สืบค้นงานวิจัย
การพัฒนารูปแบบการเลี้ยงปลานวลจันทร์ทะเล (Chanos chanos Forsskal, 1775) ในบ่อดินสู่เชิงพาณิชย์
ไม่ปรากฎชื่อหัวหน้าโครงการ - สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
ชื่อเรื่อง: การพัฒนารูปแบบการเลี้ยงปลานวลจันทร์ทะเล (Chanos chanos Forsskal, 1775) ในบ่อดินสู่เชิงพาณิชย์
ชื่อเรื่อง (EN): Development of cultured of Milkfish (Chanos chanos Forsskal, 1775) in earthen pond for commercial
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ไม่ปรากฎชื่อหัวหน้าโครงการ
บทคัดย่อ: สำหรับคุณภาพน้ำตลอดการทดลอง จากผลการทดลองแสดงให้เห็นว่ามีบางช่วงของการทดลองมี ค่าออกซิเจนละลายน้ำต่ำกว่า 4 ppm และบางช่วงต่ำกว่า 3 ppm โดยจะพบค่าออกซิเจนต่ำกว่าในช่วงเช้า ตลอดการทคลองโดยเฉพาะในช่วงท้ายของการเพาะเลี้ยงตั้งแต่วันที่ 200-270 ซึ่งโดยปกติแล้วระดับ ออกชิเจนที่เหมาะสมต่อการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควรจะมีค่าออกซิเจนละลายน้ำสูงกว่า 4 ppm ส่วนค่าความ เต็มที่มีคำสูงขึ้นตอออดระขะการเลี้ยงที่เพิ่มขึ้นจาก 10 ppt ถึง 36 ppt และอุณหภูมิตลอดการทดลอง อยู่ในช่วง ที่เหมาะสมสำหรับการเลี้ยงปลานวลจันทร์ทะเล ในขณะที่ค่าพีเอชของน้ำค่อนข้างสูงกว่าระดับที่เหมาะสม ในช่วง 50 แรกของการเลี้ยง (Pickering et al, 2012) เมื่อพิจารณาถึงความหนาแน่นในการเพาะเลี้ยงปลานวลจันทร์ ซึ่งโดยทั่วไปมีการเลี้ยงหลาย รูปแบบ ซึ่งความหนาแน่นที่ใช้เลี้ยงขึ้นอยู่กับระบบและรูปแบบบการเลี้ยง ในการศึกษาครั้งนี้ใช้ระบบการเลี้ยงในบ่อดินขนาดหนึ่งไร่และมีการเลี้ยงที่ความหนาแน่น 4800 ตัวต่อไร่ และได้ผลผลิตเฉลี่ยที่ 2088.83 กิโลกรัมต่อไร่ ที่ระชะเวลาการเลี้ยง 9 เดือน เมื่อเปรียบเทียบกับการเลี้ยงในลักษณะอื่น เช่น การเลี้ยงแบบกั้น ดอกที่ประเทศฟิลิปปินส์ที่ที่ความหนาแน่น 4800-6400 ตัวต่อไร่ ให้ผลผลิต 320-10000กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี และการเลี้ยงแบบกึ่งหนาแบ่นที่ประเทศได้หวั่นที่ความหนาแม่นมากกว่า 400 ตัวต่อไร่ ให้ผลผลิด 1280- 1920 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี (Matinez et al....2006) แสดงให้เห็นว่าการเลี้ยงปลานวลจันทร์ในการศึกษาครั้งนี้ ให้ผลผลิตค่อนข้างดีเมื่อเปรียบเทียบกับราชงานการวิจัยอื่นๆข้างดันที่กล่าวมา นอกจากนี้โดยทั่วไปการ เพาะเลี้ยงปลานวลจันทร์ทะเลจะอยู่ที่ 5-8 เดือนขึ้นอยู่กับขนาดที่คลาดมีความต้องการ โดยการศึกษาการ เลี้ยงปลานวลจันทร์ในครั้งนี้ได้พิจารณาสามปัจจัยหลักๆคือ ระดับโปรตีนที่ใช้ใช้ในการเลี้ยง ระยะเวลาการ เลี้ยงและความเต็มที่ใช้ในการเลี้ยง เมื่อพิจารณาถึงระดับโปรตีนจากผลการทดลองที่ระยะหกเดือนพบว่า การใช้อาหารที่ระดับไปรคืน 25 เปอร์เซ็น ให้ผลการเจริญเติบโตที่ค่อนข้างเร็วกว่าการใช้ระดับอื่นอื่นๆ ซึ่งหาก พิจารณาแล้วอาจจะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเลี้ยงถึงระชะเวลาเก้าเดือน อย่างไรก็ตามอีกประเด็นหนึ่งที่มี ความสำคัญคือ น้ำหนักเริ่มต้นของปลาที่เริ่มการเลี้ยง โดยทั่วไปมีน้ำหนักเริ่มต้นของการเลี้ยงที่ประมาณ 30-50 กรัม (Henrylito, 2010) ในขณะที่การเลี้ยงในการศึกษาในครั้งที่เริ่มต้นที่น้ำหนัก ก 0.08.09 ซึ่งมีขนาด ที่เล็กมาก ทำให้ยากต่อการจัดการ โดยเฉพาะการให้อาหารในระดับที่เหมาะสมสามาถควบคุมได้ยาก และ ส่งผลต่อการเจริญเติบโตในช่วงแรกของการเจริญเติบโต นอกจากนี้ปัจจัยด้านความเค็มที่วางแผน เปรียบเทียบสองพื้นที่แต่เนื่องจากประสบผลส้มเหลวจากการทดลองที่พื้นที่ของมหาวิชาลัยเกษตรศาสตร์จึง ไม่สามารถทำการเปรียบเทียบได้ แต่อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาจาการเลี้ยงในพื้นที่การเลี้ยงของบริษัทไทยลักซ์ฯ ซึ่งปล่อยให้ความเต็มเพิ่มขึ้นตามธรรมชาติโดยไม่มีการปรับ โดยในช่วงแรกที่ระดับ 10 ppt จะเห็นได้ ว่าอัตราการเจริญเติบโตค่อนข้างช้า และสังเกตุได้จากค่าอัตราการแลกเนื้อในช่วงเริ่มแรกจะอยู่ที่ 2-3 ซึ่งมีค่า สูงมากแต่อย่างไรก็ตามหลังจาก 60 วัน ปลามีการเจริญเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับความเต็มที่เพิ่ม สูงขึ้นตลอดช่วงการเลี้ยงซึ่งส่งผลดีต่ออัตราการเจริญเติบ โตและอัตราการแลกเนื้อ ซึ่งสอดดล้องกับงานวิจัย ของ Martinez et al., 2006 เปรียบเทียบการเลี้ยงปลานวลจันทร์ที่ความเค็มสามระดับคือ 0, 16 และ 20 20 pt พบว่าที่ระดับความเค็ม 20 ppt ให้ผลค่าอัตราการแลกเนื้อดีที่สุด สำหรับตันทุนกรเลี้ยงปลานวดจันทร์ทะเถในการศึกษาครั้งนี้ พบวันทุนทุนทุกการสูงกาะ เป็น เปอร์เซ็นต์เมื่อเปรีขบเทียบกับการเลี้ยงที่ประเทศฟิลิปปินส์ต้นทุนค่าอาหารจะอยู่ที่ประมาณอย่างน้อย 50 เปอร์เซ็นต์ (Henrylio, 2010) ส่วนราคาขายปลานวลจันทร์ทะเลในครั้งนี้อยู่ที่ระหว่าง 25-49 บาท เมื่อสิ้นสุด การทคลองพบว่าขาดทุนจากการเลี้ยงในครั้งนี้ราวสี่หมื่นบาท แต่อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณารายบ่อกลับ พบว่า ปลาในชุดการทดลองที่ 3 ที่ให้อาหารที่ระดับ 25 เปอร์เซ็นต์มีแนวโน้มการเจริญเติบโตที่ดีกว่า และ เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบต้นทุนกับการขายมีการขาดทุนน้อยกว่า จากข้อมูลการศึกษาข้างต้น หากทำการศึกษาหรือทำการเลี้ยงในครั้งต่อไปควรจะเริ่มการเลี้ยงปลาโดยใช้ลูกปลาเริ่มต้นที่น้ำหนักที่เหมาะสม เพื่อลคระขะเวลาและดันทุนการเลี้ยงในระยะเริ่มดิ้น อาจจะสามารถทำให้มีกำไรจากการเลี้ยงเพิ่มขึ้มขึ้มขึ้น นอกจากนี้ข้อมูลการศึกษาข้างต้นทำให้ทราบว่าสามารถนำปลานวลจันทร์ที่มีขนาดและน้ำหนักหนักที่ระชะต่างๆ ไปแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า จะสามารถทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นบอกเหนือจากการขายปลาสดแบปกติ ทั่วไป ซึ่งก็มีหน่วยงานของรัฐที่ให้คำแนะนำ อบรมการเพิ่มมูลค่าด้วยการแปรรูปรวมไปถึงการรวมกลุ่ม เกยตรกรก็จะทำให้มีผลในต่อรองเพื่อการสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการเพาะเลี้ยงปลานวลจันทร์ทะเล ประโยชน์ที่ได้จากการศึกษาในครั้งนี้ คือ ได้เทคนิคการเลี้ยงปลานวลจันทร์ทะเลในบ่อดินให้ได้ ขนาดตามที่ตลาดต้องการ นอกจากนี้การเลือกใช้ระดับไปรคืนในอาหารที่แตกต่างกันมีแนวโน้มส่ง ผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและต้นทุนการเลี้ยงปลามวลจันทร์
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
คำสำคัญ: เชิงพาณิชย์
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การพัฒนารูปแบบการเลี้ยงปลานวลจันทร์ทะเล (Chanos chanos Forsskal, 1775) ในบ่อดินสู่เชิงพาณิชย์
สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
2558
การพัฒนาเทคนิคการอนุบาลลูกปลานวลจันทร์ทะเล (Chanos chanos Forsskal, 1775) เพื่อการเพิ่มผลผลิต การศึกษาการเพาะเลี้ยงปลาพลวงหินเชิงพาณิชย์ การพัฒนาต่อยอดการเพาะเลี้ยงปลิงทะเล Holothuria scabra เชิงพาณิชย์ การศึกษาการเพาะเลี้ยงปลาค้อลายซี่กรงเชิงพาณิชย์ การเลี้ยงปลิงทะเล Holothuria scabra รูปแบบต่างๆ เพื่อขยายผลสู่เกษตรกร การพัฒนาต้นแบบบ่อเลี้ยงกุ้งไร้ดินระบบปิดที่เน้นกระบวนการบำบัดไนตริฟิเคชันเพื่อลดปัญหาการขาดแคลนน้ำและลดการเกิดโรคระบาดอย่างครบวงจร การพัฒนาอาหารสำเร็จรูปสำหรับขุนเลี้ยงแม่ปูทะเล (Scylla paramamosain, Estampador, 1949) ให้มีไข่นอกกระดอง การพัฒนาการเพาะพันธุ์ปลาซิวกระโดงแดงด้วยฮอร์โมนสังเคราะห์ ในระบบน้ำหมุนเวียนแบบปิดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเชิงพาณิชย์ การประเมินประสิทธิภาพกุ้งขาวปรับปรุงพันธุ์ในโรงเพาะฟักและฟาร์มเลี้ยงกุ้งเชิงพาณิชย์ของประเทศไทย การพัฒนาคุณภาพและความปลอดภัยของปูม้าเพื่อสู่มาตรฐานสินค้าเกษตร
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก