.9 อบรมจากศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดสมุทรสาคร (พืชสวน) ส่วนการใช้เกษตรดีที่เหมาะสมของเกษตรกรจากผลการวิจัย พบว่าเกษตรกรใช้หรือปฏิบัติตามในด้านการคัดเลือกแหล่งปลูก โดยร้อยละ 94.0 ให้ความสำคัญในเรื่องการคมนาคมสะดวกมากที่สุด ร้อยละ 98.3 ในด้านการสร้างโรงเรือนจะปฏิบัติตามในด้านการใช้ตาข่ายพรางแสง ร้อยละ 91.5 ในด้านการคัดเลือกพันธุ์เกษตรกรปฏิบัติตามในเรื่องของการคัดเลือกพันธุ์ที่ตรงตามความต้องการของตลาดเป็นหลัก ร้อยละ 88.9 ในการปลูกจะปลูกด้วยกาบมะพร้าวเรือใบ ร้อยละ 91.5 การให้ปุ๋ยจะให้ทุก ๆ 7 วัน และร้อยละ 96.6 การให้น้ำเกษตรกรทุกสวนจะต้องมีแหล่งน้ำ ร้อยละ 87.2 ถ้าฝนตกลดการให้น้ำ 1-2 วัน ร้อยละ 86.3 มีการกำหนดการให้น้ำ วันละ 1-2 ครั้ง และช่วงเวลาการให้น้ำ 06.00-09.00 น. และร้อยละ 80.3 มีการสร้างบ่อเก็บกักน้ำไว้ ตามลำดับ ในด้านการป้องกันกำจัดโรคพืชเกษตรกรส่วนมากร้อยละ 80-90 จะปฏิบัติตามในเรื่องการปลูกกล้วยไม้ไม่แน่นเกินไป การคัดเลือกพันธุ์ที่ปลอดโรค การใช้สารเคมีตามคำแนะนำค่อนข้างสูง แต่มีเพียงร้อยละ 34.2 - 40.2 ปฏิบัติตามในการหยุดใช้สารเคมีก่อนการเก็บเกี่ยว ในการป้องกันกำจัดแมลง ร้อยละ 70-80 เกษตรกรใช้สารเคมีตามคำแนะนำ แต่มีเพียงร้อยละ 40-45 ที่ปฏิบัติตามในด้านการหยุดใช้สารเคมีก่อนการเก็บเกี่ยวตาม GAP ในส่วนวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว เกษตรกรส่วนใหญ่ร้อยละ 89.7 ใช้กรรไกรตัดดอกกล้วยไม้ ร้อยละ 87.2 ตัดดอกกล้วยไม้ตอนเช้าและร้อยละ 67.5 ตัดหลังการให้ปุ๋ยแล้ว 2-3 วัน ตามลำดับ เกษตรกรส่วนใหญ่ร้อยละ 84.4 มีการคัดเกรดผลผลิต ร้อยละ 52.8 เกษตรกรมีการบันทึกข้อมูล ส่วนใหญ่ร้อยละ 71.8 จะมีการบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับวันฉีดพ่นสารเคมี และร้อยละ 66.7 บันทึกชนิดและการใช้สารเคมีเป็นหลัก ตามลำดับ นอกจากนี้ในส่วนของข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของเกษตรกรเกี่ยวกับการใช้ GAP มีเกษตรกรร้อยละ 3.06 ให้ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะซึ่งนับว่าน้อยมาก ซึ่งร้อยละ 6.8 เกษตรกรส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการกำหนดให้ใช้ GAP กล้วยไม้ เพราะจะทำให้ผลผลิตกล้วยไม้มีมาตรฐาน คุณภาพตามสุขอนามัยเป็นที่ต้องการของต่างประเทศ ขายได้ราคาสูง ครองตลาดและต่อสู้กับตลาด ต่างประเทศได้ ส่วนที่เหลือร้อยละ 5.1 ให้ข้อเสนอแนะว่า GAP กล้วยไม้เป็นหลักการที่ดีแต่ต้อง มีการปรับปรุง ร้อยละ 0.9 มีข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะอื่น ๆ เช่นปุ๋ยและสารเคมีราคาแพง และควรส่งเสริมให้มีการรวมกลุ่ม ตามลำดับ
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมส่งเสริมการเกษตร
คำสำคัญ: ภาคตะวันตก
คำสำคัญ (EN): GAP
หมวดหมู่:
  1. TARR::พืช::ไม้ดอกและไม้ประดับ::กล้วยไม้
  2. 238
เจ้าของลิขสิทธิ์: กรมส่งเสริมการเกษตร
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

ไพสิฐ เกตุสถิตย์. "การใช้เกษตรดีที่เหมาะสม (GAP) ในการผลิตกล้วยไม้ตัดดอกสกุลหวายของเกษตรกรในจังหวัดภาคตะวันตก". กรมส่งเสริมการเกษตร. 2548

ไพสิฐ เกตุสถิตย์. "การใช้เกษตรดีที่เหมาะสม (GAP) ในการผลิตกล้วยไม้ตัดดอกสกุลหวายของเกษตรกรในจังหวัดภาคตะวันตก". กรมส่งเสริมการเกษตร. 2548. Print.



TARR Wordcloud:
การใช้เกษตรดีที่เหมาะสม (GAP) ในการผลิตกล้วยไม้ตัดดอกสกุลหวายของเกษตรกรในจังหวัดภาคตะวันตก
ไพสิฐ เกตุสถิตย์
กรมส่งเสริมการเกษตร
2548
เปรียบเทียบเกษตรดีที่เหมาะสม(ส้มโอ)กับการผลิตส้มโอของเกษตรกรในภาคตะวันตก ความรู้และทัศนคติของเกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ ปี 2548 ในภาคตะวันตก ที่มีต่อการผลิตตามระบบเกษตรอินทรีย์ การเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานของกลุ่มยุวเกษตรกรดีเด่นในภาคตะวันตก ระหว่างปี พ.ศ.2529-2531 การยอมรับเทคโนโลยีของเกษตรกรในโครงการส่งเสริมการถ่ายทอดเทคโนโลยีการอารักขาพืชตามระบบโรงเรียนเกษตรกรข้าวในพระราชดำริในภาคตะวันตก ปี 2546 สภาพการผลิตลำไยของเกษตรกรที่เข้าร่วมระบบการผลิตตามการเกษตรดีที่เหมาะสม (GAP) ของเกษตรกรในจังหวัดจันทบุรี การวิเคราะห์ชนิดของเม็ดสีแอนโทไซยานิน ในกล้วยไม้ป่า และกล้วยไม้ตัดดอกของไทย เพื่อการปรับปรุงพันธุ์ ศึกษาการใช้เทคโนโลยีการผลิตมะม่วงเพื่อการส่งออกของเกษตรกรภาคตะวันออก การใช้สารเคมีควบคุมศัตรูมะม่วงในสวนของเกษตรกรภาคตะวันตก การศึกษาการบังคับให้สับปะรดออกดอกของเกษตรกรในภาคตะวันตก ศึกษาวิธีการเพิ่มผลผลิตกล้วยไม้สกุลหวายในช่วงฤดูร้อน
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair