สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาระดับความอุดมสมบูรณ์ของดินที่ปลูกกระเจี๊ยบเขียวธาตุอาหารในใบกระเจี๊ยบเขียวและจัดการธาตุอาหารและน้ำในการผลิตกระเจี๊ยบเขียว
ศุภธิดา อ่ำทอง - มหาวิทยาลัยแม่โจ้
ชื่อเรื่อง: การศึกษาระดับความอุดมสมบูรณ์ของดินที่ปลูกกระเจี๊ยบเขียวธาตุอาหารในใบกระเจี๊ยบเขียวและจัดการธาตุอาหารและน้ำในการผลิตกระเจี๊ยบเขียว
ชื่อเรื่อง (EN): Study on Soil Fertility, Nutrient Content in Leaf and Management of Plant Nutrition and Water for Production of Okra (Abelmoschus esculentus L. Moench)
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ศุภธิดา อ่ำทอง
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Suphathida Aumtong
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: กระเจี๊ยบเขียวเป็นพืชที่คุณค่าทางอาหารและเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ จากการศึกษา ครั้งนี้พบว่าดินที่ใช้ปลูกกระเจี๊ยบเขียวมีระดับความสมบูรณ์ต่ำไปจนสูง ขึ้นอยู่กับวัตถุต้นกำเนิดดิน การใช้ประวัติการใช้ที่ดิน คำแนะนำในการจัดการเรื่องธาตุอาหารและน้ำที่มีอยู่ในปัจจุบันเป็นอย่างรวมๆ หรือตามตามคำแนะนำของบริษัทที่ส่งเสริมให้ปลูก หรือตามความเห็นของเกษตรกรเอง มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ควรจะมีการศึกษาในเรื่องการจัดการทางด้านธาตุอาหาร และน้ำ ในเรื่องการใส่ปุ๋ย N ให้กับกระเจี๊ยบเขียวในดินช่วง DH ประมาณ 6 น่าจะเป็นสิ่งที่น่า จะนำไปปฏิบัติเพราะมีส่งผลต่อการเจริญเติบโต และผลผลิตของกระเจี๊ยบเชียวดีที่สุด อิทธิพลของสารควบคุมการเจริญเติบโตต่อการดูจใช้ธาตุอาหารการเจริญเติบโต และผลผลิตของกระเจี๊ยบเขียว พบว่า กระเจี๊ยบเขียว 2 สายพันธ์ (พันธ์สูงและเตี้ย) ที่มีการฉีดสารและไม่ฉีดสารควบคุมพบว่าการฉีดสารควบคุมการเจริญเติบโตที่มีต่อการเจริญเติบโต ผลผลิต และการดูดใช้ธาตุอาหารไม่มีความแตกต่างในสายพันธุ์ที่เป็นต้นเตี้ย แต่อย่างไรก็ตามพบว่าการฉีดพ่นสารควบคุมการเจริญเติบโตให้กับสายพันธุ์ที่เป็นต้นสูงมีแนวโน้มเป็นในทางบวกต่อการเจริญเติบโต ผลผลิต และการดูดใช้ธาตุอาหาร สำหรับความต้องการน้ำของกระเจี๊ยบเขียวนั้นชอบความชื้นปานกลาง แต่อย่างก็ตาม ความต้องการน้ำของกระเจี๊ยบและคุณสมบัติของดินจะต้องนำมาพิจารณาร่วมด้วย ในช่วงฤดูหนาวและร้อน ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรปล่อยให้แห้งโดยเฉพาะในช่วงออกดอก และติดผล ถ้าขาดน้ำผลผลิตจะต่ำ ฝักเล็กคดงอไม่ได้คุณภาพ ในช่วงเริ่มปลูกถึง 10 วัน ควรให้น้ำทุกวัน หลังจากนั้นอาจให้วันเว้นวัน ในการวิเคราะห์ในเตรทในตัวอย่างในส่วนต่าง ๆ ของกระเจี๊ยบเขียวนั้น จำเป็นนี้อย่างยิ่งในการที่จะต้องมีการลดสิ่งรบกวนที่จะทำให้ผลการวิเคราะห์มีความแม่นยำและถูกต้องมากที่สุด จากศึกษาครั้งพบว่าการเติม ZnSO4 ลงไปในสารละลายตัวอย่าง จะช่วยลดการรบกวนของสิ่งรบกวนต่างที่มีอยู่ในสารละลายได้ แต่อย่างอย่างก็ตาม อาจจะมีการกรองตัวอย่างที่มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ วิธีการย่อยตัวอย่างพืชแบบ H2SO4 Salicylic –H2O2-Se mixture สามารถใช้ย่อยตัว อย่างพืชเพื่อที่จะหาความเข้มชันธาตุฟอสฟอรัส ได้โดยใช้เครื่อง spectrophotometer และเครื่องวัดแบบอัตโนมัติรุ่น SKALAR (Autoanalyzer for phosphate รุ่u เครื่อง SKALAR Method) ความเข้มข้นของธาตุ N, P และ K ในส่วนของใบแก่ของค่าเฉลี่ยของความเข้มข้นของธาตุ N, P และ K ปรากฏว่า ใบแก่ของกระเจี๊ยบเชียวที่อายุต่าง ๆ โดยเฉลี่ยที่อายุ 100 วัน พบว่า ธาตุK สูงที่สุด คือ 3.26% รองลงมาคือธาตุ N และธาตุ P ซึ่งมีความข้มข้นเท่ากับ 2.69% และ 0.68% ตามลำดับ การใส่ปุ๋ยควรเลือกใส่ในจังหวะที่ตรงกับที่พืชต้องการ ในระยะแรก ๆ ของการดำรงชีพ พืชต้องการนำเอาอาหารไปช่วยเร่งการเจริญเติบโตทางใบและกิ่งก้านสาขา จึงควรใส่ปุ๋ย Nในระยะนี้ให้มาก พอกระเจี๊ยบเขียวเริ่มให้ดอกการใส่ปุ๋ย P ในปริมาณที่เพียงพอ
บทคัดย่อ (EN): Okra (Abelmoschus esculentus), one the Thailand's most valuable crops and has very high value nutrient. Study on Soil Fertility, Nutrient Content in Leaf and Management of Plant Nutrition and Water for Production of Okra is necessary especially Northern of Thailand. There is urgent need to know a process of production of okra. Soil fertility for okra plantation in Chiang mai Province indices are affected by parent material (low fertility) and applying chemical fertiliizer at long-term (high fertility). Also soil fertility affected by land use history, recommendation from supervisor of government section and the expertise from export company. Applying nitrogen fertilizer at pH about 6 may be the most appropriated method for growth and yield. From the effect of growth regulator (Chlormequat Chloride, CCC) on nutrient uptake, growth and yield of okra, and could provided two group are high and short stem varieties. And found that for the short stem variety (OK72H00428) did not respond to Chlormequat Chloride, but the high stem variety (HIT#9701) was responded to Criormequat Chloride such as growth, yield, but not clear for the nutrient uptake. The water requirement of Okra, and found that the moderate moisture of soil is optimum range of soil moisture for Okra's growth. However, evaporation and soil properties should be considered with together. In the winter and summer season should be careful about water shortage of Okra. If Okra was water shoutage, and will be affected to yield quality and quantity. For the experiment about nitrate analysis in Okra's organ, and found that the old leave of okra were suitable for nitrate analysis. For analysis, However had so much of interference in solution .So this study found that interference can be reduced by added ZnSO4 and filtered the sample solution. The H2SO4 Salicylic – H2O2-Se mixture method can be used for be digestion solution for analysis N and P by Spectrophotometer and auto analysis (Autoanalyzer for phosphate SKALAR Method) out the effect of nutrient applying on nutrient concentration in leaf of okra found that K=3.26%, N 2.69% and P= 0.68% presumably reflecting the should apply N and P at appropriated time, while vegetative phase should apply N fertilizer, and reproductive phase should apply P fertilizer.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://webpac.library.mju.ac.th:8080/mm/fulltext/research/2549/Suphathida_Aumtong_2547/abstract.pdf
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยแม่โจ้
คำสำคัญ: วัตถุต้นกำเนิดดิน
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยแม่โจ้
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาระดับความอุดมสมบูรณ์ของดินที่ปลูกกระเจี๊ยบเขียวธาตุอาหารในใบกระเจี๊ยบเขียวและจัดการธาตุอาหารและน้ำในการผลิตกระเจี๊ยบเขียว
มหาวิทยาลัยแม่โจ้
2545
การปรับปรุงพันธุ์กระเจี๊ยบเขียว การลดต้นทุนการผลิตลำไยโดยการจัดการธาตุอาหารและวัสดุเสริมที่เหมาะสมกับดินแต่ละชนิด การศึกษาการผลิตเมล็ดพันธุ์กระเจี๊ยบเขียว การศึกษาดีเอ็นเอเครื่องหมายเพื่อปรับปรุงพันธุ์กระเจี๊ยบเขียว การศึกษาประชากรที่เหมาะสมในการปลูกกระเจี๊ยบเขียวเพื่อผลิตฝักสดสำหรับฤดูต่าง ๆ การศึกษาหาปริมาณน้ำใช้ที่เหมาะสมของกระเจี๊ยบเขียว (ปีที่ 1)  การวิเคราะห์องค์ประกอบบางชนิดในเมล็ดกระเจี๊ยบเขียว ผลของพืชแซมยางพาราต่างชนิดกันต่อปริมาณธาตุอาหารและความอุดมสมบูรณ์ของดิน การยอมรับเทคโนโลยีการผลิตกระเจี๊ยบเขียวเพื่อการส่งออกของเกษตรกรในเขตภาคเหนือตอนบน อิทธิพลของการไถกลบโสนที่มีต่อสภาวะของธาตุอาหารต่าง ๆ ในดินและผลผลิตข้าวขึ้นน้ำ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก