สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาระดับความรู้และความต้องการเข้าสู่ระบบประกันสังคมของแรงงานภาคเกษตร (9 ต.ค. 2558)
สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจการเกษตร - สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ส่วนวิจัยเศรษฐกิจครัวเรือน
ชื่อเรื่อง: การศึกษาระดับความรู้และความต้องการเข้าสู่ระบบประกันสังคมของแรงงานภาคเกษตร (9 ต.ค. 2558)
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจการเกษตร
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: การศึกษาวิจัยเรื่อง "การศึกษาระดับความรู้และความต้องการเข้าสู่ระบบประกันสังคมของแรงงาน ภาคเกษตร " มีวัตถุประสงค์คือ (1) เพื่อศึกษาระดับความรู้เกี่ยวกับพระราชบัญญัติประกันสังคม มาตรา 40 ของแรงงานภาคเกษตร (2) เพื่อศึกษา เปรียบเทียบการเข้าสู่ระบบปร ะกันสังคมกับการไม่เข้าสู่ระบบ ประกันสังคม ในการศึกษาครั้งนี้เลือกตัวอย่าง แบบเฉพาะเจาะจงจำนวน 400 ตัวอย่าง จากครัวเรือนทั้งหมด 658 408 ครัวเรือนในพื้นที่ 3 จังหวัดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา 200 ตัวอย่าง จังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดอุตร ธานีจังหวัดละ 100 ตัวอย่าง ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีแรงงานภาคเกษตรทำ ประกันสังคมกันมาก ได้เลือกพื้นที่ สำหรับด้านความรู้เกี่ยวกับพระราชบัญญัติประกันสังคม มาตรา 40 กำหนด กฎเกณฑ์การให้คะแนนคือ ให้ตอบเพียงว่า รู้ หรือ ไม่รู้ ถ้ากลุ่มตัวอย่างตอบ คำถามว่ารู้ ก็ จะได้คะแนน 1 คะแนน แต่ถ้าตอบ ไม่รู้ก็จะได้ 0 คะแนน หลังจากนั้นจะได้ทำการจัดกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามโดยแบ่งระดับ คะแนนออกเป็น 3 ช่วงคือระดับมาก ระดับปานกลางและระดับน้อย มีข้อสรุป และข้อเสนอแนะ ดังนี้ 5.1 สรุป 5.1.1 ระดับความรู้ของแรงงานภาคเกษตร แรงงานภาคเกษตรมีความรู้เกี่ยวกับการประกันสังคม ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ด้าน คือ 1) ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการประกันสังคม ประกอบด้วย (1) คุณสมบัติของผู้ประกันตนต้องมีอายุ 15-60 ปีบริบูรณ์ นอกจากนี้ยังไม่เป็นผู้ประกันตน มาตรา 33 มาตรา 39 ไม่เป็นข้าราชการหรือบุคคลที่ถูก ยกเว้นตามกฎหมายประกันสังคม บุคลพิการที่สามารถรับรู้สิทธิประกันสังคม (2) ผู้ประกันตนต้องจ่ายเงินสมทบ เป็นรายเดือนและสามารถจ่ายล่วงหน้าได้ไม่เกิน 12 เดือน (3) ผู้ประกันตนสามารถจ่ายเงินสมทบได้ที่สำนักงาน ประกันสังคมทั่วประเทศ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารสหกรณ์การเกษตรแ ละสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และ (4) การประกันสังคมเปิดโอกาสให้เกษตรกรสมัครเป็นผู้ประกันตนได้ จากที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ภาพรวมระดับความรู้ ทั่วไปเกี่ยวกับการประกันสังคม ของผู้ที่รู้ส่วนใหญ่ อยู่ใน ระดับมาก คิดเป็นร้อยละ 70 2) ความรู้เกี่ยวกับทางเลือ กประกันสังคมประกอบด้วย (1) ประกันสังคมให้ความคุ้มครองสิทธิ ประโยชน์ 5 ทางเลือกที่แตกต่างกัน (2) ทางเลือกที่ 1 จ่าย 100 บาทต่อเดือน (จ่ายเอง 70 บาท รัฐสนับสนุน 30 บาท ได้รับการคุ้มครอง 3 กรณี คือ ประสบอันตราย /เจ็บป่วย ทพพลภาพ และตาย (3) ทางเลือกที่ 2 จ่าย 150 บาทต่อเดือน (จ่ายเอง 100 บาท รัฐสนับสนุน 50 บาท) ได้รับการคุ้มครอง 4 กรณี คือ ประสบอันตราย/ เจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย บำเหน็จชราภาพ (4) ทางเลือกที่ 3 จ่าย 200 บาทต่อเดือน (จ่ายเอง 100 บาท รัฐสนับสนุน 100 บาท) ได้รับการคุ้มครอง กรณีเดียวคือชราภาพ (เงินบำนาญ) (5) สำหรับผู้สมัครที่มีอายุเกิน 65 ปี สามารถสมัครเป็นผู้ประกันตน ได้เฉพาะทางเลือกที่ 3 เท่านั้น (6) ทางเลือกที่ 4 จ่าย 300 บาทต่อเดือน (จ่ายเอง 170 บาท รัฐสนับสนุน 130 บาท ) ได้รับการคุ้มครอง 4 กรณี คือ ประสบอันตราย /เจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย และชราภาพ (เงินบำนาญ) และ (7) ทางเลือกที่ 5 จ่าย 350 บาทต่อเดือน (จ่ายเอง 200 บาท รัฐสนับสนุน 150 บาท) ได้รับการคุ้มครอง 5 กรณี คือ ประสบอันตราย /เจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย ชราภาพ (เงินบำเหน็จ) ชราภาพ (เงินบำนาญ) จากที่กล่าวมาแล้วข้างตัน ภาพรวมระดับความรู้เกี่ยวกับทางเลือกประกันสังคม ของผู้ที่รู้อยู่ในระดับ น้อย และมากใกล้เคียงกัน คิดเป็นร้อยละ 45.07 และ 43.66 ตามลำดับ 3) ความรู้เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์และเงื่อนไขการประกันสังคม ประกอบด้วย (1) สิทธิประโยชน์ที่จะ ได้รับขึ้นอยู่กับการจ่ายเงินสมทบในแต่ละเดือน (2) สิทธิประโยชน์ที่ได้จากการประสบอันตราย /เจ็บป่วย คือ ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้วันละ 200 บาท (3) เงื่อนไขกรณีประสบอันตราย /เจ็บป่วย คือจ่ายเงินสมทบ 3 ใน 4 เดือน ก่อนประสบอันตราย /เจ็บป่วย รักษาตัวโรงพยาบาล ! วันขึ้นไป ปีละไม่เกิน 30 วัน (4) สิทธิ ประโยชน์จากกรณีทุ พพลภาพ คือได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ตั้งแต่ 500-1,000 บาท ต่อเดือน เป็น ระยะเวลา 15 ปี (5) เงื่อนไขกรณีทุพพลภาพ คือจ่ายเงินสมทบ 6 ใน 10 เดือน ก่อนทุพพลภาพ รับ 500 บาท ต่อเดือน (6) สิทธิประโยชน์ที่ได้รับกรณีตาย คือได้รับเงินค่าทำศพ 20,000 บาท (7) เงื่อนไขกร ณีตาย อาทิ จ่ายเงินสมทบ คือ จ่ายเงินสมทบ 6 ใน 12 เดือนก่อนตาย (8) สิทธิประโยชน์ กรณีชราภาพ (เงินบำเหน็จ) คือ ได้รับเงินบำเหน็จพร้อมดอกผลคืนทั้งหมด (9) เงื่อนไขชราภาพ (เงินบำเหน็จ) อาทิ อายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ และ แจ้งสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน (10) สิทธิประโยชน์ กรณีชราภาพ (เงินบำนาญ) คือได้รับเงินบำนาญ รายเดือน ขั้นต่ำ 600 บาทต่อเดือน ตลอดชีวิต (11) เงื่อนไข กรณีชราภาพ (เงินบำนาญ คือต้องจ่ายเงินสมทบไม่น้อยกว่า 420 เดือน และอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ และแจ้งสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน (12) หากส่งเงินสมทบต่อเนื่องทุก เดือนจะได้รับเงินกรณีชราภาพขั้นต่ำ (ยังไม่รวมดอกผล ) คือ 600 บาทต่อปี (13) เงินสมทบในแต่ละปีใช้ ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาโดยใช้ใบเสร็จรับเงินที่ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบเป็นหลักฐาน (14) กรณี ผู้ประกันตนถึงแก่ความตายผู้มีสิทธิรับค่าทำศพคือ สามี ภริยา บิดา มา รดา หรือบุตร ที่มีหลักฐานแสดงว่าเป็น ผู้จัดการศพของผู้ประกันตน (15) กรณีผู้ประกันตนถึงแก่ความตาย ผู้มีสิทธิรับเงินบำเหน็จได้แก่ สามี ภริยา บิดา มารดา หรือบุตรของผู้ประกันตนในจำนวนที่เท่ากัน จากที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ภาพรวมระดับความรู้เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์และเงื่อนไขในการประกันสังคมของผู้ที่รู้ อยู่ในระดับน้อย คิดเป็นร้อยละ 40.50 สำหรับเหตุผลที่แรงานภาคเกษตรต้องการสมัครเป็นผู้ประกันตน เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย มีดังนี้คือ (1) สิทธิประโยชน์ที่ได้รับมีผลต่อตนเองและครอบครัว จำ นวน 149 ราย คิดเป็ นร้อยละ 73.40 (2) มีความเชื่อมั่นในระบบความคุ้มครองประกันสังคมว่ามีความมั่นคง จำนวน 20 ราย คิดเป็นร้อยละ 9.85 (3) มีปัญหาด้านสุขภาพและมีความเสี่ยงสูง จำนวน 12 ราย คิดเป็นร้อยละ 5.91 (4) มีความสามารถในการ จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม จำนวน 9 ราย คิดเป็นร้อยละ 4.43 (5) ไม่มีสิทธิ์รักษาพยาบาลที่ไหน เลย จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 2.96 (6) ต้องการเก็บเงินไว้ใช้ในยามชรา จำนวน 4 ราย คิดเป็นร้อยละ 1.97 และ (7 ไม่พอใจในสิทธิพยาบาลหรือความคุ้มครองที่มีอยู่เดิม จำนวน 3 ราย คิดเป็นร้อยละ 1.4
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://www.oae.go.th/assets/portals/1/files/socialsecuritysystemofhousehold.pdf
เผยแพร่โดย: สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ส่วนวิจัยเศรษฐกิจครัวเรือน
คำสำคัญ: สิทธิประโยชน์ประกันสังคม
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาระดับความรู้และความต้องการเข้าสู่ระบบประกันสังคมของแรงงานภาคเกษตร (9 ต.ค. 2558)
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ส่วนวิจัยเศรษฐกิจครัวเรือน
2558
ความต้องการในการพัฒนาทักษะความรู้และความชำนาญของข้าราชการในสังกัดสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดชลบุรี ความต้องการความรู้ด้านการเกษตรของครูสอนงานเกษตร ระดับประถมศึกษาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ความรู้ของนักวิชาการส่งเสริมการเกษตรระดับอำเภอต่อวิสาหกิจชุมชน 5 ความท้าทายเกี่ยวกับการจัดการความรู้ในองค์กรขนาดใหญ่ การบริหารจัดการแรงงานภาคการเกษตรตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงในชุมชน จังหวัดเชียงใหม่ ความต้องการรับการนิเทศงานส่งเสริมการเกษตรของเกษตรตำบลในภาคใต้ ความต้องการรับการนิเทศงานส่งเสริมการเกษตรของเกษตรอำเภอในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ความต้องการในการทำงานวิจัยของเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร การศึกษาความต้องการในการฝึกอบรมของเจ้าหน้าที่การส่งเสริมการเกษตรระดับอำเภอในภาคตะวันออก ความต้องการฝึกอบรมของนักวิชาการส่งเสริมการเกษตรระดับอำเภอในภาคตะวันออก
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก